เยี่ยมชม Mitradeเทรดกับ เว็บ Mitradeเทรดกับ แอพ Mitradeเทรดกับ แอพ Mitrade
สแกนเพื่อดาวน์โหลด
นโยบายกองบรรณาธิการเกี่ยวกับเรา
Mitrade Logoมุมมองการลงทุน

วิเคราะห์หุ้น Pfizer(ไฟเซอร์) และราคาที่ควรเป็นในปี 2022

ผู้เขียน
|อัพเดทครั้งล่าสุด 09 ก.ย. 2565 07:21 น.
539
ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย

เทรนสุขภาพยังคงแรงไม่แผ่วโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อผ่านช่วงโควิดมาแบบหมาด ๆ แบบนี้ และหนึ่งในหุ้นบริษัทผู้ผลิตวัคซีนอย่าง Pfizer ก็เป็นที่จับตามองและได้รับอานิสงส์จากความโกลาหลในครั้งนี้ด้วยยอดขายวัคซีนโควิดที่ออกจำหน่ายในปี 2021 ได้กว่า $37 พันล้านดอลลาร์ และหากรวมรายรับจากผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ในปีเดียวกันนั้นแล้ว ในปี 2021 Pfizer ก็กวาดรายรับในปีที่แล้วทั้งปีไปกว่า $81.28 พันล้าน เติบโตมากกว่าปีก่อหน้าถึงเกือบเท่าตัวทีเดียว


แม้โรคระบาดจะเริ่มจางไป แต่เทรนสุขภาพและความไม่แน่นอนเรื่องโรคระบาดยังคงดำเนินต่อไป แนวโน้มนี้เด่นชัดมาตั้งแต่ปี 2014 ที่รายรับของตลาดยาและเวชภัณฑ์ทะยานแตะ 1 ล้านล้านดอลลาร์เป็นครั้งแรกด้วยการเติบโตเฉลี่ยปีละ 5.8% จนมาถึงในปี 2021 ตลาดนี้ก็กลายเป็นอุตสาหกรรมที่ใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลกด้วยมูลค่ารายรับทั้งหมดของอุตสาหกรรมที่ 1.4 ล้านล้านดอลลาร์ นับเป็นอุตสาหกรรมที่กินส่วนแบ่งทางการตลาดจำนวนมาก ขณะที่มีบริษัทที่มีส่วนแบ่งในมูลค่าการตลาดนี้ไม่มาก และหนึ่งในบริษัทยายักษ์ใหญ่ที่น่าจับตามองก็คือ Pfizer 


ปัจจุบัน Pfizer มีมูลค่าตามราคาตลาดใหญ่เป็นอันดับ 4 ในหมวดยาและเวชภัณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ค เป็นเพียงแค่ Johnson&Johnson, Roche และ Eli Lilly เท่านั้น ซึ่งคราวนี้เราจะมาวิเคราะห์หุ้น Pfizer และราคาที่ควรเป็นในปี 2022 กัน

16569064253995


ทำความรู้จักหุ้น Pfizer

Pfizer เป็นบริษัทยาและเวชภัณฑ์สัญชาติอเมริกันที่มีจุดเริ่มต้นนับย้อนไปถึงร้านเวชภัณฑ์เล็ก ๆ ของชาวเยอรมันที่ย้ายมาตั้งรกรากในเมืองบรุกลิน รัฐนิวยอร์คเมื่อปี 1849 คือ Charles Pfizer และเป็นที่รู้จักจากการผลิตยาซานโทนินเคลือบน้ำตาลที่ใช้รักษาโรคพยาธิลำไส้ที่แพร่ระบาดอย่างหนักในอเมริกาช่วงกลางศตวรรษที่ 19 


อย่างไรก็ดี จุดเริ่มต้นของความยิ่งใหญ่ของ Pfizer เริ่มต้นขึ้นอย่างจริงจังเมื่อบริษัทเวชภัณฑ์แห่งนี้คิดค้นกระบวนการหมักเชื้อรา Penicillium ซึ่งเป็นวัถตุดิบสำหรับผลิตยา Penicillin ยาปฏิชีวนะที่ใช้รักษาอาการติดเชื้อแบคทีเรียในส่วนต่าง ๆ ของร่างกายมนุษย์ และปี 1944 Pfizer ก็ได้กลายเป็นผู้ผลิตยา Penicillin รายใหญ่ของโลก 


ภายหลังสงครามโลกครั้งที่สอง เมื่อสงครามสงบลง ความต้องการใช้ยา Penicillin ในโลกก็เริ่มลดลงตาม และเป็นอีกหนึ่งจุดเปลี่ยนให้บริษัทนี้ต้องผันตัวเองสู่การเป็นบริษัทยาที่เน้นการพัฒนาและวิจัยมากยิ่งขึ้น และนับตั้งแต่ปี 1995 เป็นต้นมา Pfizer ก็เริ่มเน้นกลยุทธ์การควบรวมกิจการกับบริษัทอื่น ๆ เพื่อรักษาการเติบโต รวมทั้งค่อย ๆ ขยายธุรกิจจากการเป็นบริษัทเวชภัณฑ์สู่การเป็นบริษัทเทคโนโลยีด้านยาและเวชภัณฑ์ ขยายฐานการวิจัยจากยาที่ใช้ในมนุษย์ ครอบคลุมไปถึงการผลิตยาสำหรับปศุสัตว์และสัตว์เลี้ยง ขยายตลาดจากอเมริกาเป็นยุโรปและครอบคลุมทั่วโลกจนกลายเป็นบรรษัทยาข้ามชาติยักษ์ใหญ่ที่มีการเติบโตเร็วที่สุดในโลกในปี 2000


การเติบโตอย่างน่าทึ่งของ Pfizer มาจากจุดแข็งของบริษัทที่ให้ความสำคัญกับงบวิจัยและพัฒนา ทำให้ Pfizer เป็นเจ้าของสิทธิบัติยาและวัคซีนมากมาย โดยก่อนหน้าการระบาดของโควิด Pfizer มีสัดส่วนรายได้จากผลิตภัณฑ์วัคซีน เป็นสัดส่วนเพียง 15.8% ของรายรับในปี 2020 จนมาถึงในปี 2021 งบวิจัยและพัฒนาของ Pfizer ได้สูงขึ้นอย่างก้าวกระโดด 50% เทียบกับปีก่อนหน้า เช่นเดียวกับรายรับจากวัคซีนที่เพิ่มขึ้นกินสัดส่วนกว่า 52.4% ส่วงผลให้รายรับรวมทั้งปีที่สูงขึ้นเกือบ 100% 


ไม่เพียงเท่านั้น ในปี 2021 Pfizer ยังมีสิทธิบัติผลิตภัณฑ์ 9 ตัวที่ให้ยอดขายต่อปีมากกว่า $1 พันล้าน มียาที่เป็นที่รู้จักกันดี 7 ตัว ได้แก่ Advil ยาบรรเทาอาการปวด ลดไข้ ปวดไมเกรน, Bextra ยากรักษาอาการปวดข้อ รูมาตอยด์, Celebrex ยาบรรเทาอาการอักเสบและปวดในข้อ, Diflucan ยารักษาเชื้อราและกลากเกลื้อน, Lyrica ยารักษาอาการปวดประสาท, Robitussin ยาแก้ไอ และ Viagra


ปัจจุบัน Pfizer มีตลาดอยู่ใน 125 ประเทศทั่วโลก โดยมีตลาดใหญ่ในอเมริกา, ยุโรป และประเทศเกิดใหม่ มีโรงงานผลิตกระจายตามที่ต่าง ๆ กว่า 39 แห่ง กำลังพัฒนาโปรเจกต์ไปป์ไลน์ 89 โปรเจกต์ และมีรายรับในปี 2021 กว่า $8.13 หมื่นล้าน


16569065925842


โครงสร้างธุรกิจและแนวโน้มผลประกอบการของหุ้น Pfizer

Pfizer เป็นบริษัทยาและเวชภัณฑ์ที่มีมูลค่าตามราคาตลาดใหญ่เป็นอันดับ 4 ของสหรัฐ ดำเนินธุรกิจค้นคว้าวิจัยและผลิตยา/วัคซีน/เวชภัณฑ์ออกจำหน่าย โดยสามารถแบ่งที่มาของรายรับออกได้เป็น 7 ส่วน ได้แก่


1. วัคซีน เป็นส่วนขับเคลื่อนรายรับหลักของปี 2021 ที่ $42.62 พันล้าน นำโดย Comirnaty วัคซีนป้องกันโควิดที่ Pfizer ร่วมกับ BioNTech พัฒนาขึ้นมา เฉพาะแค่วัคซีนตัวนี้สามารถสร้างยอดขายให้กับบริษัทได้ $12.5 พันล้าน และคิดช่องทางที่สร้างรายรับให้ Pfizer เป็นสัดส่วนสูงถึง 52.4% ของรายรับทั้งหมดในปี 2021 เติบโตถึง 5.5 เท่าเทียบกับปีก่อนหน้า และผลักดันให้ตัวเลขการดำเนินงานเติบโตแบบก้าวกระโดด


2. มะเร็งและเนื้องอก นำโดย Xtandi ยาต้านการแพร่กระจายของมะเร็ง มียอดขายในอเมริกาเพิ่มขึ้น 28% เทียบกับปีก่อนหน้า, Inlyta ยารักษามะเร็งไตและยับยั้งการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็ง โดยปี 2021 ส่วนนี้มีรายรับ $12 พันล้าน คิดเป็นสัดส่วน 15.2% ของรายรับทั้งหมด และเติบโต 13% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า


3. อายุรศาสตร์ เป็นการรักษาโดยใช้ยา โดยส่วนนี้สร้างรายได้ให้กับ Pfizer คิดเป็นสัดส่วน 11.5% ของปี 2021 เติบโตขึ้น 4% จากปีก่อนหน้า


4. โรงพยาบาล ปี 2021 รายงานตัวเลข $7.3 พันล้าน คิดเป็นสัดส่วน 9% ของรายรับทั้งหมด โดยรายงานตัวเลขเติบโตขึ้น 8% จากปีก่อนหน้า


5. ระบบภูมิคุ้มกันและการอักเสบ ปี 2021 รายงานตัวเลขที่ $4.4 พันล้าน คิดเป็นสัดส่วนรายได้ 5.5% เติบโตลดลง 3% จากปีก่อนหน้า


6. โรคหายาก ปี 2021 รายงานรายรับที่ $3.3 พันล้าน คิดเป็นสัดส่วนรายได้ 4.4% เติบโต 21% จากปีก่อนหน้า


7. ธุรกิจรับจ้างผลิต-วิจัย (Pfizer CentreOne) ปี 2021 รายงานตัวเลข 1.7 พันล้าน คิดเป็นสัดส่วน 2.1% ของรายรับทั้งหมด แต่มีตัวเลขการเติบโตสูงถึง 87% 


Pfizer's Revenue by Products


วิเคราะห์หุ้น Pfizer และปัจจัยที่ผลักดันรายได้/ผลกำไร

หลังจากรายงานรายรับเติบโตกว่า 92% ในปี 2021 ที่ $81.3 พันล้าน เทียบกับปีก่อนหน้าที่ทำรายรับที่ $41.7 พันล้านในปี 2020 บริษัทมองว่ารายรับในปี 2021 นี้ถูกผลักดันด้วยยอดขาย Comirnaty วัคซีน Covid-19, ยาสำหรับเนื้องอกและมะเร็ง รวมถึงรายรับจาก Pfizer CentreOne ทำให้ทั้งปีรายงานรายรับต่อหุ้น (EPS) ของปี 2021 คิดเป็น $3.85 เทียบกับรายรับต่อหุ้นที่ $1.63 ในปี 2020


บริษัทยังมองว่าในปี 2022 นี้จะสามารถรายงานรายรับได้ในช่วง $98 พันล้าน - $102 พันล้าน คิดเป็นรายรับต่อหุ้น $6.35 - $6.55 


บริษัทยังคงมีแนวโน้มเติบโตสูงโดยเฉพาะไตรมาสสุดท้ายของปี 2021 ที่รายงานตัวเลขรายรับ $23.8 พันล้าน คิดเป็นการเติบโต 106% เทียบกับตัวเลข $11.6 พันล้านที่ทำได้ในไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า อย่างไรก็ดี หากลบยอดขายComirnaty วัคซีน Covid-19 และ Paxlovid ยาต้านไวรัส รายรับของบริษัทในไตรมาสนี้จะลดลง 2% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า


Pfizer ยังคงถูกเลือกเป็นหุ้นเติบโตลำดับต้น ๆ ที่ Zacks แนะนำให้มีติดพอร์ตการลงทุนไว้ โดยมองว่าในช่วงเดือนที่ผ่านมาหุ้นบริษัทยาต่างปรับลงมาแล้ว 6.3% เทียบกับการปรับลงของ S&P500 ที่ปรับลง 8.3% และมองเป็นโอกาสซื้อ โดย Zacks ยังคาดหมายการรายงานผลการดำเนินงานด้วย EPS $1.87 ต่อหุ้น คิดเป็นการเติบโต 74.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า และมองว่าทั้งปี 2022 นี้ Pfizer จะรายงาน EPS $6.69 ต่อหุ้น เติบโตขึ้น 51.4% เทียบกับปีที่แล้ว 


แม้รายรับหลักของบริษัทที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วนี้จะมาจาก Comirnaty วัคซีนป้องกัน Covid เป็นหลัก แต่ตัวบริษัทเองก็ยังคงมีมุมมองบวกที่จะสามารถสร้างรายรับจากผลิตภัณฑ์ป้องกันไวรัสโควิดต่อไปได้จนถึงปี 2025 ซึ่ง Paxlovid ยาต้านไวรัสก็เป็นอีกโปรดักส์ตัวหนึ่งที่บริษัทเน้นและสนใจ ล่าสุดในกลางเดือนมิถุนายน 2022 FDA ของสหรัฐก็อนุญาตให้สามารถใช้วัคซีนจาก Pfizer และ Moderna กับเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 5 ปีได้ ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยผลักดันยอดขายวัคซีน Comirnaty ของ Pfizer ต่อไปในปี 2022

 

Seeking Alpha เว็บไซต์บทวิเคราะห์การลงทุนชื่อดังยังมองว่าแม้การแพร่ระบาดของโควิดจะเริ่มซาลง Pfizer ยังคงความน่าสนใจด้วยจุดเด่น 3 ด้าน กล่าวคือ Pfizer มีไปป์ไลน์การพัฒนายาและเวชภัณฑ์ตัวใหม่ ๆ กว่า 80 ชนิด ที่จะสามารถเสริมรายได้ของบริษัทได้ในอนาคต นอกจากนี้ยังมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง โดยบริษัทมีกระแสเงินสดสูงถึง $23.9 พันล้าน ซึ่งเป็นอัตราที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม ทำให้บริษัทมีศักยภาพในการเข้าซื้อกิจการอื่น ๆ ได้แบบไม่มีปัญหา ซึ่งปัจจัยนี้จะนำมาซึ่งการเทคออฟของการเติบโตในรอบใหม่ ๆ ได้ในอนาคต และมองว่ามูลค่าแท้จริงของหุ้น Pfizer อาจสูงถึง $100 ได้ ขณะที่โบรกเกอร์อื่น ๆ ยังมองราคาเป้าหมายของปี 2022 หุ้น Pfizer ไว้ที่ $52 - $70 


วันที่

โบรกเกอร์

ราคาเป้าหมาย

คำแนะนำ

05/04/2022

Morgan Stanley

$55 → $52

Equal-Weight -> Maintains 

05/04/2022

Wells Fargo

$60 → $55

Overweight -> Maintains

04/05/2022

Citigroup

$46 → $57

Neutral -> Maintains

02/10/2022

Morgan Stanley

$60 → $55

Equal-Weight -> Maintains

01/07/2022

Wells Fargo

$60 → $65

Overweight -> Maintains

01/05/2022

B of A Securities

$59 → $70

Neutral -> Upgrade


การเคลื่อนไหวของราคาและการวิเคราะห์ทางเทคนิคของหุ้น Pfizer

หากมองย้อนหลังกลับไป Pfizer นับเป็นหุ้นที่มีการเติบโตโดยที่มีความผันผวนของราคาไม่มาก และเผชิญการปรับฐานของราคาในระดับที่เกิน 20% ไม่บ่อยนัก การปรับฐานครั้งใหญ่ที่สุดของหุ้นตัวนี้เกิดขึ้นเมื่อมีการระบาดของไวรัสโควิดในช่วงต้นปี 2020 ที่ราคาปรับฐานลงมาเกือบ 40% ทำจุดต่ำสุดที่ $28 จากนั้นก็สามารถปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่แถว $62 ได้ในสองปี คิดเป็นการปรับขึ้น 125%

แม้สภาวะตลาดปัจจุบันที่มีความผันผวนจากทั้งนโยบายการเงินตึงตัว และความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ หุ้น Pfizer ก็ยังคงปรับตัวลงมา 6.3% น้อยกว่า S&P500 ที่ปรับฐานลงมาแล้วกว่า 8.3% จึงนับเป็นหุ้นตัวหนึ่งที่แข็งกว่าตลาดและมีความน่าสนใจในมุมของการลงทุน


16569067615906

หากเรามองในมุมภาพใหญ่ระดับรายสัปดาห์จะพบว่าการฟอร์มตัวของราคาหุ้น Pfizer เป็นการแรลลี่ในขาขึ้นมายาวนาน แม้จะมีการปรับฐานบ้างก็ไม่เคยปรับตัวหลุดจุดต่ำก่อนหน้า ทำให้ยังมองว่าหุ้นตัวนี้ยังสามารถแกว่งตัวเป็นขาขึ้นได้ในระยะยาว และเหมาะกับการซื้อลงทุนเช่นกัน


16569068246193

สำหรับนักเก็งกำไรที่มองการซื้อขายในระยะสั้น กราฟระดับวันของหุ้น Pfizer แม้ไม่ได้ดูเป็นการแรลลี่ แต่ก็ไม่ใช่การปรับตัวลงในมุมที่นักเก็งกำไรไม่สามารถซื้อเพื่อทำกำไรได้ ตัวราคาหุ้นปัจจุบันยังเป็นการแกว่งตัวในกรอบที่นักเทรดสามารถใช้กลยุทธ์ลงซื้อ ขึ้นขาย เพื่อทำกำไรได้แบบไม่ยาก


เทรด Pfizer เดี๋ยวนี้ >>  

『 ค่าธรรมเนียม 0 สเปรดต่ำ 』

『 ฟรีเครื่องมือการจัดการความเสี่ยง 

『 ฟรีเงินเสมือนจริง 50000 USD 

ความเสี่ยงด้านลบต่อราคาหุ้น Pfizer

สำหรับหุ้น Pfizer ซึ่งถูกมองว่าเป็นหุ้นเติบโตและสามารถคงการเติบโตระดับสูงมาได้โดยเฉพาะในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ทั้งธุรกิจและการดำเนินงานของบริษัทก็ยังมีปัจจัยเสี่ยงที่นักลงทุนควรเฝ้าติดตามอัปเดทข้อมูล ได้แก่


ความต้องการใช้วัคซีน Covid อาจไม่ได้เติบโตในระดับสูงเหมือนปี 2021 เสมอไป ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในระดับเกือบ 100% ในปี 2021 นั้นเป็นผลมาจากการเติบโตของยอดขายวัคซีนโควิดเป็นหลัก ที่สถานการณ์นี้อาจไม่ได้อยู่นานนัก ในมุมมองที่ดีที่สุดผู้เชี่ยวชาญยังมองว่าสุดท้าย Covid อาจกลายเป็นโรคประจำถิ่นและจำเป็นต้องมีการฉีดวัคซีนกระตุ้นทุกปีคล้ายกับไข้หวัดใหญ่ ซึ่งอาจทำให้บริษัทยังคงรายได้จากส่วนนี้ได้บ้าง แต่ก็อาจไม่ได้เติบโตสูงมากเช่นปี 2021 


Pfizer มีการควบรวม/เข้าซื้อบริษัทอื่น ๆ เพื่อเสริมธุรกิจตัวเอง แต่การควบรวม/เข้าซื้อกิจการบริษัทอื่น ๆ ก็มีความเสี่ยงที่อาจให้ผลตอบแทนได้ไม่คุ้มค่ากับเงินที่เสียไป หรือไปป์ไลน์การพัฒนาอาจไม่สามารถะเข้ากันได้ดีและทำให้การพัฒนาสิทธิบัตรล่าช้าออกไป ซึ่งเป็นอีกหนึ่งความเสี่ยงที่นักลงทุนควรคำนึงถึง

และทั้งหมดนี้ก็เป็นการวิเคราะห์หุ้น Pfizer และราคาที่ควรเป็นในปี 2022 ที่เรานำมาฝากกันในคราวนี้ ซึ่งแน่นอนว่าหากใครที่กำลังมองหาหุ้นเติบโตที่มีโอกาสคงแนวโน้มการเติบโตในระดับสูงไปได้อีกหลายปี Pfizer ก็เป็นหุ้นอีกตัวหนึ่งที่ควรมีติดพอร์ต และราคาที่ลดลงก็นับเป็นโอกาสในการเข้าซื้อ


เทรด Pfizer เดี๋ยวนี้ >>  

『 ค่าธรรมเนียม 0 สเปรดต่ำ 』

『 ฟรีเครื่องมือการจัดการความเสี่ยง 

『 ฟรีเงินเสมือนจริง 50000 USD 

*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา


การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน

Mitrade
มุมมองการลงทุนเป็นแพลตฟอร์มที่ให้ข้อมูลทางด้านการเงินภายใต้ Mitrade ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อให้นักลงทุนได้รับความรู้พื้นฐานทางการเงินที่สมบูรณ์ สภาวะตลาดแบบเรียลไทม์ ข่าวที่เกี่ยวข้องในเวลาที่เหมาะสม และการวิเคราะห์ตลาดในเชิงลึก
Mitrade Logo
มุมมองการลงทุน
อำนวยเนื้อหาคอลัมน์ที่มีคุณภาพสูงแก่นักลงทุนทั่วโลก

คำเตือนเกี่ยวกับความเสี่ยง: การซื้อขายอาจทำให้คุณสูญเสียเงินทุนทั้งหมด การซื้อขายอนุพันธ์แบบ OTC อาจไม่เหมาะสำหรับทุกคน โปรดพิจารณาเอกสาร PDS, FSG, คำชี้แจงการเปิดเผยความเสี่ยงและข้อตกลงลูกค้าก่อนใช้บริการของเรา และตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โปรดทราบว่าคุณไม่ได้เป็นเจ้าของหรือมีผลประโยชน์ใด ๆ ในสินทรัพย์อ้างอิง

ขยาย