ราคาทองคำปรับตัวขึ้น +2.10% ไปที่ระดับราคา $1,950 เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ก่อนกลับมาอยู่ในช่วง $1,930 ในช่วงเช้าของวันพุธนี้ ปัจจัยหลักที่ยังส่งผลต่อราคายังเป็นสถานการณ์ของยูเครนและรัสเซีย การตัดสินใจเข้าโจมตียูเครนของรัสเซียในครั้งนี้กำลังส่งผลถึงเศรษฐกิจภายในประเทศของรัสเซีย ค่าเงิน Ruble ของรัสเซียกำลังอ่อนค่าลงอย่างรวดเร็วจากการโดนนานาชาติตัดออกจากระบบ SWIFT ถึงแม้ทางรัฐบาลจะมีการออกนโยบายปรับอัตราดอกเบี้ยจากเดิม 9.5% ขึ้นมาเป็น 20% แต่ก็ยังไม่สามารถชะลอการอ่อนค่าของค่าเงินของประเทศได้ ทำให้ตอนนี้มีเงินบางส่วนที่นอกจากจะไหลไปหาทองคำที่เป็นสินทรัพย์ที่ป้องกันความเสี่ยงแล้ว ยังมีไปหา Bitcoin ที่เป็นเงินดิจิทัลไร้พรมแดน การที่ธนาคารหรือรัฐบาลออกนโยบายควบคุมประชาชนให้ไม่สามารถเข้าถึงเงินของเขา หรือค่าเงินกำลังด้อยค่าทำให้ผู้คนเริ่มมาเห็นมาใช้ Bitcoin มากขึ้น ทั้งในประเทศยูเครนที่ใช้ในการระดมทุนและอพยบออกจากประเทศ รวมถึงในรัสเซียผู้บางส่วนก็ที่หันมาถือ Bitcoin มากขึ้นจากค่าเงินของประเทศที่กำลังอ่อนตัวอย่างรวดเร็ว และอาจจะโดนบังคับไม่ให้เข้าถึงเงินของตัวเองได้ ส่งผลให้ราคา Bitcoin ปรับตัวขึ้นไปที่ระดับราคา $44,000 อย่างมีนัยยะ ในขณะที่ผลจากการคว่ำบาตรของสหรัฐฯและชาติตะวันตกกำลังทำให้ประชาชนรัสเซียได้รับผลกระทบในด้านการใช้ชีวิต เช่นการใช้จ่ายเงินสำหรับเดินทาง ที่ข้อมูลต่างๆ ผูกอยู่กับ Application จากสหรัฐฯ ที่ออกมาหยุดให้บริการในรัสเซีย รวมถึงการส่งออกน้ำมันดิบจากรัสเซียส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นกว่า +10% ไปที่ $107 และทาง Goldman Sachs คาดการว่าราคาน้ำมันอาจจะทะลุ $115 ภายในเดือนนี้
นอกจากทองคำที่เป็นสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงดังเดิมปรับตัวขึ้น รวมถึง Bitcoin ที่ราคาก็ขยับขึ้น ยังมีหุ้นในกลุ่ม Tech ที่ค่อยๆ ปรับตัวขึ้นและทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี หรือ Bond Yield ปรับตัวลงไป 1.72% ต่ำสุดในรอบหนึ่งเดือน เหตุผลส่วนหนึ่งนักลงทุนมองว่าก่อนที่จะมีข่าวสงคราม ตลาดให้ความสนใจไปที่การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ FED ที่คาดการณ์การขึ้นดอกเบี้ยในเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้อยู่ที่ +0.5% แต่ด้วยสถานการณ์ความตึงเครียดที่เกิดขึ้นอยู่นี้ FED อาจจะไม่รีบเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยและลดสถาพคล่องเข้าสู่ระบบเพราะจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ได้
ในด้านราคาทองหลังจากเริ่มปรับตัวกลับขึ้นไปต่อ หลังจากผันผวนอยู่ในช่วง $1,900 เป็นไปได้ว่า Joe Biden จะออกมาประกาศให้สหรัฐฯ หนุนยูเครนรบกับรัสเซียอย่างเปิดเผย เพราะที่ผ่านมาจะเน้นไปที่การคว่ำบาตรและพยายามหาทางออกด้วยการเจรจา เพิ่มเติมกับการที่นานาชาติเริ่มมีการส่งเงินสนับสนุนและกำลังสำหรับต่อสู้ทางทหารเข้าช่วยเหลือยูเครน เป็นไปได้ว่าสงครามในครั้งนี้จะยืดเยื้อออกไป ไม่ได้ง่ายดายอย่างที่รัสเซียต้องการ ทำให้หลังจากราคาทองคำพุ่งขึ้นในวันที่เริ่มมีการโจมตีเพราะคนต่างพุ่งเข้าหาที่ป้องกันความเสี่ยงและราคาค่อยๆ ปรับตัวลงมาเพื่อรอดูสถานการณ์ ขณะนี้ราคาก็เริ่มกลับขึ้นไปต่อ เป็นไปได้ว่าตลาดอาจจะมองว่าสถานการณ์น่าจะมีความยืดเยื้อต่อไปและในด้านสถาวะเศรษฐกิจของรัสเซียรวมถึงเงินเฟ้อทั่วโลก ผู้คนมองว่าทองคำที่เป็นสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงดังเดิมจะยังปลอดภัยและมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อไป แต่อย่างไรก็ตามในด้านของราคาจะต้องผ่านแนวต้าน $1,972 ที่เหวี่ยงขื้นไปแตะเมื่อช่วงเริ่มต้นสงครามให้ได้ หลังจากนั้นถึงจะมองถึงโอกาสในการทำ All time high ของราคาเหนือ $2,072 ไปได้
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
คำเตือนเกี่ยวกับความเสี่ยง: การซื้อขายอาจทำให้คุณสูญเสียเงินทุนทั้งหมด การซื้อขายอนุพันธ์แบบ OTC อาจไม่เหมาะสำหรับทุกคน โปรดพิจารณาเอกสาร PDS, FSG, คำชี้แจงการเปิดเผยความเสี่ยงและข้อตกลงลูกค้าก่อนใช้บริการของเรา และตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โปรดทราบว่าคุณไม่ได้เป็นเจ้าของหรือมีผลประโยชน์ใด ๆ ในสินทรัพย์อ้างอิง