ตลาดหุ้นได้ชื่อว่าเป็นตลาดที่เปิดกว้างสำหรับนักลงทุนเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาดหุ้นในปัจจุบันที่มีการเปิดบัญชีได้ง่ายขึ้นในแบบที่แม้แต่นักลงทุนรายเล็กรายน้อยที่ไม่มีสเตทเมนต์ก็สามารถเข้าถึงการลงทุนในตลาดนี้ได้ ซึ่งแม้ว่าเงื่อนไขในการเปิดบัญชีจะผ่อนคลายลงมาก แต่การก้าวเข้ามาในตลาดหุ้นของนักเทรดมือใหม่ก็ยังคงมีความกังวลอยู่บ้าง
และสำหรับใครที่ประสบปัญหานี้อยู่ก็วางใจได้เลย เพราะบทความนี้เราจะมาแนะนำขั้นตอนการเล่นหุ้นสำหรับนักเทรดมือใหม่ในแบบที่เริ่มตั้งแต่ขั้นตอนการเปิดบัญชีทีเดียว
ก่อนที่เราจะไปถึงขั้นตอนการเล่นหุ้น เราควรมาทำความรู้จักกับการเล่นหุ้นกันก่อน โดยคำว่าการเล่นหุ้นนั้นน่าจะหมายถึงการเทรดหุ้น ซึ่งเป็นรูปแบบหนึ่งในการทำกำไรในตลาดหุ้นที่นักเทรดนิยมใช้
วิธีนี้จะใช้การซื้อขายหุ้นซ้ำ ๆ หลาย ๆ ครั้ง เพื่อสร้างสภาพคล่องในขนาดที่ไม่มากแต่ได้สม่ำเสมอ ซึ่งการเทรดจะเป็นคล้ายกับการเก็บส่วนระหว่างที่หุ้นมีการเคลื่อนไหวผันผวนขึ้นลงในตลาด ในแบบที่นักลงทุนที่ใช้กลยุทธ์ถือยาวแบบ Buy & Hold ไม่สามารถทำได้
เทคนิคการเล่นหุ้นหรือการเทรดหุ้นที่นิยมใช้ในปัจจุบันถูกแบ่งออกได้เป็น 4 รูปแบบ นั่นคือ
Position Trader: เป็นการเทรดที่จะถือหุ้นในระยะกลาง เช่น ระดับเดือนถึงปี หมุนขายตามรอบวัฏจักรของหุ้น
Swing Trader: เป็นเทคนิคการเทรดที่ถือหุ้นในระยะสั้นลงมาคือ เล่นรอบตามรายสัปดาห์ หรือตามเหตุการณ์
Day Trader: เป็นเทคนิคที่หลายคนคุ้นเคยดี นั่นคือการเทรดแบบระยะสั้นในวัน และจะไม่ถือสถานะข้ามวัน
Scalp Trader: เป็นเทคนิคการเทรดแบบสั้นมาก ในช่วงเสี้ยววินาทีถึงระดับนาที โดยอาศัยโมเมนตัมราคา โดยที่นักเทรดจะไม่ถือสถานะข้ามวันเช่นกัน
โดยในหนึ่งพอร์ตการลงทุน เจ้าของอาจเลือกกลยุทธ์ที่หลากหลายสอดคล้องกับเป้าหมาย พฤติกรรมราคาของหุ้นแต่ละตัว รวมถึงการทนต่อความเสี่ยงที่นักเทรดสามารถทนรับได้ด้วย
เมื่อเราทำความรู้จักกับวิธีเล่นหุ้นกันไปแล้ว คราวนี้เรามาเริ่มที่ขั้นตอนการเล่นหุ้นสำหรับมือใหม่ ควรเริ่มต้นจาก
1) เปิดบัญชีหุ้น
ในการเล่นหุ้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีบัญชีซื้อขายหุ้นเป็นอันดับแรก ซึ่งนักเทรดสามารถติดต่อโบรกเกอร์เพื่อทำการเปิดบัญชีได้โดยตรง แต่ทั้งนี้การเปิดบัญชีซื้อขายหุ้นกับบริษัทหลักทรัพย์ในประเทศไทยยังมีขั้นตอนยุ่งยากเล็กน้อยและอาจใช้เวลา จึงจำเป็นต้องเผื่อเวลารอคอยสำหรับการเปิดบัญชีไว้ด้วย
สำหรับเอกสารที่ต้องเตรียมไปด้วยเช่น สำเนาบัตรประชาชน สำเนาสมุดบัญชีธนาคาร และหากมีสเตทเมนท์หรือหลักฐานทางการเงินอื่น ๆ ก็สามารถนำไปใช้ยื่นขอวงเงินเพิ่มได้
2) กำหนดวงเงินลงทุนตั้งต้นและกำหนดกลยุทธ์เล่นหุ้นที่สอดคล้อง
ระหว่างรอเปิดบัญชีเราก็ต้องเริ่มวางแผนการเล่นหุ้นด้วยการตอบคำถามก่อนเลยว่า ‘มีเงินลงทุนตั้งต้นได้เท่าไหร่?’ และ ‘มีเป้าหมายของการเล่นหุ้นแบบไหน?’
สำหรับการกันเงินลงทุนเอาไว้สำหรับการเล่นหุ้นครั้งแรก ไม่ควรลงเงินมากเกินกว่าจำนวนที่คิดว่าจะขาดทุนได้ หรือหากให้ดีที่สุดคือควรลงเงินในจำนวนน้อยก่อน เมื่อชินกับสภาพตลาดหุ้นแล้วก็ค่อยเพิ่มพอร์ตการลงทุนในภายหลังได้
ส่วนเป้าหมายและกลยุทธ์ของการเล่นหุ้นนั้นก็จะสอดคล้องกับเงินลงทุนตั้งต้น เช่น
หากใช้เงินลงทุนตั้งต้นน้อย การตั้งเป้าหมายเพื่อลงทุนโดยถือยาวสักสองสามปีอาจไม่ได้ผลตอบแทนที่น่าสนใจนัก แต่การเทรดระยะสั้นเพื่อสร้างกระแสเงินสดอาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า
หากมีเงินทุนตั้งต้นเป็นก้อนจำนวนมาก การนำมาเล่นเก็งกำไรก็อาจไม่ใช่ทางเลือกที่ดีเพราะมีความเสี่ยงสูงในแบบที่อาจทำให้สูญเสียเงินจำนวนมาก ดังนั้นการเลือกกลยุทธ์ Buy & Hold และรอถือเพื่อทำกำไรในระยะยาวจึงอาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า
3) เลือกหุ้นหรือเครื่องมือที่สอดคล้องกับกลยุทธ์ที่วางไว้
ขั้นตอนนี้ต้องอาศัยความรู้ด้านการวิเคราะห์เชิงพื้นฐานรวมถึงการเฝ้าสังเกตพฤติกรรมราคาของหุ้นที่สนใจ เพื่อให้สามารถเลือกหุ้นได้สอดคล้องกับกลยุทธ์ที่วางไว้ เช่น
หากเลือกกลยุทธ์การเทรดระยะสั้น ควรเลือกหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กที่มีรอบความผันผวนสูงและมีสภาพคล่องสูงเพียงพอที่จะเทรด
หากเลือกกลยุทธ์ Buy & Hold ควรเลือกหุ้นพื้นฐานดีที่มีปัจจัยบวกสนับสนุนในระยะยาว
4) ฝึกฝนการใช้งานแพลตฟอร์มเทรดและทดสอบกลยุทธ์ที่กำหนดไว้
เมื่อได้กลยุทธ์และหุ้นที่เป็นเป้าหมายเรียบร้อยแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับนักเล่นหุ้นมือใหม่ไม่แพ้การวางกลยุทธ์ก็คือการใช้เครื่องมือ/แพลตฟอร์มในการเทรด
นักเทรดจำเป็นต้องศึกษาและใช้แพลตฟอร์มเทรดให้คล่องมือก่อนลงสนามจริงด้วยบัญชีทดลองที่ Settrade มีให้ เพื่อป้องกันการส่งคำสั่งผิดพลาด เพราะการส่งคำสั่งที่มี 0 เกินไปหนึ่งหรือสองตัว นั่นหมายถึงผลลัพธ์ที่แตกต่างกันมากมายทีเดียว
นอกจากนี้เรายังสามารถใช้บัญชีทดลองสำหรับการทดสอบกลยุทธ์ที่วางไว้ได้ด้วย
5) ลองประเมินผลลัพทธ์ที่ได้เทียบกับมาตรฐานผลตอบแทนเฉลี่ยของตลาด
หากประเมินผลลัพธ์ของการเทรดจากบัญชีทดลอง เทียบกับมาตรฐานการเปลี่ยนแปลงของราคาตลาดแล้วพบว่าผลตอบแทนที่ได้มีความน่าสนใจ และกลยุทธ์ที่วางไว้ รวมถึงหุ้นที่เลือกไว้นั้นมีความเป็นไปได้ในการทำกำไร ก็ถึงเวลาที่จะลงสนามจริงได้แล้ว
อย่างไรก็ดีการเล่นหุ้นในตลาดหุ้นไทยนั้นยังมีข้อจำกัดหลายอย่างที่อาจเป็นอุปสรรคต่อนักเล่นหุ้นหน้าใหม่ เช่น การเปิดบัญชีที่มีขั้นตอนและใช้เวลาอนุมัติ 3-5 วันทำการ การที่ตลาดหุ้นไทยยังมีสินค้าทางเลือกน้อย หุ้นบางตัวที่น่าสนใจยังมีสภาพคล่องต่ำไม่เหมาะกับการเล่นหุ้นระยะสั้น ซึ่งนักลงทุนอาจมองหาทางเลือกอื่นที่คล้ายกันมาชดเชยจุดด้อยตรงนี้ได้
CFD(ชื่อเต็ม Contract for Difference ภาษาไทยเรียกว่า สัญญาซื้อขายส่วนต่าง) เป็นเครื่องมืออนุพันธ์ชนิดหนึ่งที่มีสินค้าให้เลือกเทรดได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นหุ้น ดัชนี ค่าเงิน ทองคำ น้ำมัน รวมถึงสกุลเงินดิจิตอล แต่การเทรดด้วยเครื่องมือทางการเงินชนิดนี้ไม่ได้ทำให้นักเทรดได้เป็นเจ้าของสินค้านั้นจริง ๆ เช่น การเทรดหุ้นด้วย CFD ไม่ใช่การซื้อหุ้นมาและได้เป็นเจ้าของ แต่เป็นการซื้อขายสัญญาที่อ้างอิงกับราคาหุ้นเท่านั้น
แต่ด้วยการที่เป็นการซื้อขายสัญญาอนุพันธ์ ทำให้นักเทรดไม่ต้องกังวลเรื่องสภาพคล่องในการซื้อขาย และด้วยความได้เปรียบที่เครื่องมือตัวนี้อนุญาตให้นักเทรดวางเงินเพียงบางส่วน และใช้ความได้เปรียบจากอัตราทด (Leverage)เพื่อสร้างผลตอบแทนในระดับสูง ก็ทำให้นักเทรดสามารถใช้เงินลงทุนน้อย ขณะที่สามารถคาดหวังผลกำไรในระดับหลายเท่าตัวได้
เทรดแบบไม่มีเลเวอเรจ | เทรดแบบมีเลเวอเรจ | |
เลเวอเรจ | 0 | 1:20 |
ราคาเปิด | 2000 USD | 2000 USD |
ราคาปิด | 2100 USD | 2100 USD |
ขนาดการซื้อขาย | 1 ล็อต | 1 ล็อต |
เงินทุนเริ่มต้น | 2000 USD | 100 USD |
กำไรที่ได้ | 100 USD | 100 USD |
อัตราผลตอบแทน | 5% | 100% |
* เลเวอเรจเป็นดาบคมสองด้าน ไม่ใช่ยิ่งสูงยิ่งดี เพราะก็สามารถขยายขาดทุนเช่นกัน นักลงทุนควรหลีกเลี่ยงการใช้เลเวอเรจสูงเกินโดยเฉพาะนักลงทุนมือใหม่ และควรจัดความเสี่ยงให้ดีๆ
▲ ตัวอย่างการเทรดหุ้น PFE หรือ Pfizer กับโบรกเกอร์ CFD - MiTrade
ที่ราคา $35.47 ดอลล่าร์ด้วยอัตราทด 10 เท่า และเงื่อนไขการเทรดขั้นต่ำ 15 lot หากนักเทรดมองว่าราคาหุ้นจะปรับตัวขึ้น ก็เพียงแค่วางเงินลงทุนตั้งต้น $53.2[=($35.47*15 lot)/10] หรือราว 1,600 บาท แล้วรอให้ราคาปรับตัวขึ้นไป และหากราคาปรับตัวขึ้นจนถึงจุดที่วางแผนไว้ เช่น $39 นักเทรดจะสามารถทำกำไรได้ $53.0[=($39-35.47)*15] จากการลงทุนในครั้งนี้ หรือคิดเป็น 100% ของเงินต้นทีเดียว
ในทางกลับกัน หากมองว่าราคา Pfizer จะปรับตัวลง นักเทรดก็สามารถคาดหวังผลกำไรได้จากการเปิดสัญญา Short โดยวางเงินลงทุนตั้งต้นเพียง $53.2 หรือราว 1,600 บาท และคาดหวังผลกำไรได้ในลักษณะเดียวกัน
ตอนนี้โบรกเกอร์ Mitrade ได้เปิดให้นักลงทุนสามารถเทรด 35 หุ้นของบริษัทยักษัใหญ่ได้ รวมถึง Facebook, Google, Apple, Amazon, Adobe, Walt Disney, Microsoft, Walmart และ Alibaba เป็นต้นและจะเปิดให้มากขึ้นอีกต่อไป
เลเวอเรจในการเทรดหุ้นสูงสุดถึง 1:20 ถือว่าไม่ต่ำและไม่สูงมากด้วย ปริมาณซื้อขายขั้นต่ำ 1 ล็อต และค่าคอมมิชชั่น 0 สเปรดต่ำสุดถึง 0.06 pip จะช่วยลดต้นทุนในการเทรด
『 ค่าธรรมเนียม 0 สเปรดต่ำ เลเวอเรจสูง 』
『 ฟรีเงินเสมือนจริง 50, 000 USD 』
『 ฟรีเครื่องมือการจัดการความเสี่ยง 』
การเริ่มต้นสิ่งใหม่เป็นเรื่องน่าลำบากใจและดูยุ่งยากเสมอ แต่ในความยุ่งยากนั้นก็แฝงไปด้วยความน่าตื่นเต้นที่จะได้ทดลองหรือได้พบกับโอกาสใหม่ ๆ ซึ่งการเล่นหุ้นก็ไม่ต่างกัน และเราหวังว่าขั้นตอนการเล่นหุ้นสำหรับมือใหม่ที่กล่าวไปแล้วจะช่วยให้ขั้นตอนการเริ่มต้นนี้เป็นไปอย่างราบรื่นและเป็นแนวทางให้นักเทรดมือใหม่ประสบความสำเร็จในการลงทุนในท้ายที่สุด
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
คำเตือนเกี่ยวกับความเสี่ยง: การซื้อขายอาจทำให้คุณสูญเสียเงินทุนทั้งหมด การซื้อขายอนุพันธ์แบบ OTC อาจไม่เหมาะสำหรับทุกคน โปรดพิจารณาเอกสาร PDS, FSG, คำชี้แจงการเปิดเผยความเสี่ยงและข้อตกลงลูกค้าก่อนใช้บริการของเรา และตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โปรดทราบว่าคุณไม่ได้เป็นเจ้าของหรือมีผลประโยชน์ใด ๆ ในสินทรัพย์อ้างอิง