เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาคงไม่มีข่าวอะไรที่ใหญ่ไปกว่าการประกาศสงครามของรัสเซียต่อยูเครน โดยจากการไล่เลี่ยงสถานการณ์ช่วงเช้าราคาทองคำยังคงทรงตัวอยู่แถวๆ $1,910 ก่อนที่ราคาจะเริ่มปรับตัวขึ้นในช่วงสายพร้อมกับมีรายงานข่าวว่าประธานาธิบดี Vladimir Putin ของรัสเซียได้ประกาศใช้ ปฏิบัติการทางทหารพิเศษ โดยให้เหตุผลว่ารัสเซียรู้สึกไม่ปลอดภัยจากภัยคุกคามของยูเครน ทำให้ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากประกาศการใช้กำลัง ทำให้ราคาตลาดหุ้นและ Cryptocurrency ที่นักลงทุนส่วนใหญ่มองเป็นสินทรัพย์เสี่ยงปรับตัวลง และส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับตัวสูงขึ้นแตะ $100 ต่อบาร์เรล เป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปี จากความกังวลที่รัสเซียซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันใหญ่เป็นอันดับที่ 3 ของโลกมีโอกาสจะโดนมาตรการคว่ำบาตรอย่างรุนแรง เหตุการณ์ยังทวีความรุนแรงขึ้นอย่างรวดเร็วหลังจากมีรายงานเพิ่มเติมว่ารัสเซียได้เข้าโจมตียูเครนทางอากาศแล้วในหลายๆ เมืองของยูเครน มีรายงานว่าประชาชนของยูเครนจำนวนมากพยายามหนีออกจากพื้นที่เสี่ยง เพื่อไปอยู่ให้ใกล้กับพื้นที่ที่อยู่ในความดูแลของ NATO เหตุการณ์ยังรุนแรงขึ้นทางรัฐบาลของยูเครนประกาศว่าหลายเมืองในประเทศที่มีประชากร 44 ล้านคนกำลังอยู่ภายใต้การโจมตีของรัสเซีย และมีการขอให้ประชาชนทุกคนที่สามารถถืออาวุธได้ให้มาเข้าร่วมกองกำลังเพื่อป้องกันดินแดนจากการบุกรุกของรัสเซีย รวมถึงออกมาเรียกร้องให้ประชาคมโลกดำเนินการคว่ำบาตรและมีมาตรการลงโทษอื่นๆ แก่รัสเซีย ในด้านทางฝั่งของ NATO ก็ได้ออกมาตอบรับกับสถานการณ์นี้ว่าจะตอบโต้อย่างรวดเร็ว แต่ที่น่าสังเกตุคือ NATO ไม่ได้ระบุแน่ชัดว่าจะตอบโต้ด้วยการใช้กำลังทหารโดยตรงต่อรัสเซีย หรือส่งกำลังทหารไปช่วยยูเครน หรือแต่ออกมาประนาม คว่ำบาตรรัสเซียให้หนักขึ้น เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ต้องจับตา เพราะก่อนที่รัสเซียจะทำการบุกยูเครนนั้น สมาชิก NATO หลายๆ ประเทศก็ได้มีการถอนกำลังกลับไปในพื้นที่ปลอดภัยกันเกือบหมด มีความเป็นไปได้ว่าก่อนที่รัสเซียจะทำการบุกยูเครน จริงๆแล้วจะมีการพูดคุยกับประเทศมหาอำนาจอื่นๆ อยู่ก่อน เพื่อไม่ให้เกิดการสูญเสียของประเทศอื่นๆ ซึ่งอาจจะเป็นเหตุการณ์บานปลายได้ ซึ่งหากเป็นเช่นนี้ยูเครนจะกลายเป็นประเทศที่รับเคราะห์ในเกมส์ของประเทศมหาอำนาจของโลก ในขณะที่ทางฝั่งของกระทรวงต่างประเทศของจีนก็รายงานว่าการเดินหน้าของกองกำลังรัสเซียในยูเครนไม่ใช่การบุกรุก รัสเซียเป็นประเทศอิสระและควรสามารถตัดสินใจได้เอง ซึ่งถือเป็นการแสดงจุดยืนว่าจีนไม่มีปัญหากับการตัดสินใจของรัสเซีย แต่อย่างไรก็ตามในความเคลื่อนไหวของจีนก็มีสิ่งที่ต้องจับตามอง หากจีนไม่ได้ขัดกับการกระทำของรัสเซียก็มีโอกาสที่จีนจะทำแบบเดียวกันกับไต้หวัน ซึ่งหากเกิดขึ้นในสถานการณ์ที่ฝั่งยูเครนก็ยังรุนแรงอาจจะเป็นชนวนจุดเริ่มของสงครามโลกได้
จากสถานการณ์ต่างๆ ทำให้ตลาดหุ้นและ Bitcoin โดนเทขายอย่างหนักและผลักดันให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นไปสูงสุดที่ระดับราคา $1,975 ซึ่งเป็นอีกหนึ่งแนวต้านสำคัญ ในช่วงเย็นของวันพฤหัสบดี ตามเวลาในประเทศไทย แต่อย่างไรก็ตามราคาก็เกิดการผันผวนโดยทองคำปรับตัวจากระดับรา $1,975 ลงมาที่ $1,878 ผันผวนเกือบ $100 และกลับมายืนอยู่ในระดับ $1,900 – 1,910 ในปัจจุบัน ในการที่ราคามีการเหวี่ยงระยะค่อนข้างกว้างแบบนี้เป็นที่น่าสังเกตุว่ามีลักษณะคล้ายกับในตลาดหุ้นที่มีการลากและกดราคาเพื่อสร้างผลประโยชน์ เพราะสถานการณ์ที่รุนแรงขึ้นจะผลักดันให้ราคาทองคำวิ่งขึ้นอย่างรุนแรงหรือไม่อย่างนั้นก็ค่อยๆปรับตัวขึ้นไปเรื่อยๆ ในฐานะสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยง ราคาไม่ควรที่จะผันผวนขนาดนี้ในช่วงเวลาสั้นๆ หรืออาจจะมีสถานการณ์ที่ยังไม่ได้มีการรายงานออกมา แต่เหตุการณ์นั้นสะท้อนออกมาที่ราคาที่ปรากฏแล้ว แต่อย่างไรก็ตามถึงแม้ราคาจะมีการเหวี่ยงขึ้นและลงแต่กลายเป็นว่าราคาก็กลับมาอยู่ในช่วงกรอบ $1,916 – 1,900 ที่เดิมและยังคงต้องจับตาสถานการณ์ต่อไป
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
คำเตือนเกี่ยวกับความเสี่ยง: การซื้อขายอาจทำให้คุณสูญเสียเงินทุนทั้งหมด การซื้อขายอนุพันธ์แบบ OTC อาจไม่เหมาะสำหรับทุกคน โปรดพิจารณาเอกสาร PDS, FSG, คำชี้แจงการเปิดเผยความเสี่ยงและข้อตกลงลูกค้าก่อนใช้บริการของเรา และตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โปรดทราบว่าคุณไม่ได้เป็นเจ้าของหรือมีผลประโยชน์ใด ๆ ในสินทรัพย์อ้างอิง