เยี่ยมชม Mitradeเทรดกับ เว็บ Mitradeเทรดกับ แอพ Mitradeเทรดกับ แอพ Mitrade
สแกนเพื่อดาวน์โหลด
นโยบายกองบรรณาธิการเกี่ยวกับเรา
Mitrade Logoมุมมองการลงทุน

วิเคราะห์ราคาทองคํา(Gold Price)วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้-ประจำวันที่ 11/5/2022

ผู้เขียน
|อัพเดทครั้งล่าสุด 18 ม.ค. 2566 03:55 น.
889

ราคาทองคํา(Gold Price)วันนี้


ราคาทองคํา(Gold Price)วันนี้ (ที่มา: MiTrade)


 เทรดทองเดี๋ยวนี้ >


วิเคราะห์ราคาทองคําวันนี้

ราคาทองยังคงปรับตัวลงอย่างต่อเนื่องเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โดยทรงตัวอยู่ที่บริเวณราคา $1,837 ในเช้าวันนี้ ปัจจัยที่กดดันราคาทองคำยังเป็นดัชนีค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น 0.2% เข้าใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 20 ปีในช่วงก่อนหน้า ในขณะเดียวกัน อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีก็ปรับตัวลดจากระดับสูงสุดในรอบ 4 ปี


“ในเบื้องต้น ทองคำแสดงสัญญาณว่ามีแนวโน้มจะทรงตัว แต่นักลงทุนยังคงกังวลใจก่อนข้อมูลเงินเฟ้อว่า FED จะดุดันแค่ไหนในการปรับนโยบาย” Edward Moya นักวิเคราะห์อาวุโสของ OANDA กล่าว


“ค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าได้ส่งผลต่อราคาทองคำ แม้ว่าเราจะเห็นการหยุดขายพันธบัตรในตลาดตราสารหนี้ แต่ดูเหมือนว่านักลงทุนจะยังไม่กระโดดกลับเข้าสู่ทองคำในทันที” เขากล่าวเสริม


นักลงทุนรอข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภคของสหรัฐ หรือ U.S. consumer price index (CPI) ในวันนี้ช่วงค่ำ เพื่อวัดผลกระทบที่น่าจะเป็นไปได้ต่อแผนการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ FED 


โดย John Williams ประธาน FED แห่งนิวยอร์กได้กล่าวว่า เป้าหมายของ FED ในการลดอัตราเงินเฟ้อโดยไม่ทำให้เศรษฐกิจชะงักหรือตกรางเป็นสิ่งที่ท้าทาย แต่ก็สามารถทำได้ท่ามกลางความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเกิดจากสงครามในยูเครนและการระบาดของ COVID-19 


“ความคิดเห็นของ Williams สะท้อนให้เห็นถึงการที่ความตึงและความเข้มงวดที่อาจจะลดน้อยลงในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคต” Bob Haberkron นักยุทธศาสตร์การตลาดอาวุโสของ RJO Futures กล่าวเสริม

การระบาดของเชื้อ Covid-19 ทำให้เกิดการสะดุดของห่วงโซ่อุปทาน (Supply Disruption) ทั้งในจีนและอีกหลายประเทศทั่วโลก เมื่อผนวกเข้ากับผลกระทบจากความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน จึงทำให้ทั่วโลกต้องเผชิญกับเงินเฟ้อ ทำให้การปรับขึ้นดอกเบี้ยของ Fed ต้องดำเนินไปอย่างระมัดระวัง เพราะปัจจัยความต้องการของผู้บริโภคที่ฟื้นตัวกลับมา (Demand Pull) ไม่ได้เกิดจากการที่ผู้ติดเชื้อ Covid-19 ลดลงเพียงอย่างเดียว หากแต่เป็นผลมาจากการเกื้อหนุนโดยมาตรการ QE (Quantitative Easing) ซึ่งเป็นมาตรการทางการเงินที่ Fed ใช้ในช่วงเวลาที่ไม่ปกติ (Unconventional Monetary Policy) และ Fed เองก็ตระหนักดี จึงมีแผนที่จะดำเนินมาตรการ QT (Quantitative Tightening) เพื่อดูดกลับสภาพคล่องเหล่านี้ในเดือน มิ.ย. ควบคู่ไปกับการขึ้นดอกเบี้ยด้วย


ในช่วงเวลาเพียง 1 เดือนที่ผ่านมา ดัชนี Nasdaq 100 (ดัชนีที่ติดตามความเคลื่อนไหวของ 100 บริษัทยักษ์ใหญ่ที่จดทะเบียนบนตลาดหลักทรัพย์ Nasdaq) ได้ร่วงลงอย่างหนัก และโดนลบมูลค่าตลาดไป 3.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ จนกลายเป็นการสูญเสียมูลค่าตลาดในระยะสั้นครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของดัชนีนี้ 


แน่นอนว่าเหตุผลที่ทำให้นักลงทุนพากันเทขายดัชนีหุ้นเทคนี้ก็เพราะนักลงทุนไม่เชื่อว่า FED จะสามารถแก้ไขปัญหาเงินเฟ้อสหรัฐได้สำเร็จ จนทาง FED อาจต้องขึ้นดอกเบี้ยเร็วและสูงกว่าที่คาดไว้มาก 


โดยทาง FED จะมองค่าเงินเฟ้อได้ถูกหรือไม่ตัวเลข CPI ในช่วงค่ำวันนี้ที่จะประกาศออกมา จะเป็นหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญมาก นอกจากมันจะเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อจะเริ่มชะลอลงมาจริงแล้วหรือไม่ มันอาจจะเป็นปัจจัยที่ทำให้ FED อาจขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมครั้งหน้าก็เป็นได้


อย่างไรก็ตามถึงแม้ดัชนี Nasdaq 100 และเหล่าหุ้นเทคจะโดนเทขายอย่างหนัก ในระยะสั้นแล้วเราอาจเห็นการเด้งกลับทางเทคนิคอย่างรุนแรงได้ เพราะล่าสุด RSI หรือ Relative Strength Index ที่เป็นเครื่องมือชี้วัดทางเทคนิคโดยใช้ Momentum เข้าสู่ภาวะการขายมากเกินไป (Oversold) โดยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมานับตังแต่เกิดไวรัสระบาดในปี 2020 ดัชนี RSI ของ Nasdaq 100 ได้ร่วงลงไปแตะหรือต่ำกว่า 30 จุดเพียงแค่ 6 ครั้ง และทุกๆครั้งที่ตลาดร่วงไปแตะระดับนั้น ก็จะทำให้เราเห็นการดีดกลับของดัชนีประมาณ 5% - 10% ในช่วงสัปดาห์ถัดมาทุกครั้ง


โดยความสัมพันธ์ดังกล่าวได้ไปสอดคล้องกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเช่นกัน เพราะสัญญาณทางด้านเทคนิค อย่าง RSI หรือ Relative Strength Index ของ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ นั้น ยังคงเกิดภาวะการซื้อมากเกินไป (Overbought) รวมถึงเกิดความขัดแย้งกันระหว่างราคาและ Momentum ของ RSI จนเป็นสิ่งที่ทางเทคนิคเรียกว่า Divergence ซึ่งเป็นสัญญาณว่า มีโอกาสที่จะจบเทรนได้ ซึ่งเงินดอลลาร์สหรัฐนั้นถือว่าอยู่ในช่วงขาขึ้นอยู่ ถ้าหากเป็นการจบเทรนนี้ อาจจะสอดคล้องกับการที่สภาพคล่องจะไหลกลับไปหาสินทรัพย์อื่นๆ ทำให้มีโอกาสปรับตัวขึ้นได้ ไม่ว่าจะเป็นตลาดหุ้น หรือแม้แต่ทองคำ ที่ถือว่าเป็นเครื่องป้องกันความเสี่ยงจากภาวะเงินเฟ้อและความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจเช่นเดียวกับดอลลาร์ แต่มีความอ่อนไหวสูงต่อการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐ


แนวโน้มของราคาในวันนี้ นักลงทุนต้องระวังและจับตาราคาเป็นพิเศษอีกครั้งหนึ่ง ตลาดอาจมีความผันผวนได้สูง จากการที่จะมีการประกาศตัวเลข Consumer price index (CPI) ดังกล่าว ในขณะที่ภาพราคาทางด้านเทคนิค ตอนนี้ราคาทองคำได้เข้ามาชนเส้น Moving Average (MA) 200 วันแล้ว ตามประวัติที่ผ่านมา เมื่อราคาเข้ามาแตะเส้นดังกล่าว มักจะมีความผันผวนของตลาดเข้ามา ราคาจึงมีโอกาสทั้งการเด้งกลับขึ้นไปและปรับตัวลงต่ออย่างรุนแรง สำหรับนักลงทุนที่กำลังมองหาจุดทยอยเข้าเก็บทองคำและนักเกร็งกำไรระยะสั้น ถึงแม้ในภาพรวม ราคาทองคำจะยังอยุ่ในแนวโน้มขาลง และยังไม่มีสัญญาณของการกลับตัวขึ้นที่ชัดเจน แต่ในจุดนี้ บริเวณ $1,830 - 1,840 ก็ถือเป็นโอกาสในการเข้าซื้อเกร็งกำไรหรือทยอยเก็บของได้ โดยอาจจะมีจุดตัดขาดทุนอยู่บริเวณ $1,820 


16522384755543


Ad
เทรดทองกับ Mitrade มีเงินน้อยก็เทรดได้!
*กำกับดูแลโดย ASIC/CIMA/FSC*เลเวอเรจที่ยืดหยุ่น (1x/20x/50x/100x)*ฟรีเงินเสมือนจริง $50,000 ดอลล่าร์*เปิดบัญชีได้ง่ายและเร็วภายใน 3 นาที*ค่าคอมมิชชั่น 0 สเปรดต่ำ
ลงทุนมีความเสี่ยง CFD อาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน

Ad

*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา


การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน

Mitrade
มุมมองการลงทุนเป็นแพลตฟอร์มที่ให้ข้อมูลทางด้านการเงินภายใต้ Mitrade ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อให้นักลงทุนได้รับความรู้พื้นฐานทางการเงินที่สมบูรณ์ สภาวะตลาดแบบเรียลไทม์ ข่าวที่เกี่ยวข้องในเวลาที่เหมาะสม และการวิเคราะห์ตลาดในเชิงลึก
บทความยอดนิยม
อ่านมากที่สุด
ข่าวล่าสุด
  • ต้นฉบับ
  • กลยุทธ์การเทรด
  • อ่านมากที่สุด
    ข่าวล่าสุด
Mitrade Logo
มุมมองการลงทุน
อำนวยเนื้อหาคอลัมน์ที่มีคุณภาพสูงแก่นักลงทุนทั่วโลก

คำเตือนเกี่ยวกับความเสี่ยง: การซื้อขายอาจทำให้คุณสูญเสียเงินทุนทั้งหมด การซื้อขายอนุพันธ์แบบ OTC อาจไม่เหมาะสำหรับทุกคน โปรดพิจารณาเอกสาร PDS, FSG, คำชี้แจงการเปิดเผยความเสี่ยงและข้อตกลงลูกค้าก่อนใช้บริการของเรา และตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โปรดทราบว่าคุณไม่ได้เป็นเจ้าของหรือมีผลประโยชน์ใด ๆ ในสินทรัพย์อ้างอิง

ขยาย