ราคาทองคำขึ้นไปทำจุดสูงสุดในรอบเกือบ 9 เดือนที่ราคา $1,914 เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ก่อนที่จะกลับมาทรงตัวอยู่แถวๆระดับราคา $1,900 โดยสถานการณ์หลักๆ ที่ส่งผลยังเป็นเรื่องความตึงเครียดของวิกฤตที่ยูเครน หลังจากที่ประธานาธิบดี Vladimir Putin ของรัสเซียได้ลงนามในกฏหมายรับรองสถานะการเป็นรัฐอิสระและความเป็นเอกราชของทั้ง 2 แคว้น อย่างโดเนตสค์และลูฮานสค์ ซึ่งเป็นที่ทราบกันว่า 2 แคว้นดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่รัสเซียสนับสนุนสาธารณรัฐกบฏแบ่งแยกดินแดน และมีรายงานว่าทาง Putin นั้นได้ส่งกองกำลังรักษาสันติภาพเข้าตรึงทั้ง 2 พื้นที่ดังกล่าวแล้ว โดยสถานการณ์ทางฝั่งสหรัฐฯและยุโรปกำลังจะเตรียมใช้มาตรการคว่ำบาตรในการกดดันรัสเซีย ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบพุ่งเกือบทะลุ $100 ต่อบาร์เรลเป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปี ซึ่งการที่รัสเซียเป็นผู้ผลิตน้ำมันใหญ่เป็นอันดับที่ 3 ของโลก ทำให้นักลงทุนกังวลว่าหากอุปทานน้ำมันจากรัสเซียไม่ไหลออกมาในตลาด จะทำให้ตลาดน้ำมันดิบที่มีความตึงตัวอยู่แล้วจะยิ่งส่งผลขึ้นไปอีก พร้อมกับทางที่วุฒิสมาชิกรัสเซียได้ลงมติเห็นชอบให้ประธานาธิบดี Vladimir Putin มีอำนาจในการใช้กองทัพทหารรัสเซียปฏิบัติการนอกประเทศอย่างเต็มที่แล้ว ทำให้ยิ่งยกระดับความตึงเครียดของสถานการณ์ต่างๆ มากขึ้น ส่งผลไปถึงตลาดสินทรัพย์เสี่ยงต่างๆ อย่างตลาดหุ้นทั่วโลก ถึงแม้จะสามารถบวกขึ้นได้ไม่นานก็กลับมาติดลบอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็น DJI -1.42%, S&P500 -1.01%
ในขณะที่ทางด้านของสถานการณ์เงินเฟ้อที่สหรัฐฯ ได้มีความเคลื่อนไหวล่าสุดจากธนาคารยักษ์ใหญ่อย่าง JP Morgan ได้ออกมาสร้างความผันผวนให้ตลาดเพิ่มเติมอีกครั้งด้วยการปรับมุมมองการขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยจากเดิม JP Morgan ได้มองว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ FED นั้น จะมีถึง 9 ครั้งติดต่อกัน แต่จากความเห็นใหม่กลายเป็นมองว่าด้วยสถานการณ์ความไม่สงบในชายแดนยูเครนอาจจะทำให้ FED มีการประเมินเรื่องแนวทางการขึ้นดอกเบี้ยใหม่ โดยอาจจะชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือแม้กระทั้งอาจจะถึงขั้นกลับมากระตุ้นเศรษฐกิจอีกรอบได้
ทำให้ตอนนี้ถึงแม้สายตาของคนทั่วโลกจะไปจับตาที่วิกฤตยูเครนเป็นหลักแต่สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือเรื่องของเงินเฟ้อ ซึ่งหากจากสิ่งที่ JP Morgan ออกมาให้ความเห็นล่าสุดนี้จะสอดคล้องกับสิ่งที่ Jerome Powell ประธาน FED เคยออกมาให้ความเห็นก่อนหน้านี้ว่าเราจะอยู่ในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยต่ำไปอีกนาน ซึ่งเป็นไปได้ว่าการที่ Jerome Powell และ JP Morgan ออกมาให้ความเห็นหรือเกริ่นๆ ในลักษณะนี้ ลึกๆ แล้วจะรู้ว่าการจะหยุดเงินเฟ้อนั้นจะเป็นไปได้ยากแล้ว เพราะหากใช้มาตรการที่เข้มงวดเกินไปจะส่งผลกระทบไปถึงตลาดหุ้นซึ่งจะส่งผลโดยตรงกับประชาชน ไม่แค่เฉพาะนักลงทุน แต่กองทุนหรือสถาบันการเงินต่างๆ ที่มีการเอาเงินของประชาชนไปลงทุนจะได้รับผลกระทบและสร้างความไม่พอใจทำให้ประชาชนออกมาต่อต้านรัฐบาลมากขึ้น ดังที่ ณ ปัจจุบันมีหลายๆ ประเทศกำลังเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น แต่ไม่ได้รับการนำเสนอข่าวเท่าที่ควร
ในส่วนของแนวโน้มด้านราคาทองคำยังทรงๆ ตัวอยู่ในกรอบการวิเคราะห์เมื่อวันสองวันที่ผ่านมา คืออยู่ในช่วง $1,890 - $1,900 และกำลังพยายามไปทดสอบแนวต้าน $1,910 – 1,916 รวมถึงเส้น RSI ที่เมื่อวานมีท่าทีที่จะทะลุแนวต้านไปได้ แต่ก็โดนกดดันกลับลง ทำให้ต้องจับตาว่าจะมีข่าวที่ส่งผลให้ราคาสามารถขยับอย่างรุนแรงได้หรือไม่
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
คำเตือนเกี่ยวกับความเสี่ยง: การซื้อขายอาจทำให้คุณสูญเสียเงินทุนทั้งหมด การซื้อขายอนุพันธ์แบบ OTC อาจไม่เหมาะสำหรับทุกคน โปรดพิจารณาเอกสาร PDS, FSG, คำชี้แจงการเปิดเผยความเสี่ยงและข้อตกลงลูกค้าก่อนใช้บริการของเรา และตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โปรดทราบว่าคุณไม่ได้เป็นเจ้าของหรือมีผลประโยชน์ใด ๆ ในสินทรัพย์อ้างอิง