เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.13% ขึ้นไปสูงสุดของวันที่ $1,977 ก่อนที่จะทรงตัวอยู่ในบริเวณ $1,964 ในช่วงเช้าวันนี้ เมื่อคืนที่ผ่านมามีหนึ่งตัวเลขสำคัญที่ประกาศออกมาคือ Consumer price index (CPI) หรือดัชนีวัดเงินเฟ้อของสหรัฐ ที่ตลาดคาดการณ์ไว้ว่าจะออกมาที่ระดับ +8.4%
แต่จากรายงานจริงที่ออกมาตัวเลขนั้นอยู่ที่ระดับ +8.5% ซึ่งถือว่าสูงกว่าที่ตลาดคาดเล็กน้อย แต่ก็เป็นตัวเลขที่สูงที่สุดในรอบ 41 ปี ส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นดังที่เห็น เพราะตัวเลข CPI ที่ออกมานั้น อาจจะยิ่งเพิ่มแรงกดดันให้ Fed ขึ้นดอกเบี้ย +0.5% ในการประชุมครั้งหน้านี้ตามที่มีรายงานออกมาก่อนหน้า
“การพาดหัวข่าว CPI ของสหรัฐฯ ที่สูงกว่าที่คาดไว้อาจทำให้ราคาทองคำพุ่งเข้าใกล้ระดับ 2,000 ดอลลาร์ที่เป็นแนวต้านสำคัญทางจิตวิทยามากขึ้น” Han Tan หัวหน้านักวิเคราะห์ตลาดของ Exinity กล่าว
ในขณะที่ U.S. Dollar Index หรือดัชนีค่าเงินดอลลาร์ก็ขึ้นไปแตะระดับ 100 แล้ว สู่ระดับสูงสุดในรอบ เกือบ 2 ปี และทางด้านผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีเพิ่มขึ้นเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2018 การที่ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นทำให้ทองคำอาจจะมีความน่าสนใจน้อยลงสำหรับนักลงทุน ในขณะที่อัตราดอกเบี้ยและผลตอบแทนของสหรัฐฯ ที่สูงขึ้นก็จะทำให้นักลงทุนบางส่วนหันออกจากทองคำ ซึ่งไม่ได้มีผลตอบแทนเมื่อเทียบกับสินทรัพย์อื่น แต่ทองคำก็เป็นตัวเลือกที่ดีอยู่หากใช้เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ
อย่างไรก็ตามตัวเลข CPI ที่ออกมานั้นถึงแม้จะสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้แต่ก็เพียงเล็กน้อย ทำให้หลังจากที่มีการประกาศตัวเลขที่เป็นทางการออกมาสินทรัพย์ต่างๆ ก็เคลื่อนไหวต่อในแนวโน้มของแต่ละสินทรัพย์นั้น อย่างตลาดหุ้นต่างๆ ที่มีการปรับตัวลดลงมาหนึ่งถึงสองวัน หลังจากประกาศตัวเลขออกมาก็ปรับตัวกันลงต่อ ในขณะที่ทองคำที่แนวโน้มกำลังกลับตัวขึ้นหลังจากเคลื่อนไหวออกด้านข้างมาหนึ่งถึงสองสัปดาห์ก่อน ก็ค่อยๆ ปรับตัวขึ้นต่อ ไม่ได้มีการกลับตัวอะไรอย่างรุนแรงในสินทรัพย์ต่างๆ เป็นได้ว่าตลาดได้ทำการรับข่าวก่อนหน้าที่จะมีการประกาศตัวเลขทางการออกมาแล้วในระดับหนึ่ง และเมื่อตัวเลขทางการออกมาไม่ได้เกินกว่าที่คาดการณ์ไว้มาก ก็มีโอกาสที่สภาพคล่องอาจจะไหลออกจากทองคำและกลับไปหาสินทรัพย์เสี่ยงได้
แต่อีกปัจจัยหนึ่งที่จะยังช่วยพยุงราคาทองคำและทำให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นต่อนั้นคือ สถานการณ์สงครามระหว่างยูเครนและรัสเซีย สถานการณ์ล่าสุดเริ่มกลับมามีความตึงเครียดมากขึ้น ประธานาธิบดี Joe Biden ได้กล่าวหารัสเซียว่าฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในยูเครนเป็นครั้งแรก ส่งผลให้การประณามการรุกรานของประธานาธิบดี Vladmir Putin มีความรุนแรงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ความคิดเห็นดังกล่าวถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในมุมมองของทำเนียบขาวเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในยูเครน ก่อนหน้านี้ Biden กล่าวว่ารัสเซียไม่ได้ก่อการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ แม้ว่าเจ้าหน้าที่ของยูเครน ซึ่งรวมถึงประธานาธิบดี Volodymyr Zelenskiy จะมองว่าเป็นไม่ได้เป็นแบบนั้นก็ตาม แต่ท่าทีของ Joe Biden ก็เริ่มเปลี่ยนแปลงมากขึ้นหลังจากมีการเปิดเผยความโหดร้ายต่อพลเรือนในเมืองบูชา ประเทศยูเครน
ทางฝั่งของรัสเซียประธานาธิบดี Vladmir Putin ก็ได้กล่าวว่าการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครนนั้น ได้มาถึงทางตันแล้ว ทำให้ทางเลือกเดียวที่เหลืออยู่คือการทำสงครามต่อไป ซึ่งจากการที่สองประเทศมหาอำนาจมีท่าทีที่แข็งกร้าวแบบนี้ สถานการณ์ทางด้านเศรษฐกิจดูท่าจะยังไม่คลี่คลายง่ายๆ ในเมื่อทางประธานาธิบดี Putin เผยว่าการเจรจาถึงทางตันและทำสงครามต่อ เท่ากับเงินเฟ้อจะดำเนินต่อ ทางฝั่งประธานาธิบดี Biden ก็พิมพ์เงินต่อและถึงแม้จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแต่ก็ต้องย้ำว่าต้องลด QE ด้วยเงินเฟ้อถึงจะลดลง ทำให้หากมองในภาพลึกๆ แล้วทองคำยังดูมีแนวโน้มที่ดี
แนวโน้มของราคาทองคำหลังจากทะลุแนวต้านบริเวณ $1,960 - 1,965 มาได้ ในขณะนี้ราคามีโอกาสทรงตัวอยู่บริเวณนี้สักระยะ อาจจะมีการลดไปทดสอบบริเวณ $1,950 - 1,960 ได้อีกครั้งเพื่อเป็นฐานในการขึ้นต่อไป ซึ่งบริเวณดังกล่าวอาจจะเป็นโอกาสที่ดีในการเข้าซื้อเพิ่มเติม ในขณะที่หากเป็นการซื้อที่ราคา $1,900 เมื่อตั้งแต่สองสัปดาห์ที่แล้วก็ยังสามารถถือต่อไปได้ เพราะถ้าหากราคาสามารถยืนอยู่บริเวณนี้ได้ แนวต้านถัดไปของราคาทองคำจะกลับขึ้นไปทดสอบช่วงราคา $2,000
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
คำเตือนเกี่ยวกับความเสี่ยง: การซื้อขายอาจทำให้คุณสูญเสียเงินทุนทั้งหมด การซื้อขายอนุพันธ์แบบ OTC อาจไม่เหมาะสำหรับทุกคน โปรดพิจารณาเอกสาร PDS, FSG, คำชี้แจงการเปิดเผยความเสี่ยงและข้อตกลงลูกค้าก่อนใช้บริการของเรา และตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โปรดทราบว่าคุณไม่ได้เป็นเจ้าของหรือมีผลประโยชน์ใด ๆ ในสินทรัพย์อ้างอิง