บทความนี้จะพูดถึงหุ้น AI ชื่อเต็มว่า Artificial Intelligence หรือหุ้นปัญญาประดิษฐ์ ที่น่าจับตามอง และเป็นหุ้นที่น่าลงทุนในปี 2023 รวมไปถึงการนำ AI เข้าไปมีส่วนร่วมในการจัดการพอร์ตของนักลงทุน สามารถอ่านในบทความกันได้เลย
AI ในยุคปัจจุบันถือเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวกับเรามาก AI กลุ่มใหญ่ ๆ ที่เรารู้จักกันจะมีอยู่ 2 กลุ่ม คือ
- กลุ่ม AI ที่สร้างภาพจากข้อความ (Text-to-Image)
- กลุ่ม AI ที่สื่อสารได้เหมือนคน (ChatGPT) ซึ่งเรากำลังพูดเนื้อหานี้อยู่ในบทความ
ทิศทางของ AI ในปีนี้คาดการณ์ว่าจะมีการพัฒนาให้ AI มีความก้าวล้ำและฉลาดมากขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อเป็นการเพิ่มความสะดวกสบายในชีวิตประจำวันเพิ่มมากยิ่งขึ้นไปอีก และหลายบริษัท Start-up จะมีการนำ AI มาปรับใช้เป็นแกนหลักกับธุรกิจของตนเองมากขึ้น ซึ่งเราเองก็ได้เห็นหลายบริษัทบางแห่งได้มีการนำ AI เข้ามาปรับใช้เป็นตัวขับเคลื่อนทางธุรกิจกับบ้างแล้วในช่วงเวลาที่ผ่านมา
เนื่องจากเทคโนโลยี AI จะทำให้ลดต้นทุนทางธุรกิจ ลดเวลา เนื่องจากการดำเนินธุรกิจต้องมีทรัพยากรส่วนนี้เป็นจำนวนมาและเจ้า AI ก็สามารถมาทดแทนสิ่งเหล่านี้ได้มากในหลาย ๆ อุตสาหกรรม ก็จะเป็นเรื่องที่มีความก้าวหน้า และเข้าถึง AI มากยิ่งขึ้นในปี 2023 นี้ เราก็คงต้องรอดูกันต่อไป
นี้เราลองมาดูตัวอย่างของบริษัท AI ตัว TOP ที่โด่งดังในตลาดหุ้นกัน ดังนี้
บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ชั้นนำที่ประสบความสำเร็จ จากการเป็นผู้นำเทคโนโลยี Search Engine หรือเครื่องมือค้นหาข้อมูลที่ใช้งานได้กับทุกอุปกรณ์ จนผู้คนนิยมใช้กันทั่วโลก จากนั้นนำ AI เข้ามาช่วยพัฒนาระบบค้นหาในภาษาใหม่ ๆ เช่น ค้นหาผ่านกล้อง หรือค้นหาด้วยเสียง หรือการค้นหาโดยใส่ปัจจัยนำเข้าหลาย ๆ อย่างในครั้งเดียว ซึ่งก็ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำและตรงกับความต้องการของผู้ใช้มากขึ้น ล่าสุด Google ได้เปิดตัว Bard คู่แข่งของ ChatGPT แชทบอทจะทำงานบน LaMDA ของ Google หรือโมเดลภาษาสำหรับแอปพลิเคชันการสนทนา LaMDA
ผลประกอบการของ Google ในปี 2022
ปี 2022 | ปี 2021 | % เปลี่ยนแปลง YoY | |
ยอดขายสุทธิ | $69,685 ล้าน | $61,880 ล้าน | 13% |
รายได้รวม | $16,002 ล้าน | $18,525 ล้าน | -13.6% |
กำไรต่อหุ้น (EPS) | $1.21 | $1.36 | -12.4% |
ที่มา: Admiralmarkets
ต่อมาเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ค้าปลีกอย่าง Amazon ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่ง โดยจำหน่ายสินค้าแทบทุกประเภททางออนไลน์ ซึ่งรวมถึง Cloud Computing ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และดิจิทัลสตรีมมิ่งต่างๆ นอกจากนี้ยังมีบริษัทในเครือมากกว่า 40 ราย จึงทำให้ Amazon มีเงินลงทุนจำนวนมากในบริษัทที่แตกต่างออกไป
อีกทั้งบริษัทยังใช้ Machine Learning และ Model คาดการณ์เพื่อปรับปรุงคำแนะนำผลิตภัณฑ์ อุปกรณ์ Alexa และบริการคลาวด์ของ AWS ยังแนะนำปัญญาประดิษฐ์ในการช็อปปิ้งที่มีหน้าร้านจริงด้วยระบบชำระเงิน Just Walk Out
ผลประกอบการของ Amazon ในปี 2022
ปี 2022 | ปี 2021 | % เปลี่ยนแปลง YoY | |
ยอดขายสุทธิ | $121.2 พันล้าน | $113.1 พันล้าน | 6.7% |
รายได้จากธุรกิจหลัก | $3.3 พันล้าน | $7.7 พันล้าน | -57% |
กำไรสุทธิ | $2 พันล้าน | $7.8 พันล้าน | - |
กำไรต่อหุ้น (EPS) | $0.22 | $0.77 | - |
ที่มา: Admiralmarkets
เป็นหุ้นเทคโนโลยี Search Engine ของประเทศจีน ที่กินส่วนแบ่งมากถึง 70% จริง ๆ แล้วในจีนก็สามารถค้นหาใน Google ได้เหมือนกัน แต่คนไม่ค่อยนิยม จึงเป็นสาเหตุทำให้ Google China ต้องถอยกลับประเทศไป ปล่อยให้ Baidu เป็นใหญ่เพียงผู้เดียว
นอกเหนือจากธุรกิจคลาวด์ที่เติบโตอย่างรวดเร็วแล้ว Baidu ยังขับเคลื่อนไปสู่การวิจัยการขับขี่อัตโนมัติบนพื้นฐาน AI ในปี 2566 หวังที่จะส่งมอบแผนพัฒนา พื้นที่ให้บริการเรียกรถโดยสารอัตโนมัติที่ใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย
ผลประกอบการของ Baidu ในปี 2022
ปี 2022 | ปี 2021 | % เปลี่ยนแปลง YoY | |
ยอดขายสุทธิ | 32,540 ล้านหยวน | 31,921 ล้านหยวน | 2% |
รายได้รวม | 5,889 ล้านหยวน | 5,090 ล้านหยวน | 16% |
ที่มา: ir.baidu.com
เป็นแพลตฟอร์มระบบซอฟต์แวร์ AI ระดับองค์กรบนคลาวด์ที่เกือบจะสำเร็จรูป สำหรับการให้บริการระบบ IoT ที่ใช้ในภาคอุตสาหกรรมการผลิต อุตสาหกรรมพลังงาน โดยการปรับแต่งให้เข้ากับลูกค้าแต่ละราย เช่น บริษัทพลังงาน Engie, 3M บริษัทพลังงานในไทย และบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Amazon และ Google ยังต้องพึ่งพา C3.ai เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพบริการคลาวด์ของตนนั่นเอง
ผลประกอบการของ C3.ai Inc. ในปี 2022
ปี 2022 | ปี 2021 | % เปลี่ยนแปลง YoY | |
ยอดขายสุทธิ | $ 252,759 พันล้าน | $ 183,217 พันล้าน | 38 % |
รายได้รวม | $ 63,713 พันล้าน | $ 44,519 พันล้าน | 43 % |
ที่มา: C3.ai 2022 รายงานประจำปี
เป็นบริษัทผู้ผลิตและพัฒนาซอฟต์แวร์รายใหญ่ของโลกที่เรารู้จักกันในนาม Microsoft Office ที่เราใช้ในการทำงานกันอยู่เกือบทุกวันอย่าง Word โปรแกรมสำหรับทำรายงาน พิมพ์เอกสาร Excel สำหรับการใส่สูตรคำนวณ ทำตาราง และ PowerPoint เป็นโปรแกรมสำหรับการนำเสนองานนั่นเอง เป็นโปรแกรมที่มีอัตราการเติบโตสูง และนอกจากโปรแกรมสำนักงานแล้ว Microsoft ยังมีธุรกิจเกม Xbox อีกด้วย
และที่ผ่านมา Satya Nadella ซีอีโอของ Microsoft ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการเสิร์ชเอนจิ้นใหม่ ที่ใช้เทคโนโลยีของไมโครซอฟท์เอง สำหรับการค้นหาข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต ให้สามารถทำงานร่วมกับผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ของไมโครซอฟท์ เช่น การค้นหาข้อมูลในสารานุกรม "เอนคาร์ต้า" (Encarta) พร้อมสร้างแพลตฟอร์มใหม่ตอบสนองผู้บริโภคอีกด้วย
ผลประกอบการของ Microsoft - MSFT ในปี 2022
ปี 2022 | ปี 2021 | % เปลี่ยนแปลง YoY | |
ยอดขายสุทธิ | $49,360 ล้าน | $41,706 ล้าน | 18% |
รายได้รวม | $16,728 ล้าน | $15,457 ล้าน | 8% |
ที่มา: microsoft.com
เป็นบริษัทผลิตการ์ดจอที่สามารถตอบสนองการใช้งานได้เป็นอย่างดี และใช้เวลาเพียง 6 ปี ในการพาตัวเองเข้าตลาดหลักทรัพย์ เพราะได้รับกระแสการตอบรับเป็นอย่างดีจากการที่มีคนซื้อการ์ดจอไปใช้ขุดเหมืองสกุลเงินดิจิทัลที่กำลังเป็นขาขึ้นในปี 2021 หรือวงการ AI ที่ต้องใช้คอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูงในการประมวลผลจึงต้องใช้สินค้าของ Nvidia เข้ามาเสริมสมรรถนะคอมพิวเตอร์นั่นเอง และคาดการณ์ว่า อีก 3-5 ปีข้างหน้า ในเรื่องของ Cloud Computing ยังมีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้นเรื่อย ๆ อีกด้วย
คุณน่าจะรู้จัก Nvidia ในฐานะผู้ผลิตชิประดับไฮเอนด์ที่ช่วยให้คอมพิวเตอร์และทีวีของคุณสามารถสตรีม NetflixNFLX -2.7% และนำเสนอข่าวสารด้านการลงทุนได้ แต่ชิปของ Nvidia นั้นมีความสามารถมากกว่านั้นอีกมาก นั่นคือ ขับเคลื่อนอนาคตของปัญญาประดิษฐ์
Nvidia มีการใช้งานแล้วในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น การดูแลสุขภาพ การเงิน สื่อสังคมออนไลน์ และบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่อย่าง Meta และ Google ได้นำ GPU ของ Nvidia มาใช้เพื่อขับเคลื่อนแอปพลิเคชัน AI และมีความหวังด้านปัญญาประดิษฐ์มากขึ้น ความต้องการโปรเซสเซอร์เฉพาะทางก็จะพุ่งสูงขึ้นเท่านั้น
ผลประกอบการของ Nvidia Corporation Nvidia ในปี 2022
ปี 2022 | ปี 2021 | % เปลี่ยนแปลง YoY | |
ยอดขายสุทธิ | $7,103 ล้าน | $4,726 ล้าน | 50% |
รายได้รวม | $2,464 ล้าน | $1,336 ล้าน | 84% |
กำไรต่อหุ้น (EPS) | $0.97 | $0.53 | 83% |
ที่มา: nvidianews.nvidia.com
บริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้า 100% โดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยไม่ต้องใช้น้ำมัน สร้างความแปลกใหม่อย่างมาก เป็นบริษัทรถยนต์ที่มีมูลค่าสูงที่สุด และมีการนำ AI มาใช้ช่วยในการขับเคลื่อนอีกด้วย นอกจากนี้เทสล่ายังมีการทำกำไรอย่างก้าวกระโดดมาก ทั้งรายได้เพียง 9 เดือนแรกในปี 2022 ทำได้เป็น 2 เท่า เมื่อเทียบกับทั้งปี 2020 รวมถึงกำไรที่เติบโตขึ้นเป็น 13 เท่า ในช่วงเวลาเดียวกัน จึงเป็นเหตุให้กองทุนเปิด MEGA10 และ MEGA10RMF มีการเข้าไปลงทุนในบริษัทแห่งนี้ด้วย
ความก้าวหน้าด้านปัญญาประดิษฐ์ AI ของเทสลาอาจเป็นข่าวที่คุ้มค่าการลงทุนในปีต่อ ๆ ไป เช่น หวังที่จะใช้ประโยชน์บนท้องถนนด้วยบริการหุ่นยนต์แท็กซี่ และถ้าทุกอย่างเป็นไปได้ดี Tesla อาจเปิดตัวหุ่นยนต์คล้ายมนุษย์ที่ใช้งานได้จริงในปีหรือสองปีหน้า Tesla ยังได้รวม AI เข้ากับระบบควบคุมคุณภาพเพื่อทำให้กระบวนการเป็นอัตโนมัติและลดความซับซ้อนอีกด้วย
ผลประกอบการของ Tesla ในปี 2022
ปี 2022 | ปี 2021 | % เปลี่ยนแปลง YoY | |
ยอดขายสุทธิ | $24,318 ล้าน | $17,719 ล้าน | 37% |
รายได้รวม | $21,307 ล้าน | $4,585 ล้าน | 33% |
กำไรต่อหุ้น (EPS) | $1.07 | $0.68 | 57% |
ที่มา: tesla-cdn.thron.com
หุ้น AI มีความเสี่ยงที่แตกต่างกัน ทางเลือกที่ปลอดภัยเพื่อหลีกเลี่ยงความผันผวนของราคาหุ้น อาจเป็นการเลือกหุ้น AI ที่มีการพัฒนาในรูปแบบเจาะจง เช่น หุ้น AI ที่พัฒนาด้านเกม หุ้น AI ที่พัฒนาด้านระบบซอฟต์แวร์ เพราะว่าในปัจจุบัน AI เริ่มมีการแทรกแซงของการดำรงชีวิตเราในปัจจุบันมากยิ่งขึ้น อีกทั้งบางบริษัทก็ได้มีการนำรูปแบบของ AI เข้ามาปรับใช้แล้วคาดว่าจะมีการพัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ และมีแนวโน้มของการเติบโตสูงขึ้น จากประสบการณ์ของผู้เขียนเลยคิดว่า การเลือกลงทุนหุ้น AI แบบเจาะจงจะสามารถทำกำไรให้นักลงทุนได้มากกว่า
สำหรับการใช้ AI เพื่อทำกำไรนั้น แน่นอนว่าการลงทุนต้องมีความเสี่ยงอย่างแน่นอน ไม่มีการลงทุนไหนจะไม่ได้รับความเสี่ยงเลย เนื่องจากการลงทุนย่อมมีความผันผวนอยู่แล้ว อยู่ที่ว่าจะเกิดความผันผวนมากขึ้นหรือน้อยลงเท่านั้นเอง
ควรมีการวางแผนปรับการลงทุนเพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยงของนักลงทุนเอง ซึ่งวิธีการลงทุนแบบกระจายความเสี่ยงก็เหมาะกับการลงทุน AI ในระยะยาว เพราะการลงทุน AI อาจจะต้องใช้ระยะเวลาพอสมควรในการทำกำไร อีกทั้งผู้ลงทุนไม่จำเป็นต้องจับตาอยู่ตลอดเวลาเพื่อซื้อขายหุ้น แต่เป็นการประเมินความเสี่ยงล่วงหน้า และปล่อยให้เงินทำงานเอง
ให้ AI เลือกหุ้นของคุณ?
จากการวิเคราะห์ AI ในการลงทุนพบว่า AI จะเลือกหุ้นที่มีความโดดเด่นด้านคุณภาพเป็นหลัก และเลือกหุ้นที่มีความผันผวนต่ำให้กับนักลงทุน
มีการแนะนำนักลงทุนให้เลือกลงทุนในหุ้นบริษัทขนาดใหญ่ มีผลประกอบการค่อนข้างดี มีสภาพคล่องทางการเงิน ทำกำไรได้สม่ำเสมอ
AI จะเลือกหุ้นที่มีความผันผวนต่ำและมีโอกาสชนะกับสภาวะตลาดที่ผันผวนให้กับนักลงทุน ถึงแม้จะมีความเสี่ยงแต่ก็ยังมีโอกาสน่าลงทุนอยู่
การตัดสินใจของ AI หากเราเอามาเปรียบเทียบกับมนุษย์ ด้านการลงทุนถ้าเป็นการตัดสินใจจากคำแนะนำและการฟันธงของมนุษย์ย่อมมีความลังเล ส่วนหนึ่งเพราะตลาดมีการเปลี่ยนแปลงไปจากที่คาดการณ์ไว้ได้ตลอดเวลา แต่ถ้าเราใช้ AI เป็นผู้ช่วยการลงทุน AI จะได้รับการตั้งโปรแกรมให้ปรับไปตามหลักเกณฑ์ในการวิเคราะห์ ช่วยลดอคติกับหุ้นที่ลงทุนหรือช่วงเวลาในการลงทุนอย่างได้ผล ด้วยกระบวนการประมวลผลอัจฉริยะนั่นเองค่ะ
โดยรวมถือว่าการใช้ AI ในการช่วยวิเคราะห์เลือกหุ้นให้กับนักลงทุน เป็นตัวช่วยที่ดีเลย เพราะว่าการลงทุนโดยมี AI เป็นตัวช่วยจะเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกได้ดีกว่า เหมาะสำหรับมือใหม่หัดเทรดอีกด้วย แต่อย่างไรก็ตาม ในเรื่องของความแม่นยำ AI ยังไม่สามารถทำผลลัพธ์ (output) ได้อย่างถูกต้อง 100%
ก่อนอื่นเรามาทำความรู้กับ ChatGPT กันก่อน ChatGPT ถือเป็นอีกหนึ่ง AI ChatBot ที่พึ่งเปิดตัวเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมานี่เอง เป็น Software ที่ได้รับการพัฒนาจากบริษัท OpenAI ความพิเศษของ ChatGPT ที่มีความสามารถโต้ตอบกับเราได้อย่างเป็นธรรมชาติเหมือนคุยกับมนุษย์จริง ๆ สามารถโต้ตอบได้ดีกว่าแชทบอทที่ผ่านมา จึงเป็นเหตุที่ทำให้ ChatGPT เป็นที่โด่งดังมาก
ChatGPT สามารถทำงานได้ดีในช่วงเศรษฐกิจถดถอย โดยการระบุกลยุทธ์และให้คำแนะนำการลงทุนตามการวิเคราะห์ให้นักลงทุน ยังทำหน้าที่เป็นผู้จัดการทางการเงิน เพื่อปรับปรุงการเงินส่วนตัวอีกด้วย
จะเห็นได้ว่าในตลาดเมื่อเร็ว ๆ นี้ ปริมาณการซื้อขายหุ้น AI เช่น BuzzFeed, C3.ai, SoundHound AI และ BigBear.aiHoldings เพิ่มสูงขึ้น และความผันผวนของราคาหุ้นก็น่าเวียนหัว
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ตรงกันข้ามกับกระแสของบริษัทที่เกี่ยวข้องกับ AI ในตลาดในปัจจุบันคือการใช้ AI อย่างมืออาชีพของนักลงทุน จากการสำรวจข้างต้น เห็นได้ชัดว่านักลงทุนส่วนใหญ่ไม่ได้ใช้ AI อย่างมืออาชีพเพียง 12% แต่พวกเขาใช้ถึง AI 27% ซึ่งเป็นจำนวนเปอร์เซ็นที่เยอะพอสมควรในการลงทุนโดยอาศัยข้อมูลจาก AI
วิธีใช้ ChatGPT
สมัครสมาชิกและทำการลงชื่อเข้าใช้งาน https://chat.openai.com/auth/login
การสมัคร ChatGPT จะมีให้สมัครตอนนี้อยู่ 3 รูปแบบก็คือ
1.สมัครบัญชีผ่าน ChatGPT โดยตรง
2.เชื่อมต่อด้วยบัญชี Google
3.เชื่อมต่อด้วยบัญชี Microsoft Account
หลังจากสมัครสมาชิกเรียบร้อยแล้วให้เข้าไปที่ chat.openai.com/chat
จากนั้นนักลงทุนสามารถถามอะไรก็ได้ ให้ AI ช่วยตอบ แต่ควรถามในข้อมูลที่สามารถมีความเป็นไปได้
ChatGPT สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง เช่น
- สรุปและแปลข้อมูลที่มีปริมาณมาก ๆ ได้
- สร้างเนื้อและหลักสูตรการเรียนรู้หรืออบรม
- สามารถช่วยแก้ไขจุดบกพร่องของโค้ดเขียนโปรแกรมได้
- ใช้ในการทำการตลาดดิจิทัล
- สร้างคำอธิบายสินค้าและเนื้อหาอื่น ๆ
การพัฒนาและข้อจำกัดของ ChatGPT
ChatGPT มีการพัฒนาระบบ AI ในเรื่องของความปลอดภัยที่สูงขึ้น และการป้องกันความเสี่ยงจากการใช้เทคโนโลยี เนื่องจากเคยเกิดเหตุการณ์ความปั่นป่วนต่อตลาดทุนอังกฤษที่หุ่นยนต์ได้เทขายหุ้นที่มากผิดปกติหลังเกิด Brexit ที่ไม่สอดคล้องกับปัจจัยที่ควรจะเป็น
ปัจจุบันการพัฒนาระบบของ ChatGPT ได้มีการพัฒนามาถึงเวอร์ชั่น 3.5 ปลายปี 2565 ที่ผ่านมา มีชุดความรู้สูงถึง 175 พันล้านชุดข้อมูลในฐานองค์ความรู้ อีกทั้งยังมีความถูกต้องในคำตอบพอสมควร
ข้อจำกัดของ ChatGPT
ถึงแม้ว่า ChatGPT จะมีความฉลาดอยู่มาก แต่ข้อมูลบางอย่างยังต้องได้รับการพัฒนาเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็น
- การไม่สามารถให้คำแนะนำเฉพาะเจาะจงได้ อย่างเช่น การให้คำแนะนำเกี่ยวกับเรื่องภาษี
- ไม่สามารถคาดการณ์เกี่ยวกับในรูปแบบของการเมือง การเติบโตของเศรษฐกิจ ภัยพิบัติธรรมชาติ และการก่อการร้าย ข้อมูลพวกนี้ AI ไม่สามารถเรียนรู้และวิเคราะห์ข้อมูลให้เราได้ถูกต้องครบถ้วน จึงอาจจะเป็นข้อจำกัดสำหรับการลงทุนในตลาดหุ้น
- อาจเกิดภัยคุกคามจากการใช้ ChatGPT ในการสร้างข่าวปลอมเพื่อการเผยแพร่ข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง
คุณจะนำ AI มาสู่พอร์ตโฟลิโอของคุณได้อย่างไร
ปัจจุบันมีการนำเทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยในการลงทุน สร้างประโยชน์มากมายทำให้บริษัทมีการพัฒนาเทคโนโลยีมากขึ้น เพื่อมาออกแบบหลักการลงทุนที่หลากหลายกว่าเดิม ให้ตอบโจทย์ความต้องการและการเข้าถึงของนักลงทุนที่มากขึ้นกว่าเดิม นอกจาก ChatGPT แล้ว ก็ยังมีแอปพลิเคชัน AI อื่น ๆ ที่เกิดขึ้นอีก อย่างอย่างเช่น
บริการ ROBO ADVISOR ของ SCB มีการบริการจัดพอร์ตลงทุนรวมอัตโนมัติ ผ่านแอปพลิเคชัน EASY INVEST ที่จะช่วยทำให้การลงทุนสะดวก และคอยติดตามบริหารพอร์ตลงทุนให้ อัตโนมัติ ตลอด 24 ชั่วโมง เหมาะกับทุกคนที่ต้องการลงทุน โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการอยากลงทุน แต่มีความรู้ด้านการลงทุนไม่มากพอ และเป็นผู้ที่ไม่อยากใช้เงินในการลงทุนครั้งละมาก ๆ ซึ่งนักลงทุนเองก็สามารถนำแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ให้บริการวางแผนทางการเงินและการลงทุนแบบอัตโนมัติ มาปรับสมดุลการลงทุนในพอร์ตของคุณเองได้อีกด้วย
Seeing AI เป็นหนึ่งแอปพลิเคชันที่น่าสนใจจาก Microsoft ที่ไม่ได้ตอบโจทย์เฉพาะคนทั่วไป แต่ใส่ใจไปจนถึง ผู้พิการทางการมองเห็น โดยการทำงานของแอปพลิเคชันนี้ เพียงแค่เปิดกล้องแล้วให้จับภาพไปในสิ่งที่ต้องการบรรยาย เช่น อย่างเราส่องไปที่คน แอปพลิเคชันจะบรรยายเป็นเพศอะไร กำลังทำอะไรอยู่ หรือการส่องไปที่บาร์โค้ด เพื่อตรวจจับว่าเป็นสินค้าอะไร
หากคุณกำลังเหงา ต้องการเพื่อน หรือเป็นการปรึกษาเรื่องราวต่าง ๆ Replika สามารถคุยกับคุณได้ตลอดเวลา เพราะมีเทคโนโลยี AI คอยเลียนแบบพฤติกรรมผู้ใช้งาน จนหลายคนคิดว่าเหมือนคุยกับคนจริง ๆ ก็ล้ำไปอีกแบบ
และนอกจากนี้บริษัท แอ็กนอสเฮลท์ และ ร้านยากรุงเทพ ได้ร่วมมือกันสร้างแอปพลิเคชันสำหรับดูแลสุขภาพ โดยคนไทยเพื่อคนไทย โดยการเริ่มตรวจสุขด้วยตัวเองเบื้องต้น จากนั้นนำรหัสในแอปพลิเคชันไปรับยาได้ตลอด 24 ชั่วโมงเลย เรียกว่าประหยัดเวลามาก ๆ เลย
อย่างไรก็ตามการให้ AI เป็นผู้ช่วยในการลงทุน ไม่ได้หมายความว่าผู้ลงทุนเองไม่ต้องศึกษาเรื่องการลงทุน เพราะบางอย่างต้องอาศัยความเข้าใจด้วยตนเอง อีกทั้ง AI ยังไม่สามารถตอบสนองความต้องการเฉพาะบุคคลได้เต็ม 100% เพราะฉะนั้นเรายังคงต้องหมั่นหาความรู้ในการลงทุนอย่างไม่หยุดหย่อนนะคะ
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
คำเตือนเกี่ยวกับความเสี่ยง: การซื้อขายอาจทำให้คุณสูญเสียเงินทุนทั้งหมด การซื้อขายอนุพันธ์แบบ OTC อาจไม่เหมาะสำหรับทุกคน โปรดพิจารณาเอกสาร PDS, FSG, คำชี้แจงการเปิดเผยความเสี่ยงและข้อตกลงลูกค้าก่อนใช้บริการของเรา และตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โปรดทราบว่าคุณไม่ได้เป็นเจ้าของหรือมีผลประโยชน์ใด ๆ ในสินทรัพย์อ้างอิง