ในปัจจุบันการเทรด Forex เรียกได้ว่าเป็นการลงทุนที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางชนิดหนึ่งเลยก็ว่าได้ เนื่องจากเป็นการลงทุนแบบให้เงินทำงานแทนเรา หรือที่มีอีกชื่อเรียกหนึ่งว่า Passive Income นั่นเอง แต่ในการเทรด Forex ให้ได้เงิน และกำไรนั้นต้องอาศัยแผนการเทรด Forex ที่ดีด้วยถึงจะประสบความสำเร็จ ว่าแต่แผนการเล่น Forex ให้ได้เงินที่ดีต้องเป็นอย่างไร? มาดูกันเลย!
โดยพื้นฐานแล้วตลาด Forex เหมาะสำหรับนักลงทุนระยะสั้นมาก เนื่องจากตลาดมีความผันผวนของค่าเงินสูง เทรดเดอร์ Forex สามารถคาดเดาลู่ทางได้เพราะการวิ่งของเทรนด์ยังอยู่ในกรอบ Time Frame Day และ Time Frame Week อยู่
MM ย่อมาจากคำว่า Money Management หมายถึง การบริหารเงินทุนโดยอิงจากความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น เนื่องจากตลาด Forex มีความผันผวนสูง ทำให้ตลาดมีความเสี่ยงสูงด้วยเช่นกัน Money Management จึงเป็นปัจจัยหลักที่สำคัญใน Forex โดยให้อิงจากเปอร์เซ็นต์ความเสี่ยงไม่เกิน 10 เปอร์เซ็นต์ของเงินทุนที่มี
หากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินขึ้นจริงคุณก็ยังมีเงินทุนเหลืออยู่สำหรับการลงทุนครั้งถัดไปได้ นอกจากเรื่องการวางเงินลงทุนแล้วอย่าลืมให้ความสำคัญกับการหาระยะ Stop Loss และ การคำนวน Lot Size ในแต่ละวันด้วยเพื่อให้สอดคล้องกับเงินลงทุนที่มี นี่เป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมาก ถ้าขาดตรงนี้ไปจะเปลี่ยนนิยามจากการลงทุนเป็นการพนันโดยทันที
กลยุทธ์ในการเทรด Forex นั้นมีมากมาย ขึ้นอยู่กับว่าเราเลือกใช้กลยุทธ์ใดในการเทรด โดยกลยุทธ์การเทรดมีดังนี้
● การเทรดระยะสั้น (Scalping)
ส่วนใหญ่จะเล่นในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ ไม่เกิน 2-3 ชั่วโมง ซึ่งบางทีอาจจะมากกว่า หรือ น้อยกว่านี้ ข้อดีของการเทรดแบบนี้ก็คือ รู้ผลกำไร-ขาดทุนชัดเจน และไม่ต้องเสียเวลาวิเคราะห์ตลาดในระยะยาวให้ปวดหัว ส่วนข้อเสียของการเล่นแบบ Scalping คือ ต้องเฝ้าหน้าจอ และมีความเสี่ยงสูงที่จะหมดตัว ดังนั้นผู้ที่จะเทรดระยะสั้นจึงต้องมีประสบการณ์และความชำนาญในตลาดไม่น้อย
● การซุ่มรอระยะที่ใช่ (Sniper)
เป็นการอาศัยความแม่นยำสูง ต้องรอให้ระยะเวลาที่ใช่ที่สุดมาถึงจึงค่อยลงทุนแบบจัดเต็ม ซึ่งการลงทุนแบบนี้หากคุณประสบความสำเร็จจะได้กำไรมหาศาล แต่ถ้าไม่ก็เสี่ยงล้มได้เลย คุณจึงต้องแม่นยำเป็นอย่างมากในการดูตลาด Forex ให้ออก
● การเทรดรายวัน (Day Trade)
กลยุทธ์การซื้อขายที่เน้นทำกำไรและเทรดให้จบในวันเดียวเพื่อหลีกเลี่ยงค่า Swap (ค่าดอกเบี้ยถือข้ามคืน) ทำให้ผู้ที่ใช้กลยุทธ์นี้ต้องสนใจข่าว ตามข่าวก่อนออกออเดอร์เสมอ โดยจะเน้นทำกำไรในช่วงที่มีข่าวสำคัญประกาศ ดังนั้นเทรดเดอร์ที่ใช้กลยุทธ์นี้จึงต้องมีเวลาสำหรับติดตามข่าวและเฝ้าหน้าจออย่างต่อเนื่อง
● การเทรดตามรอบสวิงใหญ่ ๆ (Swing Trade)
เหมาะมากสำหรับเทรดเดอร์ที่ไม่ต้องการถือในระยะยาว เนื่องจากเป็นการเทรดที่เน้นจังหวะการเข้าเท่านั้น จึงไม่ต้องสนใจเทรนด์หรือแนวโน้มของตลาดมากนัก ข้อสำคัญก็คือคุณจะต้องมีความแม่นยำในการหาจุดเข้าด้วย
● การเทรดตามเทรนด์ (Trend Following)
สิ่งสำคัญของการใช้กลยุทธ์สไตล์นี้คือ การอ่านเทรนด์ให้ขาด มองเทรนด์ใหญ่เป็นหลัก โดยการเทรดแบบนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ค่อยมีเวลาว่าง สามารถลงทุนในระยะยาวได้ และมีเงินทุนหนา อย่างไรก็ตามแต่การเทรดแบบนี้ต้องอาศัยความอดทนเป็นอย่างมาก ห้ามใจร้อนเด็ดขาด ต้องรอไปจนกว่าจะเห็นว่ามันสุดเทรนด์แล้วจึงค่อยปิดออเดอร์รอบเดียว
● การเทรดแบบ Breakout
การที่กราฟนั้นดิ่งทะลุแนวต้านจากที่คาดการณ์เอาไว้ เทรดเดอร์จึงสามารถใช้ประโยชน์ในการเทรดได้ ทำให้จังหวะการเทรดนั้นมีประสิทธิภาพมากขึ้น เนื่องจากการพุ่งทะลุแนวต้านทำให้สามารถหาราคา Breakout ที่แท้จริงเจอ คุณจึงทำกำไรได้ทัน เพราะการเกิด Break Out นั้นจะเกิดตั้งแต่ช่วงต้นเทรนด์นั่นเอง
● การเทรดตาม Demand&Supply
ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า Demand หมายถึง "อุปสงค์" หรือ ความต้องการซื้อ ส่วน Supply หมายถึง "อุปทาน" หรือ ความต้องการขาย การเทรดแบบนี้จึงเหมาะมากสำหรับเทรดเดอร์ที่มีเวลาในการดูแนวโน้มตลาดและมีความแม่นยำในการหาจุดเข้าด้วย
● การเทรดตามแนวรับ-แนวต้าน (Fibo)
สิ่งสำคัญในการเทรดชนิดนี้คือความแม่นยำในการตีแนวรับและแนวต้านจากกรอบรวมถึงมีความเข้าใจในการเคลื่อนไหวราคาของ Forex เป็นอย่างดี ผู้ที่ใช้กลยุทธ์นี้จึงต้องมีความแม่นยำในการดูตลาด Forex ให้ออก
● การเทรดแบบ Price Pattern
การเทรดตามรูปแบบราคา มีความเสี่ยงสูงมากหากเทรดเดอร์ที่ใช้กลยุทธ์การเทรดนี้อ่านความเคลื่อนไหวของตลาด Forex ได้ไม่แม่นพอ การเทรดแบบนี้จึงเหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่มีเวลาในการศึกษารูปแบบการเทรดและสามารถอ่านความเคลื่อนไหวของตลาดได้อย่างชัดเจน
● การเทรดตามรูปแบบแท่งเทียน (Price Action)
การเทรดชนิดนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเนืื่องจากใช้งานได้ง่าย และช่วยให้การเทรดง่ายขึ้นแม้ไม่มีประสบการณ์ในการเทรด หากคุณใช้เครื่องมืออื่น ๆ ควบคู่กับกราฟแท่งเทียนไปด้วยอย่างเส้นแนวโน้ม และ เส้นแนวรับ-แนวต้าน ก็จะยิ่งทำให้คุณหาแนวโน้มจากกราฟแท่งเทียนได้เร็วยิ่งขึ้น (อ่านข้อมูลเพิ่มเติม>> เคล็ดลับการเทรด Forex ด้วย Price Action)
● การเทรดโดยคำนวนค่ากลาง (Pivot Price)
เป็นการเทรดโดยอิงจากชุดข้อมูลจุดสูงสุด, ต่ำสุด และราคาปิดของช่วงก่อนหน้า โดยกลยุทธ์การเทรดชนิดนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากสำหรับการเทรดรายวัน เนื่องจากช่วยให้การหาค่ากลางระหว่างวันนั้นทำได้ง่ายขึ้น
● การเทรดจากค่าความผันผวน (votalility)
การเทรดในช่วงที่ตลาดมีระยะทางในการเคลื่อนไหวสูง ซึ่งเทรดเดอร์ที่จะเทรดแบบนี้ต้องมีเวลาว่างในการเทรดเพื่อดูตลาด Forex สูง อีกทั้งยังต้องมีความแม่นยำในการหาจุดเข้าถูกด้วย โดยช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการเทรดแบบนี้คือช่วงที่ตลาดของแต่ละประเทศนั้นเปิดให้ทำการซื้อขายพร้อมกัน
● การเทรดด้วยอินดิเคเตอร์ (Indicator)
การเทรดประเภทนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเนื่องจากใช้งานง่าย และสามารถวิเคราะห์ 1 ใน 5 ของตัวแปรอย่างราคาเปิด, ราคาสูงสุด, ราคาต่ำสุด, ราคาปิด และปริมาณการซื้อขายได้ อย่างไรก็ตามแต่ การเทรดด้วยวิธีนี้คือการพึ่งพาระบบ AI คุณจึงไม่สามารถเชื่อได้ทั้งหมด ต้องวิเคราะห์ทิศทางตลาดด้วยตนเองเพิ่มด้วย เทรดด้วยอินดิเคเตอร์ต่างๆ ของ Mitrade อย่างฟรี >>
แผนการเล่น Forex ให้ได้เงินที่ดีต้องอาศัยการเก็บสถิติและจดบันทึกการเทรดของตนเองเพื่อทบทวนการเล่นที่ผ่านมาและเห็นจุดอ่อนหรือโอกาสที่สามารถแก้ไขได้ด้วย โดยเราขอแนะนำให้เริ่มวิเคราะห์ตนเองจากการบันทึกผลการเทรดของตนเองแบบเป็นตัวเลข และเพิ่มเติมการบันทึกข้อผิดพลาด หรือปัจจัยในการตัดสินใจในการเทรดในแต่ละวันเอาไว้ด้วย เพื่อที่จะนำไปต่อยอด และพัฒนาการเทรดในครั้งถัด
เริ่มจากการเลือกกลยุทธ์ที่คุณถนัดเพื่อให้มันสอดคล้องกับการเทรด และเกิดเป็นแผนการเล่น Forex ให้ได้เงินที่ดีขึ้น โดยระบบเทรดที่ดีจะต้องประกอบไปด้วย 3 องค์ประกอบ ดังนี้
● จุดเข้า (Entry)
● จุดออก (TP)
● จุดหนี (SL)
เมื่อออกแบบระบบเทรดเป็นที่เรียบร้อยแล้วก็ลองทดสอบก่อนว่าผลลัพธ์ที่ได้นั้นประสบความสำเร็จไหม? ถ้าไม่ประสบผลสำเร็จก็ต้องแก้ไขเพื่อปรับปรุงให้ดีขึ้นต่อไป
เริ่มต้นจากการวิเคราะห์กราฟก่อนแล้วจึงค่อยเลือกคู่เงินมาเทรดซึ่งระหว่างนั้นจะต้องดูข่าวสารที่มีนัยยะสำคัญของวันนั้น ๆ ด้วยเพื่อวางแผนรับมือกับสถานการณ์ค่าเงินขึ้น หรือค่าเงินลง จากนั้นดูตารางข่าวประจำวันแล้วจึงเลือกเวลาเทรด แนะนำให้เทรดช่วงที่กราฟมันวิ่งแรง ๆ ยกตัวอย่างเช่น ช่วงบ่าย จากนั้นก็ทำตามระบบเทรดที่ได้ออกแบบเอาไว้ และตามด้วยการจดบันทึกสถิติการเทรดในแต่ละวัน
และนี่ก็คือแผนการเล่น Forex ให้ได้เงินที่เรานำมาฝากในวันนี้ นอกเหนือจากแผนการเล่น Forex ให้ได้เงินที่ดีแล้ว โบรกเกอร์ผู้ให้บริการเทรด Forex ก็สำคัญไม่แพ้กัน!
▼ เทรด forex กับโบรกชั้นนำด้วยค่าคอมมิชชั่น 0 สเปรดต่ำ ▼
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
คำเตือนเกี่ยวกับความเสี่ยง: การซื้อขายอาจทำให้คุณสูญเสียเงินทุนทั้งหมด การซื้อขายอนุพันธ์แบบ OTC อาจไม่เหมาะสำหรับทุกคน โปรดพิจารณาเอกสาร PDS, FSG, คำชี้แจงการเปิดเผยความเสี่ยงและข้อตกลงลูกค้าก่อนใช้บริการของเรา และตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โปรดทราบว่าคุณไม่ได้เป็นเจ้าของหรือมีผลประโยชน์ใด ๆ ในสินทรัพย์อ้างอิง