เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น + 0.6% ไปที่ระดับราคา $1,870 ปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อราคายังเป็นความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานะการณ์รัสเซียและยูเครน ทำให้ตลาดส่วนใหญ่โยกย้ายสภาพคล่องจากสินทรัพย์และตลาดที่มีความเสี่ยงเช่น หุ้น ออกมาหาทองคำมากขึ้น ทำให้ตลาดอย่างดาวโจนส์ปรับตัวลดลง -1.1% S&P ปรับตัวลง -1% ถึงแม้ช่วงวันจันทร์ที่ผ่านมารัฐมนตรีต่างประเทศของรัสเซียและประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซียจะหาทางแก้ปัญหาทางการทูตต่อวิกฤตนี้ และมีการแถลงว่าทางรัสเซียมองเห็นโอกาสที่จะสามารถแก้ไขปัญหาความตึงเครียดกับยูเครนด้วยการเจรจาได้ แต่รัสเซียก็ยังมีขอเรียกร้องให้ยูเครนปฏิเสธการเข้าเป็นสมาชิกของ NATO อยู่ ในขณะเดียวกันทางด้านสหรัฐฯ ก็ได้มีการสั่งปิดสถานทูตอเมริกันในเมืองเคียฟ ของยูเครน โดยมีคำกล่าวว่าการโจมตีของรัสเซียต่อยูเครนสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเวลา
ในขณะที่อีกหนึ่งปัจจัยที่มีผลกระทบต่อตลาดต่างๆ มาก่อนแล้วอย่างปัจจัยด้านเงินเฟ้อ โดยนาย Jame Bullard ประธาน FED ของเซ็นต์หลุยส์ออกมาแนะนำให้ FED ใช้นโยบายที่ Hawkish หรือ สนับสนุนให้มีการเร่งการขึ้นดอกเบี้ยให้เร็วและสูงขึ้นกว่านี้ โดย Bullard มองว่าเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ทุกวันนี้กลับมาแข็งแกร่งและสามารถรับมือกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ FED ได้แล้ว โดยในคำแนะนำของเขาบอกว่า FED ควรขึ้นดอกเบี้ยนโยบายจาก 0% ขึ้นมาเป็น 1% ภายในการประชุมเดือนกรกฏาคมที่จะถึงนี้
โดยคำแนะนำของ Bullard นี้ ถือว่าเป็นการขึ้นดอกเบี้ยที่เร็วและรุนแรงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯอายุ 10 ปี หรือ Bond Yield ดีดตัวขึ้นจากระดับ 1.9% ขึ้นมาเกือบ 2.0%
แต่อย่างไรก็ตามในการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนั้นอาจจะสามารถลดความร้อนแรงของเงินเฟ้อได้ส่วนหนึ่ง แต่ไม่ได้ทำให้เงินเฟ้อนั้นหายไปซะทีเดียว จึงทำให้ข่าวด้านการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนี้นั้นไม่สามารถกดดันราคาทองคำให้ตกลงมาได้ ถึงแม้สภาพคล่องที่ไหลออกจากตลาดหุ้นจะไม่ได้มาหาทองคำทั้งหมด แต่บางส่วนก็ไปถือ Bond Yield ที่สามารถให้ผลตอบแทนที่สูงขึ้นก็ตาม แต่ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลบวกกับราคาทองคำก็ยังมีทั้งความไม่สงบของโลกและเงินเฟ้อนั่นเอง
ในส่วนของแนวโน้มด้านราคานั้น ตอนนี้ราคาทองคำกำลังมุ่งหน้าสู่แนวต้านถัดไปที่ $1,876 ซึ่งในระยะสั้นมีโอกาสสูงที่จะไปทดสอบแนวต้านดังกล่าวและหากสามารถทะลุไปได้แนวต้านถัดไปจะอยู่ที่ช่วง $1,900 - 1,910 ในเบื้องต้น แต่อย่างไรก็ตามเมื่อถึงในแนวต้าน $1,870 นั้น มีโอกาสที่ราคาจะปรับตัวกลับลงมาแนวรับ $1,840 - 1,850 ได้อีกครั้ง ซึ่งจะเป็นจุดเข้าซื้อที่น่าสนใจอีกจุดหนึ่ง
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
คำเตือนเกี่ยวกับความเสี่ยง: การซื้อขายอาจทำให้คุณสูญเสียเงินทุนทั้งหมด การซื้อขายอนุพันธ์แบบ OTC อาจไม่เหมาะสำหรับทุกคน โปรดพิจารณาเอกสาร PDS, FSG, คำชี้แจงการเปิดเผยความเสี่ยงและข้อตกลงลูกค้าก่อนใช้บริการของเรา และตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โปรดทราบว่าคุณไม่ได้เป็นเจ้าของหรือมีผลประโยชน์ใด ๆ ในสินทรัพย์อ้างอิง