กองทุนซื้อขายแลกเปลี่ยน Cryptocurrency (ETF) ตามทฤษฎีนั้นก็เหมือนกับ ETF อื่น ๆ ในขณะที่ ETF ส่วนใหญ่ติดตามดัชนีหรือตระกร้าสินทรัพย์ ส่วน Cryptocurrency ETF จะติดตามโทเคนดิจิตอลหนึ่งสกุลเงินหรือมากกว่า เช่นเดียวกับ ETF อื่น ๆ อีทีเอฟโทเคนดิจิตอลจะมีการเทรดเหมือนหุ้นสามัญในการแลกเปลี่ยน และอาจมีการเปลี่ยนแปลงของราคาตลอดทั้งวันเมื่อนักลงทุนทำการซื้อและขาย
เพื่อให้ Cryptocurrency ETF ทำงานได้อย่างถูกต้อง องค์กรที่จัดการกองทุนจำเป็นต้องมีสินทรัพย์อ้างอิงที่กองทุนนั้นติดตามอยู่ กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ ETFจะต้องเป็นเจ้าของโทเคนดิจิตอลในสัดส่วนที่เทียบเท่ากัน ความเป็นเจ้าของของโทเคนเหล่านี้จะถูกแสดงเป็นหุ้น และโดยการซื้อหุ้นเหล่านี้นักลงทุนในETFจะเป็นเจ้าของโทเคนเหล่านั้นแ นักลงทุนอีทีเอฟจะได้รับโอกาสในการลงทุนในสินทรัพย์อ้างอิง
ดังนั้น Cryptocurrency ETF อยู่ตรงไหนตอนนี้? จนถึงขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต. ) ได้ระบุว่าจะไม่อนุมัติอีทีเอฟ Cryptocurrency จนกว่าตลาดจะแสดงระดับของความมั่นคงและความปลอดภัย อย่างไรก็ตามท่าทีของคณะกรรมการ ก.ล.ต.ดังกล่าวไม่ได้หยุดให้หลายฝ่ายละความพยายามที่จะเปิดตัวอีทีเอฟสกุลเงินดิจิตอลแต่อย่างใด
Chicago Board Options Exchange (CBOE) ซึ่งได้เปิดตัว Bitcoin ฟิวเจอร์สได้ชักชวนให้ ก.ล.ต. พิจารณาทบทวนการบล็อกกองทุนโทเคนดิจิตอลก่อนหน้านี้ Cameron และ Tyler Winklevoss ผู้ก่อตั้ง Gemini ผู้ให้บริการแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิตอลที่มีชื่อเสียง ยังคงยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการ ก.ล.ต. เพื่อขออนุมัติ Bitcoin ETF ที่ยังไม่ประสบความสำเร็จ
Coinbase การแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิตอลที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ได้เปิดตัวกองทุนดัชนีซึ่งเปิดรับสกุลเงินดิจิตอลที่ใหญ่ที่สุดสี่แห่ง แต่ก็ไม่เหมือนกับ ETF อีทีเอฟบางตัวยังมีการนำเสนอ GBTC บ้างเล็กน้อย แต่ทั้งนี้ยังไม่ได้มุ่งเน้นที่ Cryptocurrency
ก.ล.ต. ได้แสดงความเปิดกว้างต่อความเป็นไปได้ของกองทุน Cryptocurrency ในอนาคต และสิ่งนี้สามารถกระตุ้นการมองโลกในแง่ดีของนักลงทุนได้หาก ETF ของ Cryptocurrency เติบโตในส่วนอื่น ๆ ของโลก ยกตัวอย่างเช่นตลาดหลายแห่งในยุโรปและเอเชียได้เปิดตัว ETF ของ Cryptocurrency ต้องขอบคุณที่มีกฎการควบคุมในระดับที่ต่างกัน
ขณะนี้ไม่มี Cryptocurrency ETF ซื้อขายต่อสาธารณะในสหรัฐอเมริกา ณ เดือนพฤศจิกายน 2562 สิ่งที่ใกล้เคียงที่สุดคือกองทุนที่รู้จักกันในชื่อ Bitcoin Investment Trust (GBTC) กองทรัสต์นี้ทำหน้าที่เหมือนอีทีเอฟในหลาย ๆ ด้าน - มันเป็นเจ้าของบิตคอยน์ในนามของนักลงทุนและช่วยให้นักลงทุนเทรดได้ในหุ้นของกองทรัสต์นั้น ๆ
อย่างไรก็ตามสปอนเซอร์ของกองทุน Grayscale Investment Trust จะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการจัดการรายปี 2% ของสินทรัพย์ซึ่งเป็นราคาที่สูงกว่ากองทุน ETF อื่น ๆ นอกจากนี้ในฐานะที่เป็นกองทรัสต์รายแรก GBTC ได้ประสบกับความผันผวนของราคาอย่างมากเมื่อเทียบกับการเปลี่ยนแปลงมูลค่าของ Bitcoin ในขณะที่ใคร ๆ ก็คาดหวังว่า GBTC จะมีความสัมพันธ์กับราคาของ Bitcoin แต่ก็ไม่ได้เป็นเช่นนั้นเสมอไป โดยรวมแล้วด้วยอัตราส่วนค่าใช้จ่ายที่สูงและการลงทุนขั้นต่ำที่สูงเช่นกันทำให้ GBTC ยังไม่สามารถเข้าถึงนักลงทุนหลักในขณะนี้ได้
นักลงทุนสหรัฐที่ต้องการมีส่วนร่วมใน ETF สกุลเงินดิจิตอลยังมีตัวเลือกที่จำกัด การลงทุนในกองทุนETF ระหว่างประเทศเป็นวิธีการหนึ่งในการเข้าถึง และหากพวกเขาปฏิบัติตามข้อกำหนดที่เข้มงวดสำหรับการลงทุนใน GBTC ได้นั่นก็เป็นความเป็นไปได้อีกประการหนึ่ง ในขณะนี้อาจจะดีกว่าถ้านักลงทุนเหล่านี้มองไปยังกลุ่มอีทีเอฟที่เกี่ยวข้องเช่น - Blockchain ETF
เทคโนโลยี Blockchain รองรับพื้นที่ Cryptocurrency และเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับโทเคนดิจิตอล มีอีทีเอฟจำนวนมากขึ้นที่เน้นในบริษัทที่เกี่ยวข้องกับบล็อกเชน ซึ่งทั้งนี้อาจรวมถึงนักพัฒนาโปรเซสเซอร์คอมพิวเตอร์ และผู้ผลิตที่เชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับอุตสาหกรรมสกุลเงินคริปโต อีทีเอฟเช่น Amplify Transformational Data Sharing ETF (BLOK) และ Reality Shares Nasdaq NextGen Economy ETF (BLCN) ช่วยให้นักลงทุนเข้าถึงบริษัทที่มุ่งเน้นการลงทุนไปที่บล็อกเชน อีทีเอฟจำนวนมากเหล่านี้ได้ประสบความสำเร็จอย่างมากมายแล้ว
Cryptocurrency ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดบางแห่งได้เห็นกำไรจากต่างประเทศ อย่างไรก็ตามอุตสาหกรรมนี้ยังคงแวดล้อมไปด้วยความไม่แน่นอนและเกิดความผันผวนอย่างหนัก ด้วยเหตุนี้นักลงทุนจำนวนมากต้องการใช้เครื่องมือเช่น ETF เพื่อเข้าร่วมในการลงทุนใน Cryptocurrency
สกุลเงิน ETF ช่วยให้นักลงทุนใช้ประโยชน์จากโอกาสที่มีอยู่จากโทเคน ในขณะที่มอบเรื่องการจัดการและความปลอดภัยให้กับผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้ดูแล เนื่องจาก Cryptocurrency และการแลกเปลี่ยนโทเคนดิจิตอลยังคงเป็นเป้าหมายของพวกโจรและนักหลอกลวงอย่างสม่ำเสมอ จึงเป็นที่เข้าใจได้ว่าทำไมนักลงทุนอาจต้องการใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ
มีประโยชน์มากมายในการลงทุนผ่าน Cryptocurrency ETF แทนการลงทุนใน Cryptocurrency โดยตรง อันดับแรกดังที่กล่าวถึงข้างต้น กระเป๋าเงินดิจิตอลและการแลกเปลี่ยนมีความเป็นไปได้สูงต่อการถูกแฮกและการโจรกรรม นักลงทุนที่ถือโทเคนดิจิตอลจะเสี่ยงต่อการเห็นสินทรัพย์ของพวกเขาหายไปโดยไม่สามารถเรียกร้องใด ๆ ได้ อย่างไรก็ตามนักลงทุนในสกุลเงินดิจิตอล ETF มีระดับความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้นในธนาคารผู้รับฝากสินทรัพย์ที่สนับสนุนกองทุน ETF
ข้อดีอีกประการของ Cryptocurrency ETF คือสามารถใช้เพื่อติดตามโทเคนดิจิตอลหลายรายการพร้อมกันได้ โลกของสกุลเงินดิจิตอลนั้นมีการแบ่งแยกอย่างมาก และนักลงทุนที่ต้องการถือตะกร้าการลงทุนเช่นต้องการลงทุนในโทเคนที่แตกต่างกัน 20 สกุลเงิน อาจต้องเป็นเจ้าของและมีกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์และบัญชีหลายสกุลเงินเพื่อการแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิตอลต่างๆ
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
คำเตือนเกี่ยวกับความเสี่ยง: การซื้อขายอาจทำให้คุณสูญเสียเงินทุนทั้งหมด การซื้อขายอนุพันธ์แบบ OTC อาจไม่เหมาะสำหรับทุกคน โปรดพิจารณาเอกสาร PDS, FSG, คำชี้แจงการเปิดเผยความเสี่ยงและข้อตกลงลูกค้าก่อนใช้บริการของเรา และตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โปรดทราบว่าคุณไม่ได้เป็นเจ้าของหรือมีผลประโยชน์ใด ๆ ในสินทรัพย์อ้างอิง