หุ้นเติบโต คืออะไร? Growth Stock vs Value Stock หุ้นสไตล์ไหน...ที่เหมาะกับคุณ?

ตามหลักการทั่วไป หุ้นจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ หุ้นเติบโต (Growth Stock) และ หุ้นคุณค่า (Value Stock) แต่หุ้นเติบโต (Growth Stock) และ หุ้นคุณค่า (Value Stock) คืออะไร? หุ้น Growth และ หุ้น Value ต่างกันอย่างไร? แล้วเราจะลงทุนในหุ้นกลุ่มไหนดี? มาดูกันเลยครับ
Growth Stock(หุ้นเติบโต) คืออะไร?
Growth Stock(หุ้นเติบโต) คือ บริษัทที่มีการเติบโตของรายได้สูงกว่าค่าเฉลี่ย มีความสามารถเหนือคู่แข่ง อยู่ในการเทรนด์ในการเติบโตอย่างรวดเร็ว มีนวัตกรรม และกลยุทธ์การแข่งขันที่ดี มีอัตราจ่ายปันผลที่ต่ำหรือไม่จ่ายปันผล
สามารถดูรายละเอียดได้จาก
1. อัตราการจ่ายเงินปันผล (Low Dividend Yield) ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหรือกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกัน เนื่องจากธุรกิจต้องสำรองเงินทุนหมุนเวียนสำหรับขยายธุรกิจ
2. หุ้นที่มีการซื้อขายที่มีอัตราส่วนราคาตลาดต่อกำไรต่อหุ้น (P/E Ratio) สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหรือของกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกัน เนื่องจากมียอดขายและความสามารถในการทำกำไรที่ดี ทำให้นักลงทุนยินดีที่จะซื้อหุ้นในราคาแพง
3. หุ้นที่มีมูลค่าทางบัญชีต่อหุ้น (P/BV Ratio) สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหรือของกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกัน
Value Stock(หุ้นคุณค่า) คืออะไร?
Value Stock(หุ้นคุณค่า) คือ บริษัทที่มีความมั่นคง มีปัจจัยพื้นฐานที่ดี มีการเติบโตของธุรกิจของรายได้สม่ำเสมอ มีกระแสเงินสดต่อเนื่องและอัตราการจ่ายปันผลที่สูง หรือที่เรียกว่า “หุ้นดีราคาถูก”
สามารถดูรายละเอียดได้จาก
1. อัตราการจ่ายเงินปันผล (High Dividend Yield) สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหรือกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกัน
2. อัตราส่วนราคาตลาดต่อกำไรต่อหุ้น (P/E Ratio) ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหรือกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกัน หุ้นลักษณะนี้จะมีผลการดำเนินงานต่ำกว่าหุ้นในกลุ่มเดียวกันหรือต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์
3. มูลค่าทางบัญชีต่อหุ้น (P/BV Ratio) ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหรือกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกัน
Growth Stock & Value Stock ต่างกันอย่างไร?
แล้วรายละเอียดเพิ่มเติมอื่นๆ ระหว่าง หุ้น Growth Stock & Value Stock มันแตกต่างกันอย่างไร? สามารถดูได้จากตารางนี้เลย!
หุ้นทั้ง เติบโต VS คุณค่า เหมาะกับใคร?
สำหรับกลยุทธ์การลงทุนหุ้นทั้งสองประเภท นักลงทุนสไตล์ลงทุนระยะสั้น (ต่ำกว่า 1 ปี) และมีเป้าหมายทำกำไรจากส่วนต่างราคาหุ้น (Capital gain) และรับความผันผวนของราคาหุ้นได้ จะเลือกหุ้นเติบโตเป็นหลัก เหมาะกับนักลงทุน “สายซิ่ง”
ในขณะที่หากเป็นนักลงทุนที่มีสไตล์การลงทุนระยะยาว (3 ปี ขึ้นไป) เน้นรับเงินปันผลและรับความผันผวนของราคาหุ้นได้ต่ำก็จะลงทุนหุ้นคุณค่าเป็นหลัก เหมาะกับนักลงทุน “สายปลอดภัย”
โควิดและวิกฤติเศรษฐกิจที่ผ่านมากระทบการลงทุน?
ในบทความนี้เราได้มาเรียนรู้กันแล้วว่า หุ้นเติบโต (Growth Stock) และ หุ้นคุณค่า (Value Stock) คืออะไร และต่างกันอย่างไร ถ้าถามว่าควรมีหุ้นแบบไหนอยู่ในพอร์ตการลงทุนระหว่างหุ้นเติบโต Growth Stock หรือหุ้นคุณค่า Value Stock โดยมุมมองผมคิดว่าควรกลับมาถามที่วัตถุประสงค์ของการลงทุน เป้าหมายการเงิน, การลงทุน, ระยะเวลาของเงินที่เราลงทุนได้ และความสามารถในการยอมรับความเสี่ยง จะทำให้สามารถเลือกหุ้นมาไว้ในพอร์ตตามความเหมาะสมกับตัวเองได้ และเพื่อนๆ เป็นนักลงทุนสายไหนครับ ชอบหุ้นแบบไหนมากกว่ากัน บอกกันได้เลยนะครับ
สิ่งสำคัญที่สุดคือการลงทุนในความรู้ มีแผนการลงทุนทุกครั้งก่อนขอให้พี่ๆ เพื่อนๆนักลงทุนทุกคนประสบความสำเร็จและมีความสุขกับการลงทุน
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน