เยี่ยมชม Mitradeเทรดกับ เว็บ Mitradeเทรดกับ แอพ Mitradeเทรดกับ แอพ Mitrade
สแกนเพื่อดาวน์โหลด
นโยบายกองบรรณาธิการเกี่ยวกับเรา
Mitrade Logoมุมมองการลงทุน

วิเคราะห์หุ้น NIO และราคาที่ควรเป็นในปี 2022

ผู้เขียน
|อัพเดทครั้งล่าสุด 09 ก.ย. 2565 07:22 น.
655
ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย

NIO


หุ้น NIO อาจไม่ใช่ชื่อที่นักลงทุนได้ยินกันบ่อยนักเพราะยังเป็นบริษัทที่เพิ่งก่อตั้งขึ้นมาได้เพียง 8 ปีและเพิ่งเข้าเทรดในตลาดหุ้นนิวยอร์ค (New York Stock Exchange) ได้เพียงแค่ 4 ปีเท่านั้น แต่หากบอกว่าหุ้น NIO ถือเป็นอีกหนึ่งคู่แข่งของบริษัท Tesla ในฐานะผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าดีไซน์หรูสัญชาติจีน ก็น่าจะพอบอกความน่าสนใจของหุ้นตัวนี้ได้ และคราวนี่เราจะมาวิเคราะห์หุ้น NIO และราคาที่นักวิเคราะห์ให้เป้าหมายไว้ในปี 2022 กัน


NIO เป็นบริษัทยานยนต์ไฟฟ้าที่เน้นการผลิตรถหรูโดยเน้นตลาดจีนและยุโรปเป็นหลัก ซึ่งแม้จะเกิดผลกระทบของโควิดในปี 2020 ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกยังสามารถผลิตและส่งมอบรถไฟฟ้าจดทะเบียนใหม่ได้ทั้งหมด 3 ล้านคันทั่วโลก คิดเป็นรถไฟฟ้าจากยุโรป 1.4 ล้านคัน และจีน 1.2 ล้านคัน นับเป็นตลาดที่มีศักยภาพและน่าจับตามมองมากที่สุดตลาดหนึ่งในปัจจุบัน 


แม้ปัจจุบันตลาดรถยนต์ไฟฟ้าจะเติบโตอยู่ $120 พันล้านเหรียญในปี 2020 แต่คาดกันว่าในปี 2030 ตลาดนี้จะสามารถขยายตัวแตะ $800 พันล้านเหรียญได้ และกลายเป็นอุตสาหกรรมที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยจำนวนการขายกว่า 60 ล้านคันต่อปี ที่ราคาเฉลี่ยคันละ 1 แสนดอลลาร์ นับเป็นโอกาสการเติบโตที่สูงกว่าอุตสาหกรรมใด ๆ ในตอนนี้ หุ้น NIO เคยขึ้นไปทำจุดสูงสุดไว้ที่ $66.99 ในเดือนมกราคม 2021 แม้ปัจจุบันราคาจะปรับลงมาแล้วกว่า 66% ก็นับเป็นโอกาสในการทยอยสะสม


ทำความรู้จักหุ้น NIO

NIO เป็นบริษัทยานยนต์ไฟฟ้าที่มีสำนักงานใหญ่ในจีน โดยมีจุดเริ่มต้นจากวิลเลี่ยม หลี่ (William Li) นักธุรกิจชาวจีนที่เดิมประกอบธุรกิจอินเทอร์เน็ตและเข้าสู่อุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในเดือนพฤศจิกายน 2014 ถัดจากนั้นอีก 2 ปีในปี 2016 บริษัท NIO ก็ปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรก EP9 รถไฟฟ้าแนวสปอร์ตที่ Saatchi Gallery ในลอนดอน จากการเปิดตัวครั้งนั้นทำให้บริษัทได้รับเงินลงทุนจากบริษัทการเงินยักษ์ใหญ่อย่าง Tencent, Temasek, Sequoia, Lenovo และ TPG เพื่อมาต่อยอดธุรกิจ


หลังจากได้ใบอนุญาตทดสอบยานยนต์จาก California DMV ในปี 2016 บริษัทก็เริ่มทำการทดสอบรถยนต์และเปิดตัวรถยนต์ SUV รุ่น ES8 ออกมาเพิ่มในปี 2018 ในปีเดียวกันนั้นยังสร้างโรงงานแบตเตอรี่ในเสิ่นเจิ้นเพื่อเตรียมสร้างสถานีเปลี่ยนแบตเตอรี่เพื่อรองรับการขยายตัวของการใช้รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นนี้โดยเฉพาะ บริษัท NIO ได้เข้าจดทะเบียนเข้าซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์คเดือนกันยาปีเดียวกันนั้นและระดมทุนได้กว่า $1.8 พันล้าน และยังระดมทุนได้เพื่มอีก $1 พันล้านจากนักลงทุนชาวจีนในปี 2020 


ในช่วงปี 2016 – ปัจจุบันการผลิตรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ ของบริษัทยังมีออกมาอย่างต่อเนื่อง ปี 2019 NIO เปิดตัวรถ SUV รุ่น ES6 ปี 2020 เปิดตัวรถ SUV EC6 และรถสปอร์ตซีดาน ET7 ในปี 2021 


ด้านผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ในปี 2020 บริษัท NIO ได้สร้างบริษัทร่วมทุนกับ Contemporary Amperex Technology (CATL) และ Hubei Science Technology Investment ผลิตและให้บริการ Battery as a Service ที่เป็นเหมือนการ Subscription บริการแบตเตอรี่เป็นรายเดือนโดยที่ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องชาร์จแบตเตอรี่เองและไม่ต้องรอเวลาสำหรับการชาร์จแบต


ปลายปี 2021 บริษัทเริ่มมองเห็นตลาดรถไฟฟ้าในยุโรปที่เติบโตสูง จึงเริ่มประกาศการขยายตลาดรถยนต์ไฟฟ้าเข้าสู่ตลาดเยอรมัน เดนมาร์ค เนเธอแลนด์ และสวีเดนโดยตั้งเป้าให้บรรลุผลในปี 2022

 

จนถึงปัจจุบัน ท่ามกลางปัญหาการแพร่ระบาดของโควิดและการล็อกดาวน์ในประเทศจีนทำให้การผลิตในช่วงปี 2020 – 2022 มีปัญหาอยู่บ้าง ถึงอย่างนั้นใน 5 เดือนแรกของปี 2022 บริษัท NIO ก็ยังสามารถส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าได้กว่า 37,866 คัน คิดเป็นการเติบโตขึ้น 11.88% เทียบกับปีก่อนหน้า และมียอดการส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมดแล้วกว่า 204,936 คัน และกำลังอยู่ในช่วงก้าวกระโดดครั้งสำคัญของธุรกิจ


16564892147486


โครงสร้างธุรกิจและแนวโน้มผลประกอบการหุ้น NIO

NIO Inc. เป็นบริษัทยานยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีนที่จดทะเบียนบริษัทในหมู่เกาะเคย์แมนและถือหุ้น 100% ในบริษัทย่อยกระจายไปในประเทศต่าง ๆ ได้แก่ NIO Nextev (Hongkong), NIO User Experience (Hongkong), NIO Power Express (Hongkong), XPT Limited (Hongkong), XPT Inc. (US) และ NEU Battery Asset (Cayman) โดยบริษัทนี้มีส่วนของธุรกิจที่น่าสนใจใน 3 ด้าน คือ


1.รถยนต์ไฟฟ้า นับเป็นอุตสาหกรรมเรือธงที่สร้างรายได้ให้กับบริษัทเป็นสัดส่วนมากที่สุด ปัจจุบันบริษัท NIO ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าออกมาแล้ว 3 ประเภท คือรุ่น es, et และ ec โดยมีรถยนต์ไฟฟ้ารุ่น et7 สปอร์ตซีดานเป็นเรือธง นอกจากนี้ยังมีรุ่น et5 สปอร์ตซีดานไซส์กลาง และ รถ SUV ไซส์กลาง-ใหญ่อย่างรุ่น es7 ที่เป็นที่น่าจับตามอง โดยนักวิเคราะห์ประเมินกันว่ารถยนต์ไฟฟ้ารุ่น et5 และ et7 จะกลายมาเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าพรีเมี่ยมในประเทศจีนได้ไม่ยาก และเป็นที่น่าจับตามองเป็นพิเศษ


2. เทคโนโลยีการเปลี่ยนแบตเตอรี่ แม้จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าเหมือนกัน แต่ NIO และ Tesla ก็มีความแตกต่างในเทคโนโลยีกันอยู่มาก โดยแม้ Tesla จะใช้แบตเตอร์รี่แต่ก็จำเป็นต้องชาร์จไฟซึ่งทำให้เสียเวลา NIO เลือกที่จะพัฒนาเทคโนโลยีแบบใหม่ด้วยระบบการเปลี่ยนแบตเตอรี่ (Battery Swapping) แทน และเริ่มพัฒนาสถานีเปลี่ยนแบตเตอรี่มาตั้งแต่ปี 2016 จนถึงปี 2022 NIO มีสถานีเปลี่ยนแบตเตอรี่แล้วกว่า 917 แห่ง กระจายไปใน 64 เมืองของประเทศจีน และมีแผนจะเปิดสถานีเปลี่ยนแบตเตอรี่แห่งแรกในยุโรปที่นอร์เวย์ในปีนี้


3. เทคโนโลยีอื่น ๆ NOMI AI, NIO Pilot นอกจากอุตสาหกรรมรถยนต์และแบตเตอรี่แล้ว NIO ยังพัฒนา NOMI Mate 2.0 ระบบ AI สำหรับใช้ในรถยนต์ที่สามารถโต้ตอบกับคนขับได้ และยังสามารถทำความเข้าใจส่วนต่าง ๆ ในรถยนต์ เช่น ทิศทางล้อ การปรับเบาะ รองรับการสั่งงานด้วยเสียง ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีระบบขับขี่อัตโนมัติ NIO Pilot ที่มีฟังก์ชั่นขับขี่เองอย่าง กำหนดให้วิ่งในเลนด้วยตัวเอง การให้คำแนะนำเมื่ออยู่ในภาวะรถติด หรือเปลี่ยนเลนแบบอัตโนมัติ

วิเคราะห์หุ้น NIO และปัจจัยที่ผลักดันรายได้/ผลกำไร

สำหรับฝั่งนักวิเคราะห์มองว่า NIO กำลังอยู่ในช่วงการเปลี่ยนผ่านของอุตสาหกรรมเพื่อเข้าสู่ขั้นการผลิตอย่างเต็มตัว สามารถคาดหวังการเติบโตอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนได้ โดยมีสองปัจจัยช่วยสนับสนุนความน่าสนใจในการเข้าลงทุนในหุ้นตัวนี้ 


ปัจจัยแรก NIO มีผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจในตลาดที่มีศักยภาพ NIO เลือกเปิดตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในจีนและยุโรปเป็นหลัก ซึ่งทั้งสองตลาดนี้ได้ชื่อว่าเป็นสองตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของโลก กินสัดส่วนเกินกว่าครึ่งของความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าที่มี โดยตลาดนี้ยังมีแนวโน้มเติบโตสูงต่อไปอย่างน้อยจนถึงปี 2030

 

ปัจจัยที่สอง NIO มีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง โดยในเดือนมีนาคม 2022 NIO มีเงินสดหรือสินทรัพย์ที่คล้ายคลึงกันสูงถึง $8.4 พันล้าน สามารถรองรับความเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดฝันดีได้


Edison Yu นักวิเคราะห์จาก Deutsche Bank มองว่าแม้ NIO จะรายงานผลประกอบการที่น่าผิดหวังในไตรมาสล่าสุด แต่บริษัทก็กำลังเดินเข้าสู่ขั้นต่อไปของอุตสาหกรรมการผลิต เขากล่าวด้วยว่า


“แม้ปริมาณการผลิตในไตรมาสที่ผ่านมาจะถูกกดดันจากภาวะคอขวดของการผลิตและการล็อกดาวน์ แต่ NIO ได้กลับมาเดินการผลิตในระดับปกติแล้ว และปัจจุบันก็สามารถส่งมอบรถยนต์ได้กว่า 7 พันคันในเดือนพฤษภาคม ทำให้ปีนี้บริษัทส่งมอบรถไปแล้วกว่า 25000 คัน” 


ซึ่งหากมองว่าในช่วง 3 เดือนแรกของปี NIO ส่งมอบรถไปแล้ว 25,000 คัน โดย Yu คาดว่า NIO จะสามารถส่งมอบรถในปีนี้ได้ 160,000 คัน และจะเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวในปีหน้าที่ 320,000 คันในปี 2023 โดยมองว่ารถยนต์ไฟฟ้ารุ่น ET7 และ ET5 จะกลายมาเป็น "รถที่คนใฝ่ฝันถึงมากที่สุดของตลาดรถยนต์พรีเมี่ยมในปีนี้ในตลาดจีน” ซึ่งนั่นคือเขามองว่า NIO จะได้รับความนิยมในจีนมากกว่า Tesla นั่นเอง


ท้ายที่สุด Yu ให้มุมมองต่อหุ้นของ NIO ไว้ในระดับ “แนะนำซื้อ” และมองราคาเป้าหมายที่ $45 ในปีนี้


ในส่วนของ Tim Hsiao นักวิเคราะห์จาก Morgan Stanley ก็มีมุมมองไม่ต่างจาก Yu โดยค่อนข้างมีมุมมองบวกต่อหุ้น NIO และให้คำแนะนำไว้ในระดับ “เพิ่มน้ำหนัก” หรือ “แนะนำซื้อ” แต่ให้ราคาเป้าหมายในปีนี้ไว้เพียงแค่ $31


Hsiao มองว่า NIO ในไตรมาสที่สองจะต้องเผชิญกับแรงกดดันส่วนต่างกำไรระยะสั้น (เป็นผลให้รายงานผลกำไรได้น้อยลง) อย่างไรก็ดีเขายังมองว่า NIO จะสามารถผลิตรถได้เดือนละ 30,000 คันในช่วงที่เหลือของปี ซึ่งเป็นมุมมองที่มากกว่า Yu คาดการณ์ไว้กว่า 20% 


โดยสรุปแล้ว ช่วงเวลาที่ยากลำบากของหุ้น NIO ได้ผ่านไปแล้วในช่วงไตรมาสที่ 1 และราคาหุ้นอาจได้รับแรงกดดันจากการรายงานผลประกอบการไตรมาส 2 ที่กำลังจะมาถึง แต่นักวิเคราะห์ทั้งสองต่างก็ให้มุมมองเชิงบวกกับหุ้นตัวนี้ไว้มาก และยังมีส่วนต่างสำหรับการซื้อขายในปีนี้อยู่ราว 37 – 100% 


วันที่

โบรกเกอร์

ราคาเป้าหมาย

คำแนะนำ

06/21/2022

Citigroup

$87 → $41.1

Buy -> Maintains

06/10/2022

Morgan Stanley

$34 → $31

Overweight -> Maintains

06/10/2022

Mizuho

$60 → $55

Buy -> Maintains

04/04/2022

UBS

→ $32

Natural -> Upgrade

03/28/2022

Mizuho

$65 → $60

Buy -> Maintains

03/23/2022

Morgan Stanley

$66 → $34

Overweight -> Maintains

02/16/2022

CLSA

$60 → $35

Buy -> Maintains

02/08/2022

Barclays

→ $34

Overweight -> Initiates

01/12/2022

Macquarie

→ $37.7

Outperform -> Initiates


การเคลื่อนไหวของราคาและการวิเคราะห์ทางเทคนิคหุ้น NIO

ในเดือนพฤษภาคม 2022 หุ้น NIO ได้ลงไปทำจุดต่ำสุดของรอบไว้ที่ $11.70 และเพียงแค่หนึ่งเดือน ราคาหุ้นก็ดีดกลับ 74% มาอยู่ที่ $20.40 ซึ่งการปรับฐานในช่วงต้นปี 2022 ที่ผ่านมานั้นถูกมองว่าได้รับผลจากตลาดที่ซบเซาอยู่ในขาลงและความกังวลต่อมาตรการล็อกดาวน์ของรัฐบาลจีน ซึ่งนักวิเคราะห์ต่างมองว่าเป็นโอกาสอันดีในการทยอยเก็บสะสมหุ้นเพื่อรอการพลิกฟื้นจากการกลับมาดำเนินการผลิตได้อย่างเต็มกำลังในช่วงที่เหลือของปีต่อไป


16564912906504

หากเราลองมาดูที่การเคลื่อนไหวของราคาในเชิงเทคนิคจะพบว่า ในกราฟรายสัปดาห์นั้นมีสัญญาณที่ค่อนข้างคอนเฟิร์มแนวคิดของนักวิเคราะห์พื้นฐานดังที่กล่าวมา นั่นคือแม้ตัวราคาจะยังทำจุดต่ำสุดมาตลอดนับจากต้นปี 2022 แต่อินดิเคเตอร์อย่าง RSI ยังแกว่งตัวในระดับต่ำและมีแนวโน้มที่ให้สัญญาณขัดแย้งกับการลงของราคา (RSI Divergence/ Bullish Divergence) และหุ้น NIO มีแนวโน้มที่จะทำจุดต่ำสุดไปในเดือนพฤษภาเรียบร้อยแล้ว

 

ล่าสุดกราฟรายสัปดาห์ของหุ้น NIO ยังมีการทำ Golden cross ของ MA5,10 เป็นสัญญาณของการกลับตัวเป็นขาขึ้น จึงค่อนข้างเป็นสัญญาณดีสำหรับการซื้อหุ้นที่ระดับราคาต่ำเพื่อถือในระยะกลางขึ้นไป


16564913559514


หากลองมองภาพในกรอบที่แคบลง หุ้น NIO ยังเริ่มทำจุดสูงสุดที่ชนะจุดสูงสุดก่อนหน้า ทำให้เริ่มมองเห็นแรงส่งตัวในขาขึ้น แต่อย่างไรก็ดี รูปแบบของราคาค่อนข้างเว้นช่องและมีแก็ปในการเทรดหลายจุด ซึ่งสามารถใช้มองเป็นแนวรับและแนวต้านอย่างคร่าว ๆ ได้ โดยสามารถใช้แก็ปที่เปิดไว้ที่ $20.80 เป็นแนวรับ และแก็ปที่เปิดไว้บริเวณ $27.44 เป็นแนวต้านสำคัญได้

ความเสี่ยงด้านลบต่อราคาหุ้น NIO

สำหรับความเสี่ยงด้านลบต่อราคาหุ้น NIO นั้นมาจาก 2 ปัจจัยที่พอมองเห็นได้นั่นคือ


1. การฟ้องร้อง ราวกลางเดือนมิถุนายน 2022 บริษัทโฟล์กสวาเกน เจ้าของแบรนด์รถยนต์หรู Audi ได้ยื่นฟ้องต่อศาลในเยอรมันว่า บริษัท NIO ได้ละเมิดสิทธิ์ในเครื่องหมายการค้าของบริษัท นั่นคือการตั้งชื่อรุ่นรถ ES6 และ ES8 นั้นพ้องกับรถ Audi S6 และ S8 ซึ่งเป็นรถซีดานเหมือนกัน แต่รถของ Audi นั้นมีประวัติย้อนไปได้ถึงปี 1990 ซึ่งนับเป็นคดีความที่เพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น


2. ความเสี่ยงจากการดำเนินนโยบายของรัฐบาลจีน ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า NIO แม้จะเป็นบริษัทที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ค แต่ก็เป็นบริษัทที่มีสำนักงานใหญ่ โรงงานและตลาดหลักในจีน ซึ่งย่อมจะได้รับผลกระทบจากการดำเนินนโยบายของรัฐบาลจีนอย่างช่วยไม่ได้ ตัวอย่างล่าสุดเช่นการปิดเมืองเพื่อควบคุมการระบาดของโควิด ทำให้การผลิตในช่วงต้นปี 2022 ต้องล่าช้าลงไป ซึ่งความเสี่ยงในจุดนี้เป็นความเสี่ยงที่คาดเดาได้ยาก แต่จะมีผลกระทบต่อบริษัทได้มาก

และทั้งหมดนี้ก็คือการวิเคราะห์หุ้น NIO และมุมมองราคาที่ควรเป็นในปี 2022  ของหุ้น NIO ที่เรานำมาฝากกันในคราวนี้ ซึ่งน่าจะเป็นแนวทางให้นักลงทุนได้เห็นโอกาส ความเสี่ยง และจังหวะในการลงทุนหุ้นตัวนี้ต่อไป

*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา


การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน

Mitrade
มุมมองการลงทุนเป็นแพลตฟอร์มที่ให้ข้อมูลทางด้านการเงินภายใต้ Mitrade ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อให้นักลงทุนได้รับความรู้พื้นฐานทางการเงินที่สมบูรณ์ สภาวะตลาดแบบเรียลไทม์ ข่าวที่เกี่ยวข้องในเวลาที่เหมาะสม และการวิเคราะห์ตลาดในเชิงลึก
Mitrade Logo
มุมมองการลงทุน
อำนวยเนื้อหาคอลัมน์ที่มีคุณภาพสูงแก่นักลงทุนทั่วโลก

คำเตือนเกี่ยวกับความเสี่ยง: การซื้อขายอาจทำให้คุณสูญเสียเงินทุนทั้งหมด การซื้อขายอนุพันธ์แบบ OTC อาจไม่เหมาะสำหรับทุกคน โปรดพิจารณาเอกสาร PDS, FSG, คำชี้แจงการเปิดเผยความเสี่ยงและข้อตกลงลูกค้าก่อนใช้บริการของเรา และตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โปรดทราบว่าคุณไม่ได้เป็นเจ้าของหรือมีผลประโยชน์ใด ๆ ในสินทรัพย์อ้างอิง

ขยาย