ราคาทองคำทรงตัวอยู่บริเวณ $1,900 ได้เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โดยฟื้นตัวเล็กน้อยหลังจากเมื่อต้นสัปดาห์ราคาปรับตัวลงไปที่ $1,892 ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลในขณะนี้นั้น ยังเป็นเรื่องของการปรับนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ หรือ FED และภาพของเงินเฟ้อ
David Meger ผู้อำนวยการฝ่ายซื้อขายของ High Ridge Futures กล่าวว่า กำลังการซื้อบางอย่างกลับมาใหม่อีกครั้งในสินทรัพย์ที่ปลอดภัย เช่น ทองคำ หลังจากข่าวการล็อกดาวน์ของจีนส่งผลกระทบต่อความต้องการในตลาดพลังงานมากเกินไป แต่อย่างไรก็ตาม ค่าเงินดอลลาร์ที่สูงขึ้นทำให้การขึ้นของทองคำช้าลงด้วย
“ตลาดเริ่มเชื่อว่า FED อยากที่จะรุกมากกว่านี้ในด้านของการปรับใช้นโยบายทางการเงิน และด้วยเหตุนี้มันจึงเป็นผลกระทบเล็กน้อยของสินค้าโภคภัณฑ์” Meger กล่าวเสริม
แม้ว่าทองคำถือเป็นการป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อและความเสี่ยงทางเศรษฐกิจและการเมือง ซึ่งรวมถึงสงครามยูเครน แต่การคาดการณ์ว่า FED จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยครึ่งเปอร์เซ็นต์ในการประชุมสองครั้งถัดไป
ซึ่งการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรวดเร็วนี้จะส่งผลกระทบต่อราคาทองคำ และในขณะเดียวกันตลาดที่เหลือก็กังวลว่าการใช้นโยบายเชิงรุกนี้อาจทำให้เศรษฐกิจโลกชะงักได้
โดยหุ้นสหรัฐร่วงลงอย่างหนักในวันอังคาร ขณะที่นักลงทุนเทขายหุ้นออกเพราะกลัวว่าเศรษฐกิจจะชะลอตัว ความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลกค่อยๆ ปรากฏขึ้น นักลงทุนต่างวิตกกังวลการระบาดของโควิดในจีน เกี่ยวกับสงครามในยูเครน เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัสเซียกล่าวว่าภัยคุกคามจากสงครามนิวเคลียร์มีจริง นอกจากนี้ อัตราเงินเฟ้อที่สูงในสหรัฐอเมริกาและทั่วโลกก็ส่งผลกระทบเช่นกัน
แต่จากสถานการณ์ต่างๆ ดังกล่าวทองคำก็ไม่ได้ดีดตัวขึ้นแม้ว่าราคาหุ้นสหรัฐจะร่วงลงอย่างหนัก ในทางกลับกัน นักลงทุนแห่กันไปที่เงินดอลลาร์สหรัฐ โดยผลักดันให้ดัชนี DXY ขึ้นสู่ระดับสูงสุดตั้งแต่เดือนมีนาคม 2020 และอยู่ภายใน 1% ของระดับสูงสุดในปี 2016 ในขณะเดียวกันการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยก็คาดการณ์ว่าจะช่วยให้อัตราเงินเฟ้อตามตลาดลดลง ทั้งสองสิ่งนี้เป็นอุปสรรคต่อทองคำ ทำให้แนวโน้มเชิงลบของทองคำแย่ลงไปอีก
แต่สิ่งที่เห็นได้ชัดที่สุดคือความกังวลที่เกิดขึ้นใหม่จากนักลงทุนเกี่ยวกับอัตราการติดเชื้อโควิด-19 ของจีนที่แย่ลง ความกังวลที่แท้จริงเกี่ยวกับการหดตัวของเศรษฐกิจโลกอันเป็นผลมาจากการปิดเมืองของจีนทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกสั่นสะเทือน การหยุดชะงักของการขนส่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ตลาดหุ้นจีนขายออกอย่างรวดเร็ว ซึ่งส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในปัจจุบัน เนื่องจากดัชนีหลักทั้งหมดมีการลดลงอย่างมาก ดาวโจนส์ร่วง 809 จุดหรือ 2.38% ดัชนี S&P 500 ลดลง 2.81% และ NASDAQ ที่มีเทคโนโลยีสูงลดลงอย่างมากโดยสูญเสีย 3.95% หรือ 514 จุด
การเพิ่มขึ้นของการติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศจีนและการล็อกดาวน์ที่ตามมาได้ทำให้เกิดความกังวลว่าอัตราเงินเฟ้อจะยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและไม่ได้ถึงจุดสูงสุดตามที่ธนาคารกลางสหรัฐจะคาดการณ์ไว้ เมื่อรวมกับความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ในปัจจุบันเกี่ยวกับสงครามในยูเครน ประเด็นเหล่านี้เป็นปัจจัยหลักของความเชื่อมั่นของตลาดที่เป็นขาขึ้นในปัจจุบันของทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัยและป้องกันความเสี่ยงจากภาวะเงินเฟ้อรวมถึงความเชื่อมั่นในตลาดที่มีความเสี่ยงต่ำ แต่สิ่งที่มาลดทอนความเชื่อมั่นของตลาดทองคำในตลาดขาขึ้นนี้ คือค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น ที่ทำให้สภาพคล่องไหลออกจากตลาดทองคำ พร้อมกับแนวโน้มของธนาคารกลางสหรัฐในการเริ่มต้นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรวดเร็วที่ครึ่งเปอร์เซ็นต์ในการประชุม FOMC สองครั้งถัดไปแต่ละครั้ง
ในขณะที่ทางฝั่งผลกระทบจากสงคราม มีรายงานว่ารัสเซียหยุดการส่งก๊าซธรรมชาติไปให้โปแลนด์หลังทางโปแลนด์ไม่ยอมจ่ายค่าก๊าซธรรมชาติด้วยเงินรูเบิล ดันราคาก๊าซธรรมชาติขึ้น +17% ทันที ถึงแม้ทางโปแลนด์จะพึ่งพาก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียมากถึง 55% แต่ทางโปแลนด์ก็ได้กล่าวมาตลอดว่าจะไม่จ่ายค่าก๊าซธรรมชาติด้วยเงินรูเบิล เพราะทางโปแลนด์เชื่อว่าจะสามารถรับมือกับการขาดแคลนก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียได้ ต้องมาติดตามดูกันต่อไปอย่างใกล้ชิดว่าทางรัฐบาลโปแลนด์จะรับมือวิกฤตนี้อย่างไร และการตัดก๊าซในครั้งนี้จะส่งผลกระทบในวงกว้างหรือไม่
แนวโน้มด้านราคาทองคำถึงแม้ราคาจะยังทรงตัวได้อยู่ในบริเวณ $1,900 แต่จากการที่ราคาปรับตัวลงมาตั้งแต่ช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา จากบริเวณ $1,950 ลงมาที่ $1,889 ลากเส้น MACD ตัดลงมาต่ำกว่าศูนย์ ซึ่งถือเป็นสัญญาณทางเทคนิคอย่างหนึ่งที่เป็นการแสดงถึงแนวโน้มขาลงที่นักลงทุนต้องระวัง
แต่ถึงอย่างไรก็ตาม หากเป็นนักลงทุนที่เข้าซื้อตามสัญญาณทางเทคนิคนี้ ก็จะได้เข้าซื้อในช่วง $1,824 และได้ขายทำกำไรในช่วงเวลานี้ และหากราคาทองคำจะยังคงมีโอกาสเป็นแนวโน้มขาขึ้นได้นั้น จะต้องรักษาระดับราคาช่วง $1,900 นี้ให้ได้ ถ้าหากแนวรับช่วงนี้รับไม่อยู่ แนวรับถัดไปของราคาจะอยู่ที่ช่วง $1,865 - 1,875
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
คำเตือนเกี่ยวกับความเสี่ยง: การซื้อขายอาจทำให้คุณสูญเสียเงินทุนทั้งหมด การซื้อขายอนุพันธ์แบบ OTC อาจไม่เหมาะสำหรับทุกคน โปรดพิจารณาเอกสาร PDS, FSG, คำชี้แจงการเปิดเผยความเสี่ยงและข้อตกลงลูกค้าก่อนใช้บริการของเรา และตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โปรดทราบว่าคุณไม่ได้เป็นเจ้าของหรือมีผลประโยชน์ใด ๆ ในสินทรัพย์อ้างอิง