วิเคราะห์ราคาทองคํา(Gold Price)วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้-ประจำวันที่ 9/5/2022

ราคาทองคํา(Gold Price)วันนี้ (ที่มา: MiTrade)

 เทรดทองเดี๋ยวนี้ >

ราคาทองคำอยู่ที่บริเวณ $1,878 ในเช้าวันนี้ ปรับตัวลงเล็กน้อยจากวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้วราคามีการปรับตัวลงลงมาค่อนข้างรุนแรงในช่วงต้นสัปดาห์ จากการคาดการณ์การปรับอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ หรือ FED กดให้ราคาลงไปที่ $1,850

ก่อนที่ผลรายงานการประชุม FOMC ของ FED จะออกมาเป็นทางการว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น +0.50% ตามที่ตลาดคาด แต่อย่างไรก็ตามการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย +0.5% นั้นนับเป็นการปรับขึ้นที่สูงที่สุดในรอบ 22 ปี และดอกเบี้ยสหรัฐกลับขึ้นมาสู่ระดับ 0.75-1.00% หลังการประชุมในวันนั้น รวมถึง FED จะเริ่มลดขนาดงบดุล (Quantitative Tightening : QT) ในว้นที่ 1 มิถุนายน หรือเริ่มทันทีภายในเดือนหน้า

โดย FED จะลดขนาดงบดุลที่ปริมาณเดือนละ 47.5 พันล้านดอลลาร์ และจะค่อยๆปรับเพิ่มขึ้นเป็น 95 พันล้านดอลลาร์ต่อเดือนภายใน 3 เดือน "คณะกรรมการ FED ให้ความสนใจต่อความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อเป็นอย่างมาก” FED เขียนในแถลงการณ์และสงครามรัสเซียยูเครนก็กำลังสร้างความกดดันต่อเงินเฟ้อให้เพิ่มขึ้น

ในขณะที่หลังจากนั้นทาง Jerome Powell ได้ออกมาแถลงและตอบคำถามกับสื่อ และได้ตอบคำถามสำคัญ และกล่าวว่า "FED ยังไม่มีแผนที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยระดับ +0.75% ในอนาคตอันใกล้นี้และถ้าอัตราเงินเฟ้อเป็นตามที่เราคาดการณ์ ทาง FED น่าจะพิจารณาการขึ้นดอกเบี้ย +0.5% ในการประชุม 2 ครั้งหน้า" 

ทำให้โดยรวมแล้วการประชุม FED ครั้งนี้ถือว่าเป็นปัจจัยบวกมากกว่าที่ตลาดคาดไว้ ทำให้ราคาทองคำไม่ได้มีการถูกกดดันลงไปมากกว่าข่าวที่ออกมาก่อนหน้า รวมถึงทำให้ตลาดหุ้นต่างพากันปรับตัวขึ้น

แต่หลังจากนั้นอีกวันการประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐ (Non-Farm Payrolls) เดือนเมษายน เพิ่มขึ้น +428,000 ตำแหน่ง ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 390,000 ตำแหน่ง

อัตราการว่างงานของสหรัฐ (Unemployment Rate) ในเดือนเมษานยน รายงานออกมาที่ 3.6% ไม่ได้เปลี่ยนไปจากเดือนก่อนและสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ระดับ 3.5% เล็กน้อย โดยข่าวที่ออกมาหลายๆ สื่อมองว่าเป็นข่าวดีต่อสภาพเศรษฐกิจ ซึ่งอาจช่วยลดความกังวลเรื่องภาวะ Stagflation ลงได้บ้าง 

แต่ตลาดกลับไม่ได้คิดอย่างนั้น หลังจากที่รายงานออกมาไม่นานตลาดหุ้นก็กลับเริ่มโดนเทขายอีกครั้ง เหตุผลหลักที่ทำให้นักลงทุนมองว่ารายงานครั้งนี้อาจจะไม่ดีต่อตลาดหุ้นก็เพราะว่าตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแรงอาจเปิดโอกาสให้ทาง FED ปรับขึ้นดอกเบี้ยได้เร็วกว่าที่คาด และอาจทำให้โอกาสในการขึ้นดอกเบี้ย +0.75% ของ FED มีสูงขึ้น 

Bond Yield หรืออัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลได้ดีดสูงขึ้นต่อเนื่องจนแตะ 3.12% แล้วทำสถิติสูงสุดใหม่ของปี เป็นสัญญาณว่านักลงทุนกำลังมองว่า FED มีโอกาสขึ้นดอกเบี้ยได้เร็วและสูงขึ้น เพราะไม่ต้องกังวลเรื่องปัญหาเรื่องการจ้างงานต่อไป 

อย่างไรก็ตามราคาทองคำที่ปรับตัวขึ้นจากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าในวันศุกร์ แต่แนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างดุเดือดจาก FED ทำให้ราคาทองคำมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่องกันเป็นสัปดาห์ที่สาม

Edward Moya นักวิเคราะห์อาวุโสของ OANDA กล่าวว่า “ตลาดทองคำโดยทั่วไปเห็นรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร ซึ่งเป็นการยืนยันอีกครั้งว่า FED จะยังคงการควบคุมความเร็ว และอัตราตัวเลขดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายครั้งต่อไป รวมถึงการเทขายออกของตลาดตราสารหนี้จะยังคงส่งผลกระทบต่อทองคำต่อไป” 

แนวโน้มทางด้านราคาทองคำหลังจากที่ราคาหลุดมาถึงช่วงราคา $1,850 และกลับมาทรงอยู่ในช่วงแนวรับ $1,865 - 1,875 ในปัจจุบัน ภาพรวมของราคาทองคำในเวลานี้เข้าสู่แนวโน้มขาลงเต็มตัว โดยการที่ราคาอยู่เหนือบริเวณ $1,960 ซึ่งเป็นการทดสอบเส้น Exponential Moving Average (EMA) 200 วัน ในขณะนี้นั้น เป็นอีกจุดสำคัญทางเทคนิคที่ทำให้ราคาหยุดอยู่ในบริเวณดังกล่าว อย่างไรก็ราคามีโอกาสปรับตัวลงไปต่อโดยจะมีแนวสำคัญๆ คือช่วงราคา $1,836 ซึ่งเป็นเส้น Moving Average (MA) 200 วัน ที่ืถือว่าเป็นจุดแบ่งแยกแนวโน้มที่สำคัญอีกจุดหนึ่ง ทำให้มีโอกาสที่ราคาจะลงมาถึงบริเวณดังกล่าวและมีการปรับตัวเด้งขึ้นของราคา

โดยสำหรับนักลงทุนระยะสั้นอาจจะหาโอกาสเข้าซื้อในช่วงราคานั้นได้ แต่สำหรับนักลงทุนระยะยาวที่เล่นไปตามเทรนขาขึ้น ก็อาจจะต้องพิจารณาให้มากขึ้นเพราะแนวโน้มในตอนนี้เข้าสู่ช่วงขาลงทำให้ราคามีโอกาสปรับตัวลงไปได้ต่อ