หลังการปรับฐานจากการแพร่ระบาดของโควิด -19 ตลาดหุ้นอเมริกากลายเป็นตลาดหุ้นหนึ่งในโลกที่ฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีขนาดใหญ่และกลายเป็นหนึ่งในเป้าหมายการลงทุนของนักลงทุนทั่วโลก สำหรับนักลงทุนไทยที่กำลังสนใจแต่ยังไม่รู้จะเริ่มยังไง คราวนี้เราจึงนำคำแนะนำในการเปิดพอร์ตหุ้นอเมริกากับโบรกเกอร์ไหนดี 2023 มาเล่าสู่กันฟัง แต่ก่อนอื่นเรามาดูกันก่อนว่าการลงทุนหุ้นอเมริกาน่าสนใจอย่างไร
ตลาดหุ้นอเมริกาที่เปิดให้ซื้อขายหลักทรัพย์มีอยู่ 2 ตลาดหลักคือ ตลาด New York Stock Exchange หรือ NYSE และ Nasdaq ซึ่งทั้งสองตลาดนี้มีบริษัทจดทะเบียนเข้าทำการซื้อขายกว่า 5,700 บริษัท มูลค่ารวมกันกว่า 35 ล้านล้านดอลลาร์ แต่ที่เราคุ้นเคยในการพูดถึงตลาดหุ้นอเมริกาก็คงหนีไม่พ้น ดัชนี Dow Jones 30, S&P 500 และ Nasdaq 100
ด้วยความที่ตลาดหุ้นอเมริกาเหล่านี้มีหุ้นหลากหลายประเภท ทั้งยังมีหลายบริษัททำธุรกิจครอบคลุมตลาดทั่วโลก ทำให้ตลาดนี้มีความน่าสนใจในแง่
1. เป็นตลาดหุ้นที่รวบรวมบริษัทข้ามชาติ ที่ทำไรจากฐานลูกค้าทั่วโลก บริษัทใหญ่ ๆ ที่คำนวณในดัชนีหลักมักมีการดำเนินธุรกิจไม่แค่ในประเทศอเมริกาแต่เป็นทั่วโลก ทำให้มีฐานลูกค้าจำนวนมาก ขยายโอกาสในการทำกำไรของบริษัทได้มากขึ้น
2. เป็นตลาดหุ้นที่รวบรวมหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ได้ชื่อว่าเป็นอุตสาหกรรมที่เติบโตได้สูงในอนาคต ตลาดหุ้นอเมริกามีการระดมทุนของสตาร์ทอัปกลุ่มเทคโนโลยีมากว่า 40 ปีแล้ว และกลายเป็นแหล่งรวบรวมหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่เติบโตสูงที่สุดในโลกเอาไว้ จึงนับเป็นโอกาสหนึ่งในการลงทุน
3. เป็นตลาดที่มีผลตอบแทนย้อนหลังโดดเด่นได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั่วโลก ผลตอบแทนของ Nasdaq ย้อนหลังไป 30 ปีเฉลี่ยแล้วให้ผลตอบแทน 10% ต่อปี ซึ่งหากมองผลตอบแทนจากต้นปี Nasdaq ปรับตัวขึ้นมาแล้วกว่า 30% เมื่อเทียบกับราคาปิดของปีที่แล้ว และเป็นตลาดที่ฟื้นตัวจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดได้ดีที่สุด
การลงทุนหุ้นอเมริกาในปัจจุบันมีทางเลือกให้ทำได้หลายวิธี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเป้าหมายและเงื่อนไขในการลงทุนของแต่ละคน เช่น
1. การเปิดพอร์ตลงทุนหุ้นอเมริกาผ่านตัวกลางในไทย
หากนักลงทุนต้องการลงทุนระยะกลางถึงยาวและได้เป็นเจ้าของหุ้นเพื่อให้ได้รับสิทธิอย่างเงินปันผลหรือสิทธิในการประชุมผู้ถือหุ้น การลงทุนหุ้นอเมริกาผ่านตัวกลางในไทยอาจตอบโจทย์นี้ได้ การเปิดพอร์ตหุ้นอเมริกาสำหรับกรณีนี้ต้องทำสองขั้นตอน คือ
ขั้นตอนแรก การเปิดบัญชีหุ้น
ปกติแล้วแต่ละบล. จะมีบัญชี 2 ประเภทให้ลูกค้าเลือก คือ บัญชีเงินสด Cash Balance ที่ต้องวางเงินเต็มจำนวนก่อนการซื้อขาย บัญชีนี้ใช้เพียงบัตรประชาชนและบัญชีธนาคารในการเปิดบัญชี มีขั้นตอนการปิดบัญชีไม่ซับซ้อน กับ บัญชีวงเงิน Cash ที่ให้ลูกค้าโอนเงินบางส่วนเพื่อทำการซื้อขายด้วยวงเงินก่อนได้ บัญชีประเภทนี้จำเป็นต้องใช้ Statement ยื่นเพิ่มเติม ซึ่งการลงทุนหุ้นอเมริกาของบางโบรกเกอร์กำหนดให้ลูกค้าต้องมีบัญชี Cash ที่มีกำหนดวงเงินขั้นต่ำด้วย
ขั้นตอนที่สอง การเปิดบัญชีซื้อขายหุ้นต่างประเทศ
หลังจากเปิดบัญชีซื้อขายหุ้นเรียบร้อย ก็จำเป็นต้องยื่นขอเปิดบัญชีซื้อขายหุ้นต่างประเทศต่างหาก ซึ่งบางโบรกเกอร์จำเป็นต้องยื่นเอกสาร บางโบรกเกอร์ก็สามารถสมัครเปิดใช้บริการผ่านแอปพลิเคชั่นได้ทันที ทั้งนี้เป็นไปตามเงื่อนไขของแต่ละโบรกเกอร์
ซึ่งความยากง่ายและเงื่อนไขในการเปิดบัญชีของแต่ละบล.ก็จะแตกต่างกันไป หากขั้นตอนการเปิดบัญชีไม่ซับซ้อน ขั้นตอนการโอนเงินและซื้อขายหุ้นมักจะต้องใช้ขั้นตอนมาก ในทางกลับกันหากมีขั้นตอนเปิดบัญชียุ่งยาก มักจะมีเงื่อนไขการซื้อขายที่ผ่อนคลายกว่า
ความได้เปรียบของการเปิดพอร์ตลงทุนหุ้นอเมริกาผ่านตัวกลางในไทยในแง่ที่นักลงทุนจะได้รับสิทธิในการถือหุ้นตัวนั้น ๆ เช่น การประชุมผู้ถือหุ้น จดหมายข่าวสาร ฯลฯ
ในทางกลับกัน วิธีนี้กลับมีความยุ่งยากในแง่การเปิดบัญชีที่มีขั้นตอนซับซ้อน มีค่าธรรมเนียมในการโอนเงินจากไทยไปอเมริกาครั้งละไม่ต่ำกว่า 500-1,000 บาท และบางโบรกเกอร์ยังคงมีการกำหนดเงินขั้นต่ำในการลงทุนที่ 500,000 บาท ทั้งยังมีค่าธรรมเนียมการซื้อขายที่บางโบรกเกอร์คิดเป็นรายครั้ง บางโบรกเกอร์คิดเป็นรายหุ้น ซึ่งรวมแล้วต้นทุนในการซื้อขายหุ้นอเมริกาวิธีนี้ยังคงมีต้นทุนที่สูง อีกทั้งการซื้อหุ้นไม่สามารถแตกเป็นจำนวนย่อยได้ ต้องซื้อในหน่วยหุ้นที่อาจมีมูลค่าสูงถึงหลายหมื่นถึงหลายแสนบาท เช่น Alphabet A ที่ปัจจุบันราคา 52,200 บาท และนักลงทุนต้องวางเงินเต็มจำนวนเท่านั้น
2. การเปิดพอร์ตลงทุนหุ้นอเมริกาผ่านโบรกเกอร์ CFD
การซื้อขายหุ้นอเมริกาผ่านโบรกเกอร์ CFD คือวิธีการซื้อขายหุ้นที่มีความรวดเร็วและสภาพคล่องที่สูง ทำให้นักลงทุนสามารถจับจังหวะในการทำกำไรได้ทันทีโดยไม่ต้องเป็นเจ้าของหุ้น และสิ่งที่น่าดุงดุดใจที่สุดคือ การซื้อขายหุ้นอเมริกาผ่านโบรกเกอร์ CFD ได้เสนอความได้เปรียบด้านอัตราทด (Leverage) ให้กับเทรดเดอร์ ทำให้สามารถวางเงินเพียงจำนวนน้อยแต่ก็ยังจะได้รับผลตอบแทนเท่ากับการซื้อขายสินค้านั้นจริงด้วยเงินเต็มจำนวน
★ ตัวอย่างเช่น
ด้วยเงื่อนไขการซื้อขายหุ้น Alphabet หรือ GOOG 1 Lot ด้วยอัตราทด 20 เท่า ทำให้นักลงทุนสามารถวางเงินขั้นต่ำที่ $87.48 ดอลลาร์ หรือราว 2,700 บาทเท่านั้น จากราคาหุ้นปัจจุบันที่ 52,200 บาท โดย
-หากมองว่าราคาหุ้น GOOG กำลังปรับตัวขึ้นต่อ ให้เปิดสถานะ Long
เพื่อคาดหวังผลกำไรจากราคาที่ปรับตัวขึ้น และเมื่อราคาปรับตัวขึ้นไปถึงจุดที่ตั้งใจไว้ก็ปิดสถานะเพื่อรับรู้ผลกำไร และความได้เปรียบจากเครื่องมือ CFD ทำให้ด้วยเงินลงทุนเพียง $87.48 ดอลลาร์ นักลงทุนก็สามารถสร้างผลกำไรได้เทียบเท่ากับการซื้อหุ้น GOOG จำนวน 1 หุ้นที่ราคา $1,747.13 ดอลลาร์ ทีเดียว นั่นหมายความว่า หากราคา GOOG ปรับเพิ่มขึ้น 100 ดอลลาร์ นักลงทุนที่เปิดสถานะไว้ก็จะได้รับผลกำไร $100 ดอลลาร์ด้วยเช่นกัน
-ในทางตรงข้ามหากมองว่าราคา GOOG กำลังปรับตัวลง ให้เปิดสถานะ Short
เพื่อคาดหวังกำไรจากราคาที่ปรับลดลง และเมื่อราคาปรับตัวขึ้นไปถึงจุดที่ตั้งใจไว้ก็ปิดสถานะเพื่อรับรู้ผลกำไรจากส่วนต่างราคาที่เกิดขึ้นจริงในลักษณะเดียวกัน
ส่วนในแง่ที่เปิดบัญชีนั้น นักลงทุนสามารถเปิดบัญชีซื้อขายได้ง่ายและสะดวกมากโดยผ่านเว็บไซต์ได้ทุกที่ทุกเวลา ใช้ระยะเวลาในการอนุมัติสั้น และใช้เอกสารยืนยันเพียงแค่บัตรประชาชนเท่านั้น โดยไม่จำเป็นต้องแสดง Statement ใด ๆ และเมื่อเปิดบัญชีแล้วก็สามารถโอนเงินเข้ามาเพื่อทำการซื้อขายได้ทันที โดยปราศจากค่าธรรมเนียมการโอนเงิน ค่าคอมมิสชั่น หรือค่าธรรมเนียมการเปิดบัญชีอื่นใด ทั้งยังสามารถซื้อขายได้ทุกที่ทุกเวลาผ่านแอปพลิเคชั่นตลอดเวลาเปิดทำการของตลาดหลักทรัพย์ในอเมริกาอีกด้วย
ซึ่งทั้งนี้ไม่มีวิธีไหนดีที่สุด เพียงแต่ว่าอันไหนเหมาะกับสไตล์การเทรดของตัวเองที่สุด
สรุปคือ
การซื้อขายหุ้นอเมริกาผ่านบริษัทหลักทรัพย์ๆ ในไทยจะเหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการถือหุ้นเป็นระยะยาว ต้องการรับสิทธิอย่างเงินปันผลหรือสิทธิในการประชุมผู้ถือหุ้น และมีเงินทุนจำนวนมาก
แต่หากคุณเป็นนักลงทุนที่มีเงินทุนน้อยแต่ก็มีความคาดหวังว่าจะเก็งกำไรก้อนใหญ่ในเวลาระยะสั้นโดยไม่ต้องการรับสิทธิใดๆ และรับความเสี่ยงที่สูงได้(เนื่องจากเลเวอเรจเป็นดาบคมสองด้าน) หรือผสมผสานสองวิธีนี้ก็เป็นทางเลือกที่ดี
สำหรับวิธีแรกที่เป็นการเปิดพอร์ตลงทุนหุ้นอเมริกาผ่านตัวกลางในไทย ปัจจุบันโบรกเกอร์ซื้อขายหุ้นส่วนใหญ่ล้วนมีบริการนี้ เช่น บัวหลวง, ไทยพานิชย์, กสิกร, Maybank Kim Eng ฯลฯ ซึ่งแต่ละโบรกเกอร์จะมีเงื่อนไขการเปิดบัญชีและการซื้อขายแตกต่างกัน
ส่วนการเทรดหุ้นอเมริกาผ่าน CFD มีขั้นตอนที่แตกต่างออกไป โดยนักลงทุนสามารถทำบนเว็บไซต์หรือแอพมือถือของโบรกเกอร์ที่ให้บริการซื้อขาย CFD หรือ Forex เป็นการเฉพาะ เช่น MiTrade
MiTrade เป็นโบรกเกอร์สัญชาติออสเตรเลียที่ได้รับการกำกับดูแลจาก ASIC ให้บริการซื้อขาย CFD หลากหลาย รวมทั้งหุ้นอเมริกา
การลงทุนในหุ้นอเมริกาเป็นเป้าหมายการลงทุนของนักลงทุนทั่วโลก และด้วยเครื่องมืออย่าง CFD ทำให้แม้นักลงทุนจะไม่ได้ถือหุ้นจริง ๆ ก็สามารถคาดหวังผลกำไรจากราคาหุ้นอเมริกาได้ ซึ่งเหล่านี้คือคำแนะนำสำหรับการเปิดพอร์ตหุ้นอเมริกากับโบรกเกอร์ไหนดี 2023 ที่เสนอทางเลือกในการลงทุนหุ้นอเมริกาที่หลากหลายยิ่งขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องกาที่หลากหลายของนักลงทุนได้ดียิ่งขึ้น
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
คำเตือนเกี่ยวกับความเสี่ยง: การซื้อขายอาจทำให้คุณสูญเสียเงินทุนทั้งหมด การซื้อขายอนุพันธ์แบบ OTC อาจไม่เหมาะสำหรับทุกคน โปรดพิจารณาเอกสาร PDS, FSG, คำชี้แจงการเปิดเผยความเสี่ยงและข้อตกลงลูกค้าก่อนใช้บริการของเรา และตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โปรดทราบว่าคุณไม่ได้เป็นเจ้าของหรือมีผลประโยชน์ใด ๆ ในสินทรัพย์อ้างอิง