เยี่ยมชม Mitradeเทรดกับ เว็บ Mitradeเทรดกับ แอพ Mitradeเทรดกับ แอพ Mitrade
สแกนเพื่อดาวน์โหลด
นโยบายกองบรรณาธิการเกี่ยวกับเรา
Mitrade Logoมุมมองการลงทุน

หุ้นกับ Forex แตกต่างกันอย่างไร เทรดหุ้นหรือเทรด Forex อันไหนดีกว่ากัน

ผู้เขียน
|อัพเดทครั้งล่าสุด 22 มี.ค. 2566 09:14 น.
13287

ฉันควรเทรดหุ้นหรือ Forex ดี? เทรดหุ้นดีกว่าเทรด Forex ไหม? หุ้นกับ Forex อันไหนน่าเล่นกว่ากัน? เทรดหุ้นกับ Forex อันไหนเล่นง่ายกว่ากัน? เทรดหุ้นกับเทรด Forex อันไหนเสี่ยงมากกว่ากัน?... คำถามเหล่านี้เป็นคำถามที่พบบ่อยมากสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่


ในการจะเลือกว่าจะเทรด หุ้นหรือ Forex(ฟอเร็กซ์)นั้นมักจะลงมาสู่การเรียนรู้ในจุดที่ว่าสไตล์การเทรดแบบไหนเหมาะกับคุณมากกว่ากัน อย่างไรก็ดี การรู้ความเหมือนความต่างระหว่างหุ้นและ Forex จะช่วยทำให้เทรดเดอร์สามารถทำการตัดสินใจที่อยู่บนพื้นฐานของสภาวะของตลาด สภาพคล่องและปริมาณการซื้อขายได้ เป็นต้น



5 อันดับความแตกต่างระหว่างหุ้นกับ Forex

ตารางด้านล่างนี้คือการสรุปความแตกต่างที่สำคัญบางประการระหว่างตลาดหุ้น และ ตลาด Forex(ฟอเร็กซ์)


ตลาด Forex

ตลาดหุ้น

ปริมาณการซื้อขายมาก - ประมาณ  5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯต่อวัน

ปริมาณการซื้อขายน้อย - ประมาณ 200 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯต่อวัน

สภาพคล่องสูง

สภาพคล่องต่ำ

ตลาด 24 ชั่วโมง

ตลาด 4-8 ชั่วโมง

เทรดได้ทั้งขาขึ้นและขาลงเทรดได้ในขาขึ้นอย่างเดียว
เทรดด้วยเลเวอเรจ ไม่มีเลเวอเรจ
เหมาะกับการเทรดในระยะสั้นหรือปานกลางมากกว่าเหมาะกับการเทรดในระยะยาวมากกว่า


ลองมาดูในเชิงลึกกันให้มากกว่านี้ถึงความแตกต่างระหว่างตลาด Forex และหุ้นอย่างแท้จริงว่าเป็นอย่างไร


1)ปริมาณการซื้อขาย

ความแตกต่างระหว่างตลาดหุ้นและ Forex ที่ใหญ่มากอย่างหนึ่งคือ ขนาดของตลาด Forex ที่แท้จริง Forex มีปริมาณการซื้อขายประมาณ  5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯต่อวัน ด้วยคู่สกุลเงินการซื้อขายที่ได้รับความสนใจอย่างมากซึ่งได้แก่ EUR/USD, USD/JPY, GBP/USD และ AUD/USD ตลาด Forex มีปริมาณการซื้อขายปริมาณเงินดอลลาร์ที่มากกว่าปริมาณการซื้อขายหุ้นของตลาดโลกที่มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 200 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯต่อวัน


การมีปริมาณการซื้อขายที่มากมายขนาดนี้สามารถทำให้เทรดเดอร์ได้ผลประโยชน์มากขึ้น ปริมาณการซื้อขายที่สูงหมายถึง เทรดเดอร์สามารถที่จะดำเนินการคำสั่งซื้อที่ง่ายกว่าและสามารถปิดการขายได้ด้วยราคาที่เทรดเดอร์ต้องการ ในขณะที่ตลาดทั้งหมดมีแนวโน้มของช่องว่างต่างๆมากกว่า ในการมีสภาพคล่องที่มากกว่าในจุดกำหนดราคาแต่ละจุดก็จะทำให้เทรดเดอร์สามารถเข้าและออกจากตลาดได้ดีกว่า


2)สภาพคล่อง

ตลาดที่มีการซื้อขายในปริมาณการซื้อขายที่สูงนั้น โดยทั่วไปแล้วจะมีสภาพคล่องที่สูงเช่นกัน สภาพคล่องจึงนำไปสู่สเปรดที่แน่นขึ้นและลดต้นทุนการทำธุรกรรมอีกด้วย คู่สกุลเงินของ Forex โดยทั่วไปมักมีเปรดที่ต่ำรวมทั้งต้นทุนการทำธุรกรรมที่ต่ำเมื่อเปรียบเทียบกับหุ้น และนี่คือหนึ่งในข้อได้เปรียบที่สำคัญของการเทรดระหว่างตลาด Forex และการเทรดในตลาดหุ้น


3)เวลาซื้อขาย

ตลาดForex เป็นตลาดประเภท OTC (Over the Counter) หมายความว่ามันไม่ได้ทำธุรกรรมการแลกเปลี่ยนแบบดั้งเดิม ตลาดForex จะเปิดให้ซื้อขายได้ตลอด24ชั่วโมง การเทรด Forex ถูกอำนวยความสะดวกมากขึ้นผ่านตลาดระหว่างธนาคาร ซึ่งหมายความว่าการเทรดนั้นสามารถทำได้ทั่วทุกมุมโลกในระหว่างเวลาทำการของแต่ละประเทศและช่วงเวลาของการเทรด ดังนั้น เทรดเดอร์ Forex จึงสามารถเข้าถึงการเทรดได้อย่างสมจริง 24 ชั่วโมงต่อวัน 5 วันต่อสัปดาห์ ในทางกลับกัน ดัชนีหุ้นสำคัญเทรดในเวลาที่ต่างกันและได้รับผลกระทบจากตัวแปรที่แตกต่างกัน 


4)ระยะเวลาการซื้อขาย

การเทรด Forex เหมาะกับนักลงทุนที่ชื่นชอบสไตล์การเทรดในระยะสั้นหรือปานกลางมากกว่าเนื่องจากตลาด Forex มีสภาพคล่องสูง การดำเนินคำสั่งรวดเร็วและการชำระราคา T+0 ขณะที่การซื้อขายหุ้นจะมีสภาพคล่องต่ำกว่าและการชำระราคา T+2 ทำให้การซื้อขายหุ้นจะเหมาะกับนักลงทุนที่ชื่นชอบสไตล์การลงทุนในระยะยาวมากกว่า


5)วิธีการทำกำไร

การเทรด Forex สามารถเทรดได้ทั้งตลาดขาขึ้นและขาลง ซึ่งจะเพิ่มโอกาสในการทำกำไรได้ แต่การเทรดหุ้นจะสามารถทำกำไรได้ในกรณีที่ราคาหุ้นเพิ่มขึ้นอย่างเดียว


6)โอกาสในการขยายกำไร

ข้อที่น่าดึงดุดใจที่สุดของการเทรด Forex ก็คือการเทรดด้วยเลเวอเรจและมาร์จิ้น ซึ่งจะทำให้นักลงทุนมีโอกาสขยายขอบเขตการทำกำไรได้ด้วยเงินทุนน้อย ใช้เงินทุนอย่างมีประสิทธิภาพให้มากขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับการเทรดหุ้นที่ต้องใช้เงินทุนเต็มจำนวนและไม่สามารถขยายกำไรได้  แต่การใช้เลเวอเรจก็มีข้อเสียด้วยเพราะเลเวอเรจเป็นดาบคมสองด้าน ในขณะที่สามารถขยายกำไรได้ก็สามารถขยายขาดทุนได้เช่นกันเมื่อกราฟไปที่ทิศทางตรงกันข้าม

คุณควรเทรดหุ้นหรือ Forex ดี?

ไม่ว่าคุณจะเลือกเทรดกับ Forex หรือ หุ้นนั้นก็ขึ้นอยู่กับเป้าหมายของคุณและสไตล์การเทรดที่คุณชื่นชอบ หากคุณมีความคาดหวังว่าจะเก็งกำไรเป็นก้อนใหญ่ในระยะสั้นและรับความเสี่ยงที่สูงได้ คุณจะเหมาะกับการเทรด Forex มากกว่า ขณะที่คุณเป็นคนหนึ่งที่มีเงินทุนจำนวนมากและอยากจะถือครองสินทรัพย์ยาวๆ อยากมีสิทธ์ในการออกเสี่ยงและมีเงินปันผล คุณจะเหมาะกับการเทรดหุ้นมากกว่า


หลังจากเข้าใจความแตกต่างระหว่าง Forex และหุ้นแล้ว นักลงทุนสามารถเลือกตามความต้องการของคุณได้เลย


▼ เทรด Forex กับโบรกเกอร์ชั้นนำด้วยค่าคอมมิชชั่น 0 สเปรดต่ำ ▼

  • บวก/ลบ สูงสุด
  • ฟอเร็กซ์
  • สินค้าโภคภัณฑ์
  • ดัชนี
  • หุ้น
  • ชื่อ
  • ซื้อ
  • ขาย
  • เปลี่ยนแปลง

    *** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา


    การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน

    Mitrade
    มุมมองการลงทุนเป็นแพลตฟอร์มที่ให้ข้อมูลทางด้านการเงินภายใต้ Mitrade ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อให้นักลงทุนได้รับความรู้พื้นฐานทางการเงินที่สมบูรณ์ สภาวะตลาดแบบเรียลไทม์ ข่าวที่เกี่ยวข้องในเวลาที่เหมาะสม และการวิเคราะห์ตลาดในเชิงลึก
    Mitrade Logo
    มุมมองการลงทุน
    อำนวยเนื้อหาคอลัมน์ที่มีคุณภาพสูงแก่นักลงทุนทั่วโลก

    คำเตือนเกี่ยวกับความเสี่ยง: การซื้อขายอาจทำให้คุณสูญเสียเงินทุนทั้งหมด การซื้อขายอนุพันธ์แบบ OTC อาจไม่เหมาะสำหรับทุกคน โปรดพิจารณาเอกสาร PDS, FSG, คำชี้แจงการเปิดเผยความเสี่ยงและข้อตกลงลูกค้าก่อนใช้บริการของเรา และตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โปรดทราบว่าคุณไม่ได้เป็นเจ้าของหรือมีผลประโยชน์ใด ๆ ในสินทรัพย์อ้างอิง

    ขยาย