ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.8% ในวันพุธที่ผ่านมา ขึ้นมายืนอยู่ที่บริเวณ $1,858 ในช่วงเช้าวันนี้ ในขณะที่ค่าเงินดอลลาร์มีช่วงที่อ่อนตัวลงบ้าง และหลังจากมีการประกาศตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคของสหรัฐ หรือ U.S. consumer price index (CPI) ออกมาเมื่อช่วงค่ำของเมื่อวาน ตัวเลขดังกล่าวเป็นดัชนีที่แสดงถึงเงินเฟ้อ และการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐ CPI แบบปีต่อปีออกมาที่ +8.3% สูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ +8.1% ส่วนตัวเลขเดือนต่อเดือนออกมาที่ +0.3% สูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ +0.2%
หลังจากมีการประกาศตัวเลขออกมา สินทรัพย์เสี่ยงโดยเทขายหนักหลังตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐออกมาสูงกว่าที่คาดในทุกมิติที่รายงานออกมา ตัวเลขเงินเฟ้อพื้นฐานสหรัฐ Core CPI (ไม่รวมหมวดอาหารและพลังงาน) ปีต่อปีออกมาที่ +6.2% สูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ +6.0% ส่วนตัวเลขเดือนต่อเดือน ออกมาที่ +0.6% สูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ +0.4% กดดันทุกสินทรัพย์เสียงโดยเฉพาะหุ้นเทค และทางด้าน Bitcoin ที่กำลังมีความสัมพันธ์กับหุ้นเทคสูงก็ร่วงหลุดระดับแนวรับที่สำคัญที่ $30,000 ไปแล้วด้วยเช่นกัน
รายงานตัวเลขเงินเฟ้อครั้งนี้ทำให้นักลงทุนคาดว่า FED อาจต้องคิดเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย +0.75% ในการประชุมครั้งต่อไปในเดือน มิ.ย. แม้ทาง Jerome Powell บอกว่า FED ยังไม่ได้คิดจะพิจารณาเรื่องนี้ก็ตาม
ถึงแม้รายงานนี้จะทำให้นักลงทุนกังวลและเทขายหนัก แต่ส่วนหนึ่งแล้วอาจเป็นเพราะนักลงทุนตั้งความคาดหวังในตัวเลขรอบนี้มากเกินไป ว่าตัวเลขเงินเฟ้อจะต้องชะลอตัวมากกว่าที่คาดมากๆ
แต่หากไปดูในรายละเอียดนของเงินเฟ้อจริงๆแล้ว รายงานนี้ถึงแม้จะไม่ได้เป็นอย่างที่นักลงทุนคาดการณ์ แต่หากมองว่าอย่างน้อยตัวเลขเงินเฟ้อแม้จะสูงขึ้น แต่ก็เริ่มชะลอตัวลงแล้ว (เดือนก่อน +8.5%) และตัวเลขเดือนต่อเดือนก็ออกมาที่เพียง +0.3% เท่านั้น
และหากเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติม ก็จะเห็นว่าราคาตั๋วเครื่องบินและค่าเดินทางสาธราณะนั้นปรับตัวสูงขึ้นอย่างมากและทำให้ตัวเลข CPI โดยรวมออกมาดูสูงกว่าที่คาดถึง +0.2% หากตัดตัวเลขเหล่านี้ ซึ่งควรจะเป็นการปรับขึ้นราคาชั่วคราวก็อาจจะทำให้ตัวเลขเงินเฟ้อไม่ได้เป็นอย่างที่แสดง
รายงานของวันนี้ส่งผลให้นักวิเคราะห์บางคนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐจะเข้มงวดมากขึ้นและดำเนินการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% สิ่งนี้ตรงกันข้ามกับคำกล่าวของประธาน Jerom Powell ในการประชุม FOMC เมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า “การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยพื้นฐาน 0.75% ไม่ได้อยู่บนโต๊ะพิจารณา”
Steve Hanke ศาสตราจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์ประยุกต์ที่มหาวิทยาลัย Johns Hopkins กล่าวว่า “ตามที่ได้คาดการณ์ไว้มาระยะหนึ่งแล้วว่าเราจะมีสิ่งที่พวกเขาเรียกว่า 'อัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น' ระหว่าง 6% ถึง 9% จนถึงปี 2023 อาจจะเข้าสู่ต้นปี 2567 เหตุผลก็คือไม่ว่า FED จะเป็นอย่างไร ที่จริงแล้ว ในตอนนี้ ยังมีเงินจำนวนมากที่รอเพื่อที่จะถูกพิมพ์ออกมาเติม
(Steve Hanke ใช้คำว่า) 'อ่างของเงิน' ที่จะคอยป้อนอัตราเงินเฟ้อต่อไป Hanke ซึ่งเคยอยู่ในสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจของประธานาธิบดี Ronald Reagan ก่อนหน้านี้กล่าวว่าอัตราเงินเฟ้อเกิดจากปริมาณเงินที่เพิ่มขึ้น ไม่ใช่ปัญหาด้าน Logistics หรือห่วงโซ่อุปทานอันเป็นผลมาจากสงครามยูเครนหรือโควิด ที่สำคัญแม้ว่าราคาพลังงานและอาหารจะพุ่งสูงขึ้น แต่ CPI ที่เหลือก็ไม่จำเป็นต้องคล้อยตาม Hanke ตั้งข้อสังเกต
ความคิดเห็นของ Hanke เกิดขึ้นในขณะที่ประธานาธิบดี Joe Biden ประกาศเมื่อวันอังคารว่าอัตราเงินเฟ้อเป็น "ความสำคัญสูงสุดในประเทศ" ของเขาแล้ว
แนวโน้มทางด้านของราคาทองคำหลังจากเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ก่อนมีการประกาศตัวเลข CPI ราคาทรงตัวอยู่ที่บริเวณ $1,835 และได้มีการปรับตัวขึ้นมาตามการคาดการณ์ แต่ภาพรวมของราคายังอยู่ในแนวโน้มของตลาดหมีหรือเป็นแนวโน้มขาลง ถึงจะมีการเด้งขึ้นของราคาเมื่อคืน แต่การที่ราคาจะขึ้นไปได้ต่อนั้น ยังจะมีแนวต้านทั้งใหญ่และเล็กอีกหลายบริเวณ ซึ่งถ้าหากราคาสามารถทรงตัวอยู่ที่บริเวณ $1,857 ขณะนี้ได้ แนวต้านถัดไปจะมีแนวเล็กๆ ที่ช่วง $1,867 - 1,877 ซึ่งถ้าหากผ่านไปได้ถึงจะไปทดสอบแนวต้านช่วง $1,900 อีกครั้ง แต่จากการที่เส้น Moving Average (MA) 200 วัน สามารถยันราคาไม่ให้ทะลุไปได้ ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีในระดับหนึ่งของราคาทองคำ แต่ถึงอย่างไรนั้นราคาก็ยังมีโอกาสลงมาทดสอบเส้นดังกล่าวได้อีกหลายครั้ง ในขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ยังคงมีสัญญาณ Divergence หรือความขัดแย้งระหว่างราคาและ Momentum ของ RSI ต่อไป
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
คำเตือนเกี่ยวกับความเสี่ยง: การซื้อขายอาจทำให้คุณสูญเสียเงินทุนทั้งหมด การซื้อขายอนุพันธ์แบบ OTC อาจไม่เหมาะสำหรับทุกคน โปรดพิจารณาเอกสาร PDS, FSG, คำชี้แจงการเปิดเผยความเสี่ยงและข้อตกลงลูกค้าก่อนใช้บริการของเรา และตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โปรดทราบว่าคุณไม่ได้เป็นเจ้าของหรือมีผลประโยชน์ใด ๆ ในสินทรัพย์อ้างอิง