ราคาทองคำในเช้าวันนี้ ขึ้นมาทรงตัวอยู่บริเวณ $1,850 ปรับตัวขึ้นต่อเล็กน้อยจากวันศุกร์ที่่ผ่านมา ถือว่าเป็นสัปดาห์ที่ราคาสามารถปรับขึ้นได้ครั้งแรกนับตั้งแต่กลางเดือนเมษายน เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงจากระดับสูงสุดในรอบ 2 ทศวรรษ ท่ามกลางความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่ทรงผลให้สินทรัพย์อย่างทองคำเริ่มกลับมาได้รับความสนใจเล็กน้อย
จากการที่สัปดาห์ที่ผ่านมาราคาทองคำพุ่งขึ้นประมาณ 1.9% Stephen Innes หุ้นส่วนผู้จัดการของ SPI Asset Management กล่าวว่า “ความกลัวว่าเศรษฐกิจถดถอยกำลังเปิดทางให้เกิดความกลัวในการเติบโตของสหรัฐ และสิ่งนี้ก็กำลังช่วยทองคำ” แต่เขาก็กล่าวด้วยว่าเส้นทางขึ้นอัตราดอกเบี้ยเชิงรุกของธนาคารกลางสหรัฐและการเข้มงวดเชิงปริมาณจะยังคงกดดันทองคำอย่างมาก เนื่องจากทองคำไม่มีดอกเบี้ย จึงอาจมีความน่าสนใจน้อยลงสำหรับนักลงทุนเมื่อมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม มันถูกมองว่าเป็นที่เก็บมูลค่าที่ปลอดภัยในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจและสถานการณ์ความไม่สงบทางภูมิศาสตร์
จากผลสำรวจของนักเศรษฐศาสตร์ของรอยเตอร์พบว่า ธนาคารกลางสหรัฐจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยให้สูงขึ้นภายในสิ้นปีนี้ มากกว่าที่คาดการณ์ไว้เมื่อเดือนที่แล้ว โดยยังคงรักษาความเสี่ยงที่มีนัยสำคัญอยู่แล้วจากภาวะถดถอย “มันเป็นสัปดาห์ที่น่าตื่นเต้น หลังจากที่ราคาต่ำกว่า $1,800 ซึ่งได้รับแรงกดดันจากผลตอบแทนที่แท้จริงที่สูงขึ้น มันเปิดประตูให้ผู้ซื้อเชิงกลยุทธ์ระยะยาวก้าวไปข้างหน้ากับแนวโน้มขาลงทางเทคนิค” Innes กล่าว เป็นการสะท้อนถึงอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้น
SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุนซื้อขายแลกเปลี่ยนที่ได้รับการสนับสนุนจากทองคำที่ใหญ่ที่สุดในโลก กล่าวว่าการถือครองเพิ่มขึ้น 0.66% เป็น 1,056.18 ตันในวันพฤหัสบดี หลังจากการขาดทุนต่อเนื่องครั้งล่าสุด
การฟื้นตัวของทองคำในสัปดาห์ที่ผ่านมาเกิดจากความเชื่อมั่นของตลาดที่เปลี่ยนความสนใจจากท่าทีล่าสุดและในอนาคตของ FED ในเรื่องที่เกี่ยวกับนโยบายการเงินที่เข้มงวดขึ้น ซึ่งพวกเขาได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครึ่งเปอร์เซ็นต์ในการประชุม FOMC ในเดือนนี้ ตามการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่พวกเขาประกาศใช้เมื่อเดือนมีนาคม แถลงการณ์ล่าสุดโดยประธาน Jerome Powell ระบุว่าพวกเขาจะก้าวร้าวมากขึ้น เมื่อเขากล่าวว่า เขาเปิดให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้มากกว่าเป้าหมายที่ธนาคารกลางสหรัฐวางไว้ และสำหรับเป้าหมายที่จะทำให้เป็นมาตรฐานจะตั้งไว้ที่ประมาณ 2% สิ่งนี้ถูกตีความว่าเป็นนโยบายการเงินที่ก้าวร้าวมากขึ้นในความพยายามที่จะหยุดเงินเฟ้อไม่ให้สูงขึ้น
แถลงการณ์จากธนาคารกลางสหรัฐในช่วงสองสัปดาห์ก่อนหน้านี้ บ่งชี้ว่าพวกเขาเชื่อว่าแรงกดดันด้านเงินเฟ้อพุ่งถึงจุดสูงสุดแล้ว และใช้ตัวเลขล่าสุดจากดัชนีเงินเฟ้อ CPI ของเดือนที่แล้วเป็นการพิสูจน์สมมติฐานดังกล่าว ดัชนี CPI อยู่ที่ 8.3% ในเดือนเมษายน ซึ่งต่ำกว่าอัตรา 8.5% ที่เกิดขึ้นในเดือนมีนาคม
การที่นโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐเข้มงวดขึ้น ซึ่งส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ถูกเทขายออกอย่างมหาศาล ซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตลอดตั้งแต่ช่วงปลายเดือนที่แล้ว ทำให้ดัชนีหลักทั้งสาม ไม่ว่าจะเป็น Dow jones, NASDAQ และ S&P500 ปรับตัวลดลงคต่อเนื่อง โดยราคาลดลงติดต่อกันเกือบเจ็ดสัปดาห์
อย่างไรก็ตาม ทองคำก็ได้รับผลกระทบดังกล่าว โดยได้โดนขายออกไปในช่วงที่ผ่านมาเกือบสี่สัปดาห์ติดต่อกัน โดยที่ราคาหลุดไปถึงช่วง $1,787 โดยสาเหตุอิงจากการคาดการณ์ว่าจะมีอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นมากเพื่อป้องกันภาวะเงินเฟ้อ อย่างไรก็ตาม ในสัปดาห์ที่ผ่านมา เราได้เห็นการกลับตัวที่ชัดเจนในความเชื่อมั่นของตลาด เนื่องจากขณะนี้นักลงทุนเริ่มให้ความสนใจอย่างมากกับความชัดเจนและความเป็นจริงที่อัตราเงินเฟ้อยังไม่ถึงจุดสูงสุด และมีแนวโน้มมากที่สุดที่จะขยับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และความเชื่อมั่นในตลาดที่มีความเสี่ยงที่ยืดเยื้อได้เปลี่ยนความเชื่อมั่นของตลาดจากผลตอบแทนที่สูงขึ้นของกระทรวงการคลังสหรัฐไปยังสินทรัพย์ที่ปลอดภัยอย่างทองคำแทน
Lobo Tiggre จาก The Independent Speculator กล่าวว่าแนวโน้มเศรษฐกิจมหภาคนั้นกำลังน่ากลัว ความไม่แน่นอน อัตราเงินเฟ้อที่สูง และการชะลอตัวของเศรษฐกิจจะส่งผลกระทบต่อตลาด
“ไม่มีใครรู้จริงๆ ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แม้แต่เขา” และ“ตอนนี้เราอาจอยู่ในภาวะถดถอยโดยมีอัตราเงินเฟ้อสูง และถ้าคิดว่า FED จะสามารถขึ้นอัตราดอกเบี้ยและรักษาอัตราเงินเฟ้อได้อย่างง่ายดาย เขาคิดว่ามันเป็นเรื่องเพ้อฝัน มันจะไม่เกิดขึ้น” Lobo Tiggre กล่าวปิดท้าย
แนวโน้มของราคาทองคำ การที่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาสามารถขยับสูงขึ้นอย่างแข็งแกร่งปิดที่บริเวณ $1,841 ได้ ซึ่งถือว่าเป็นสัญญาณสำคัญที่ราคาสามารถปิดเหนือเส้น Moving average (MA) 200 วัน ที่บริเวณ $1,839 ได้ การที่ราคาทองคำสามารถรักษาราคาให้สูงกว่า $1,837 ได้บนพื้นฐานทางเทคนิค เราอาจจะเริ่มสามารถสรุปได้ว่าราคาทองคำตอนนี้กลับมาเป็นขาขึ้นในระยะยาวที่มั่นคง แต่อย่างไรก็ตามยังมีสัญญาณอื่นๆ ที่ยังไม่ได้ช่วยยืนยันการกลับเป็นขาขึ้นของทองคำ ทำให้นักลงทุนอาจจะเริ่มแบ่งการลงทุนเข้าซื้อในช่วงราคา $1,850 นี้บ้าง และพิจารณาตัดขาดทุนเมื่อราคาปิดต่ำกว่า $1,810 โดยมีแนวต้านระยะสั้นอยู่ที่บริเวณ $1,870 - 1,875
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
คำเตือนเกี่ยวกับความเสี่ยง: การซื้อขายอาจทำให้คุณสูญเสียเงินทุนทั้งหมด การซื้อขายอนุพันธ์แบบ OTC อาจไม่เหมาะสำหรับทุกคน โปรดพิจารณาเอกสาร PDS, FSG, คำชี้แจงการเปิดเผยความเสี่ยงและข้อตกลงลูกค้าก่อนใช้บริการของเรา และตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โปรดทราบว่าคุณไม่ได้เป็นเจ้าของหรือมีผลประโยชน์ใด ๆ ในสินทรัพย์อ้างอิง