Tesla(เทสล่า) เป็น เทสลาเป็นหนึ่งในบริษัทที่จดทะเบียนที่ใหญ่ที่สุดในโลก ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเป็นผู้นำอุตสาหกรรมด้วยส่วนแบ่งตลาด 81% ตามการประมาณการปี 2020
สำหรับนักลงทุนที่กำลังมองหาวิธีในการลงทุนในหุ้น Tesla(เทสล่า) การลงทุนในกองทุนที่ลงทุนใน Tesla(เทสล่า) เป็นหนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยม กองทุนที่ลงทุนใน Tesla(เทสล่า) ในไทยมีอะไรบ้าง? วันนี้เรามาดูกันเลย
เช็ควิธีอื่นๆ ในการลงทุนหุ้น Tesla(เทสล่า) ที่ได้รับความนิยม>>> ลงทุนหุ้น Tesla(เทสล่า) ยังไง?2 วิธีในการลงทุนหุ้น Tesla แบบเริ่มต้นได้เร็ว |
ด้วยเงินต้นเพียง 5,000 บาทคุณก็สามารถลงทุนในหุ้น Tesla(เทสล่า) ได้ผ่านกองทุน ซึ่งปัจจุบันกองทุนรวมในประเทศไทยมีหลายกองที่ลงทุนในหุ้นเทคโนโลยีที่ตลาดหุ้นสหรัฐ ที่แน่นอนว่าเงิน 5,000 บาทที่ลงไปจะไม่ได้ลงในหุ้น Tesla(เทสล่า) ทั้ง 100% แต่กองทุนจะมีการกระจายการลงทุนไปยังหุ้นอื่น ๆ ที่คัดสรรมาแล้ว ตัวอย่างเช่น
◈ กองทุน TMB-ES-AUTOMATION ของบลจ.ทหารไทย ที่มีนโยบายลงทุนในกองทุน ARK Autonomous Technology & Robotics ETF และกองทุนต่างประเทศที่ลงทุนในหุ้นเทคโนโลยีเกี่ยวกับการทำงานแบบอัตโนมัติและวิทยาการหุ่นยนต์ ซึ่งมีการลงน้ำหนักในหุ้น Tesla เป็นอันดับ 1 ที่ 10.83%
◈ กองทุน T-ES-GINNO หรือกองทุนเปิดธนชาต อีสท์สปริง Global Innovation มีนโยบายลงทุนในกองทุน Nikko AM ARK Disruptive Innovation Fund ที่ลงทุนในหุ้นของบริษัททั่วโลก เน้นเฉพาะหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากการดัสรัปทางเทคโนโลย ซึ่งกองทุนนี้ก็ถือหุ้น Tesla อยู่ราว 9.47%
◈ กองทุน ONE-UGG-RA จากบลจ.วรรณ เป็นอีกหนึ่งกองทุนที่มีโนยบายลงทุนในกองทุนอื่น ซึ่งกองทุนนี้เลือกลงทุนใน กองทุน Baillie Gifford Worldwide Long Term Global Growth Fund เป็นกองทุนหลัก และกองทุนนี้ก็เน้นการเลือกหุ้นในบริษัททั่วโลกที่มีนวัตกรรมและการเติบโตสูง โดยมีสัดส่วนการลงทุนในหุ้น Tesla อยู่ที่ 7.2%
วิธีลงทุนในหุ้น Tesla ผ่านกองทุนนั้นก็ไม่ยาก เพียงแค่เปิดบัญชีกองทุนกับบลจ.ที่เลือกไว้ ซึ่งใช้เวลาไม่นานไม่ต่างกับการเปิดบัญชีธนาคาร จากนั้นก็สามารถระบุกองทุนที่ต้องการลงทุนและส่งคำสั่งซื้อขายหน่วยลงทุนได้ทันที ซึ่งบลจ.จะทำรายการเพียงวันละครั้ง ณ ราคาสิ้นวัน และยืนยันรายการซื้อขายกองทุนในวันถัดไป
การลงทุนในกองทุนที่ลงทุนใน Tesla(เทสล่า) เป็นหนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยม แต่ทุกวิธีก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียด้วยและการเข้าใจในจุดนี้จะสำคัญมาก เพราะจะสามารถช่วยเราประกอบการตัดสินใจเลือกวิธีที่เหมาะกับตัวเองได้ ต่อไปก็ตามมาดูกันเลยว่า การลงทุนในกองทุนที่ลงทุนใน Tesla มีข้อดีและข้อเสียอย่างไรบ้าง
ข้อดี
● มีขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยาก ค่าธรรมเนียมไม่แพง ใช้เงินลงทุนไม่มาก จึงค่อนข้างเป็นวิธีที่เหมาะกับนักลงทุนรายย่อย
● มีผู้จัดการกองทุนมืออาชีพคอยดูแลเงินลงทุนและปรับพอร์ตให้แบบอัตโนมัติ โดยที่นักลงทุนไม่ต้องวุ่นวายคอยจัดการเงินลงทุนเอง
● ไม่มีต้นทุนการถือครองในระยะยาว สามารถถือลงทุนได้นานเท่าที่ต้องการ
ข้อเสีย
● นักลงทุนไม่สามารถเลือกลงทุนในหุ้น Tesla ได้ทั้ง 100% ของเงินลงทุน เพราะกองทุนมีการกระจายพอร์ตการลงทุน
● สามารถทำรายการซื้อขายได้เพียงวันละครั้งโดยที่จะไม่รู้ราคาซื้อขายที่แน่ชัด แต่จะมีการยืนยันจากกองทุนในเช้าวันถัดไป
● นักลงทุนไม่ได้เป็นเจ้าของหุ้น จึงไม่มีสิทธิร่วมประชุมผู้ถือหุ้น
● มีต้นทุนแฝงจากการถือหน่วยลงทุนเป็นต้นทุนค่าธรรมเนียมการบริหารจัดการกองทุน ซึ่งจะคิดอยู่ราว 1.0 - 1.5% ต่อปี โดยคิดรวมเข้าไปใน NAV ของกองทุน ที่แม้นักลงทุนจะไม่ต้องจ่ายต้นทุนส่วนนี้เพิ่ม แต่ก็ทำให้กำไรที่ได้น้อยลง
เช็ควิธีอื่นในการลงทุนหุ้น Tesla(เทสล่า)>>>
ลงทุนหุ้น Tesla(เทสล่า) ยังไง?2 วิธีในการลงทุนหุ้น Tesla แบบเริ่มต้นได้เร็ว
|
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
คำเตือนเกี่ยวกับความเสี่ยง: การซื้อขายอาจทำให้คุณสูญเสียเงินทุนทั้งหมด การซื้อขายอนุพันธ์แบบ OTC อาจไม่เหมาะสำหรับทุกคน โปรดพิจารณาเอกสาร PDS, FSG, คำชี้แจงการเปิดเผยความเสี่ยงและข้อตกลงลูกค้าก่อนใช้บริการของเรา และตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โปรดทราบว่าคุณไม่ได้เป็นเจ้าของหรือมีผลประโยชน์ใด ๆ ในสินทรัพย์อ้างอิง