วิธีอ่านกราฟแท่งเทียนในการเทรด Forex สำหรับมือใหม่

หากคุณต้องการเป็นเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จในการเทรด Forex การอ่านกราฟแท่งเทียนให้แตกฉานถือเป็นสิ่งสำคัญ เพราะกราฟแท่งเทียนเป็นหนึ่งในเครื่องมือพื้นฐานที่คุณสามารถพบได้บนทุกแพลตฟอร์ม และเทรดเดอร์หลายคนสามารถทำกำไรก้อนโตจากฟอเร็กซ์โดยอาศัยเพียงการอ่านกราฟแท่งเทียนเพียงอย่างเดียว

บทความนี้จะสอนวิธีอ่านกราฟแท่งเทียนในการเทรด Forex หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อเทรดเดอร์มือใหม่ทุกท่านนะครับ

แพลตฟอร์มเทรดฟอเร็กซ์มีกราฟต่าง ๆ มากมายให้เทรดเดอร์เลือกใช้ แต่เทรดเดอร์ส่วนใหญ่เลือกใช้กราฟแท่งเทียนด้วยเหตุผลต่อไปนี้

◆ บอกอารมณ์ของเทรดเดอร์

กราฟแท่งเทียนจะช่วยให้คุณเห็นอารมณ์ของเทรดเดอร์ที่มีต่อคู่สกุลเงินผ่านแรงซื้อ-แรงขายที่เกิดขึ้นในรูปของแท่งเทียนและไส้เทียน ซึ่งแตกต่างจากกราฟเส้นและกราฟแท่งที่ไม่ได้ให้ข้อมูลดังกล่าว

◆ เข้าใจง่าย

กราฟแท่งเทียนมีแพทเทิร์นชัดเจนและเข้าใจง่ายซึ่งสามารถพยากรณ์ทิศทางของแนวโน้มได้ดีกว่า และหากคุณใช้เครื่องมืออื่น ๆ ควบคู่กับกราฟแท่งเทียน เช่น เส้นแนวโน้ม แนวรับ-แนวต้าน เป็นต้น ก็จะยิ่งทำให้คุณสามารถค้นหาแนวโน้มและยืนยันแนวโน้มที่ได้จากกราฟแท่งเทียนเร็วยิ่งขึ้น

◆ ได้ผลจริง

กราฟแท่งเทียนใช้ครั้งแรกในญี่ปุ่นเมื่อ 200 กว่าปีที่แล้วโดยพ่อค้าข้าวชาวญี่ปุ่นที่ใช้กราฟแท่งเทียนหาพฤติกรรมของราคาข้าวในตลาดโอซาก้า จนกลายเป็นตำนานแห่งวงการค้าข้าว และได้รับศักดินาเป็นซามูไรอีกด้วย

กราฟแท่งเทียนมีหน้าตาตามภาพด้านล่าง

กราฟแท่งเทียนสามารถใช้ในทุกกรอบเวลาตามที่เทรดเดอร์ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นกรอบราย 15 นาที กรอบราย 1 ชั่วโมงหรือกรอบราย 1 สัปดาห์ก็ไม่มีปัญหา!

กราฟแท่งเทียนใช้เพื่อหาพฤติกรรมของราคาภายในช่วงที่กำหนด โดยที่

◆  หากราคาปิดสูงกว่าราคาเปิด แท่งเทียนสีขาว (Bullish) จะปรากฏ หากคุณเห็นแท่งเทียนสีขาวแท่งยาว นั่นแสดงถึงแรงซื้อที่มากกว่าแรงขายอย่างชัดเจน

◆  หากราคาปิดต่ำกว่าราคาเปิด แท่งเทียนสีดำ (Bearish) จะปรากฎ หากคุณเห็นแท่งเทียนสีดำแท่งยาว นั่นแสดงถึงแรงขายที่มากกว่าแรงซื้ออย่างชัดเจน

◆  ไส้เทียนของแท่งเทียน แสดงถึงการปะทะระหว่างแรงซื้อ-แรงขายที่เกิดขึ้นภายในแท่งเทียน

-  หากแท่งเทียนมีไส้เทียนสั้น หมายความว่า ราคาซื้อขายในช่วงเวลาดังกล่าวไม่ห่างจากราคาเปิดและราคาปิดมากนัก ดังที่ปรากฎในวงกลมสีชมพู

-  หากแท่งเทียนมีไส้เทียนยาว หมายความว่า ราคาซื้อขายในช่วงเวลาดังกล่าวห่างจากราคาเปิดและราคาปิดค่อนข้างมาก ดังที่ปรากฎในวงกลมสีแดง

หลังจากที่ทราบแล้วว่าแท่งเทียนหน้าตาเป็นอย่างไร ตอนนี้ เรามาดูแพทเทิร์นพื้นฐานที่คุณจะพบบนกราฟแท่งเทียน ซึ่งประกอบด้วย

◆ Doji

◆ Marubozu

◆ Spinning Top

แท่งเทียนที่ราคาเปิดและราคาปิดเท่ากัน ซึ่งแสดงถึงแรงซื้อ-แรงขายที่มีพอ ๆ กัน อาจเป็นสัญญาณของการเปลี่ยนแนวโน้ม เพราะแรงซื้อ/แรงขายที่ผลักดันแนวโน้มปัจจุบันอ่อนแรงลง Doji มี 4 รูปแบบดังภาพด้านล่าง

โดยที่

Doji - แสดงความเคลื่อนไหวของแรงซื้อ-แรงขายที่มีการขึ้นและลง ก่อนจะปิดที่ราคาเปิด

Gravestone Doji - แสดงความเคลื่อนไหวของแรงซื้อที่พุ่งขึ้นก่อนที่จะถูกกดลงด้วยแรงขายและปิดที่ราคาเปิด อาจเป็นสัญญาณการกลับทิศทางหรือการสิ้นสุดของแนวโน้มขาขึ้น

Dragonfly Doji - แสดงความเคลื่อนไหวของแรงขายที่ดิ่งลงและก่อนจะเพิ่มขึ้นด้วยแรงซื้อและปิดที่ราคาเปิด อาจเป็นสัญญาณการกลับทิศทางหรือการสิ้นสุดของแนวโน้มขาลง

Four Price Doji - แสดงถึงแรงซื้อ-แรงขายที่น้อยมาก ทำให้ราคาปิดเท่ากับราคาเปิด ซึ่งคุณควรหลีกเลี่ยงการเทรดหากเห็น Four Price Doji

หาก Doji ปรากฎต่อจากแท่งเทียนสีขาว แสดงถึงแรงซื้อที่อ่อนแรงลง ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของการกลับทิศทาง คุณควรรอแท่งเทียนถัดไปเพื่อยืนยันการเปลี่ยนแนวโน้มเสียก่อน

หาก Doji ปรากฎต่อจากแท่งเทียนสีดำ แสดงถึงแรงขายที่อ่อนแรงลง ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของการกลับทิศทาง คุณควรรอแท่งเทียนถัดไปเพื่อยืนยันการเปลี่ยนแนวโน้มเสียก่อน

แท่งเทียนเต็มแท่งไม่มีไส้เทียน  ดังภาพด้านล่าง

ในกรณีแท่งเทียนสีขาวเต็มแท่ง หมายความว่า แรงซื้อคุมในช่วงเวลาดังกล่าว โดยที่ราคาเปิดเท่ากับราคาต่ำสุดและราคาปิดเท่ากับราคาสูงสุด

ในกรณีแท่งเทียนสีดำเต็มแท็ง หมายความว่า แรงขายคุมในช่วงเวลาดังกล่าว โดยที่ราคาเปิดเท่ากับราคาสูงสุดและราคาปิดเท่ากับราคาต่ำสุด

แท่งเทียนที่มีตัวเทียนสั้นและไส้เทียนยาวทั้งบนและล่าง ดังภาพด้านล่าง

Spinning Top สะท้อนถึงความลังเลของแรงซื้อ-แรงขาย โดยตัวเทียนที่สั้นแสดงถึงความเคลื่อนไหวของราคาที่ไม่มากนัก ส่วนไส้เทียนที่ยาวสะท้อนถึงความรุนแรงของแรงซื้อ-แรงขายแต่ไม่มีฝ่ายไหนชนะเด็ดขาด

หาก Spinning Top เกิดขึ้นในแนวโน้มขาขึ้น หมายความว่า แรงซื้ออ่อนแรงลงและอาจเป็นสัญญาณการกลับทิศทางเป็นขาลง

หาก Spinning Top เกิดขึ้นในแนวโน้มขาลง หมายความว่า แรงขายอ่อนแรงลงและอาจเป็นสัญญาณการกลับทิศทางเป็นขาขึ้น

หลังจากคุณทราบถึงแพทเทิร์นพื้นฐานของกราฟแท่งเทียนแล้ว เรามาเริ่มต้นทำความรู้จักกับแพทเทิร์นหนึ่งแท่งเทียน ซึ่งแพทเทิร์นที่เราจะกล่าวถึงคือ

◆  Hammer & Hanging Man

◆  Inverted Hammer & Shooting Star

-  Hammer

ในช่วงแนวโน้มขาลง หากแท่งเทียน Hammer เกิดขึ้น นั่นอาจจะเป็นสัญญาณกลับทิศทางจากขาลงเป็นขาขึ้น เนื่องจากแรงขายที่อ่อนแรงลง ทำให้แรงซื้อสามารถดันราคาปิดให้สูงขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม คุณควรรอแท่งเทียนอีกแท่งเพื่อยืนยันแนวโน้มเสียก่อน

-  Hanging Man

ในช่วงแนวโน้มขาขึ้น หากแท่งเทียน Hanging Man เกิดขึ้น นั่นอาจจะเป็นสัญญาณกลับทิศทางจากขาขึ้นเป็นขาลง เนื่องจากแรงซื้อที่อ่อนแรงลง ทำให้แรงขายสามารถดันราคาปิดให้ต่ำลงได้ อย่างไรก็ตาม คุณควรรอแท่งเทียนอีกแท่งเพื่อยืนยันแนวโน้มเสียก่อน

-  Inverted Hammer

ในช่วงแนวโน้มขาลง หากแท่งเทียน Inverted Hammer เกิดขึ้น นั่นอาจจะเป็นสัญญาณกลับทิศทางจากขาลงเป็นขาขึ้น เนื่องจากแรงซื้อที่มากขึ้น ทำให้แรงขายพยายามที่จะกดแรงซื้อลง แต่แรงขายทำไม่สำเร็จ ทำให้แท่งเทียนปิดด้วยชัยชนะของแรงซื้อ อย่างไรก็ตาม คุณควรรอแท่งเทียนอีกแท่งเพื่อยืนยันการเปลี่ยนทิศทาง

-  Shooting Star

ในช่วงแนวโน้มขาขึ้น หากแท่งเทียน Shooting Star เกิดขึ้น นั่นอาจจะเป็นสัญญาณกลับทิศทางจากขาขึ้นเป็นขาลง เนื่องจากแรงขายที่มากขึ้น ทำให้แรงซื้อพยายามที่จะชะลอแรงขายลง แต่แรงซื้อทำไม่สำเร็จ ทำให้แท่งเทียนปิดด้วยชัยชนะของแรงขาย อย่างไรก็ตาม คุณควรรอแท่งเทียนอีกแท่งเพื่อยืนยันการเปลี่ยนทิศทาง

หลังจากที่คุณได้เรียนรู้แพทเทิร์นหนึ่งแท่งเทียนแล้ว ตอนนี้เรามาขยับความยากขึ้นอีกนิดด้วยแพทเทิร์นสองแท่งเทียน ซึ่งเราขอยกตัวอย่าง 2 แพทเทิร์นดังนี้

◆  Bullish Engulfing & Bearish Engulfing

◆  Tweezer Tops & Tweezer Bottom

-  Bullish Engulfing

แท่งเทียนสีดำและตามด้วยแท่งเทียนสีขาวที่มีขนาดใหญ่กว่าแท่งเทียนสีดำ (สังเกตว่า ตัวแท่งเทียนของแท่งเทียนสีขาวจะสูงกว่าตัวแท่งเทียนสีดำอย่างชัดเจน) ซึ่งเป็นสัญญาณกลับทิศทางจากขาลงเป็นขาขึ้นที่ค่อนข้างชัดเจน 

-  Bearish Engulfing 

แท่งเทียนสีขาวและตามด้วยแท่งเทียนสีดำที่มีขนาดใหญ่กว่าแท่งเทียนสีขาว (สังเกตว่า ตัวแท่งเทียนของแท่งเทียนสีดำจะลดต่ำกว่าตัวแท่งเทียนสีขาวอย่างชัดเจน) ซึ่งเป็นสัญญาณกลับทิศทางจากขาขึ้นเป็นขาลงที่ค่อนข้างชัดเจน

ด้วยแพทเทิร์นของสองแท่งเทียนนี้มีรูปร่างคล้ายคีมหนีบ แพทเทิร์นนี้จึงได้ชื่อว่า “Tweezer” (คีมหนีบ)

-  Tweezer Tops 

ประกอบด้วยแท่งเทียนแท่งแรกที่เป็นขาขึ้นและแท่งเทียนถัดมาจะเป็นขาลง โดยที่ไส้เทียนของสองแท่งเทียนควรจะยาวเท่ากัน ซึ่ง Tweezer Tops อาจเป็นสัญญาณของการเปลี่ยนทิศทางจากขาขึ้นเป็นขาลง

-  Tweezer Bottoms 

ประกอบด้วยแท่งเทียนแท่งแรกที่เป็นขาลงและแท่งเทียนถัดมาจะเป็นขาขึ้น โดยที่ไส้เทียนของสองแท่งเทียนควรจะยาวเท่ากัน ซึ่ง Tweezer Bottoms อาจเป็นสัญญาณของการเปลี่ยนทิศทางจากขาลงเป็นขาขึ้น

หลังจากที่คุณได้เรียนรู้เกี่ยวกับแพทเทิร์นหนึ่งแท่งเทียนและแพทเทิร์นสองแท่งเทียนแล้ว ตอนนี้เรามาเรียนรู้แพทเทิร์นสามแท่งเทียนที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น ซึ่งในบทความนี้จะขอเสนอแพทเทิร์นต่อไปนี้

◆  Evening Star & Morning Star

◆  Three White Soldier & Three Black Crow

◆  Three Inside Up & Three Inside Down

-  Morning Star 

สัญญาณการกลับทิศทางจากขาลงเป็นขาขึ้นอันประกอบด้วยสามแท่งเทียนที่มีลักษณะดังนี้

○  แท่งเทียนแรกจะยังเป็นแนวโน้มขาลง

○  แท่งเทียนที่สองจะเป็นโดจิ จะเป็นแท่งเทียนขึ้นหรือลงก็ได้

○  แท่งเทียนที่สามจะเปลี่ยนเป็นแนวโน้มขาขึ้น โดยแท่งเทียนที่สามควรจะยาวอย่างน้อยเกินครึ่งหนึ่งของแท่งเทียนแรก

-  Evening Star 

สัญญาณการกลับทิศทางจากขาขึ้นเป็นขาลงอันประกอบด้วยสามแท่งเทียนที่มีลักษณะดังนี้

○  แท่งเทียนแรกจะยังเป็นแนวโน้มขาขึ้น

○  แท่งเทียนที่สองจะเป็นโดจิ จะเป็นแท่งเทียนขึ้นหรือลงก็ได้

○  แท่งเทียนที่สามจะเปลี่ยนเป็นแนวโน้มขาลง โดยแท่งเทียนที่สามควรจะยาวอย่างน้อยเกินครึ่งหนึ่งของแท่งเทียนแรก

-  Three White Soldiers 

สัญญาณกลับทิศทางของแนวโน้มจากขาลงเป็นขาขึ้น อันประกอบด้วยสามแท่งเทียนที่มีลักษณะดังนี้

○  แท่งเทียนแรกคือ แท่งเทียนกลับทิศทาง

○  แท่งเทียนที่สองคือ แท่งเทียนยืนยันการกลับทิศทาง โดยแท่งเทียนที่สองควรใหญ่กว่าแท่งเทียนแรก

○  แท่งเทียนที่สามควรมีขนาดอย่างน้อยเท่ากับแท่งเทียนอันที่สอง

-  Three Black Crows 

สัญญาณกลับทิศทางของแนวโน้มจากขาขึ้นเป็นขาลง อันประกอบด้วยสามแท่งเทียนที่มีลักษณะดังนี้

○  แท่งเทียนแรกคือ แท่งเทียนกลับทิศทาง

○  แท่งเทียนที่สองคือ แท่งเทียนยืนยันการกลับทิศทาง โดยที่แท่งเทียนที่สองควรใหญ่กว่าแท่งเทียนแรก

○  แท่งเทียนที่สามควรมีขนาดอย่างน้อยเท่ากับแท่งเทียนอันที่สอง

-  Three Inside Up 

สัญญาณกลับทิศทางของแนวโน้มจากขาลงเป็นขาขึ้น อันประกอบด้วยสามแท่งเทียนที่มีลักษณะดังนี้

○  แท่งเทียนแรกคือ แท่งเทียนขาลง ซึ่งควรพบที่ปลายขาลง โดยเป็นแท่งเทียนขาลงแท่งยาว

○  แท่งเทียนที่สองควรยาวอย่างครึ่งหนึ่งของแท่งเทียนแรก

○  แท่งเทียนที่สามจะต้องปิดเหนือราคาสูงสุดของแท่งเทียนแรก เพื่อยืนยันแรงซื้อที่เหนือกว่าแรงขาย

-  Three Inside Down

สัญญาณกลับทิศทางของแนวโน้มจากขาขึ้นเป็นขาลง อันประกอบด้วยสามแท่งเทียนที่มีลักษณะดังนี้

○  แท่งเทียนแรกคือ แท่งเทียนขาขึ้น ซึ่งควรพบที่ปลายขาขึ้น โดยเป็นแท่งเทียนขาขึ้นแท่งยาว

○  แท่งเทียนที่สองควรยาวอย่างครึ่งหนึ่งของแท่งเทียนแรก

○  แท่งเทียนที่สามจะต้องปิดเหนือราคาต่ำสุดของแท่งเทียนแรก เพื่อยืนยันแรงขายที่เหนือกว่าแรงซื้อ

แท่งเทียนมีลักษณะดังนี้

◆  หากราคาปิดสูงกว่าราคาเปิด แท่งเทียนสีขาว (Bullish) จะปรากฏ หากคุณเห็นแท่งเทียนสีขาวแท่งยาว นั่นแสดงถึงแรงซื้อที่มากกว่าแรงขายอย่างชัดเจน

◆  หากราคาปิดต่ำกว่าราคาเปิด แท่งเทียนสีดำ (Bearish) จะปรากฎ หากคุณเห็นแท่งเทียนสีดำแท่งยาว นั่นแสดงถึงแรงขายที่มากกว่าแรงซื้ออย่างชัดเจน

◆  ไส้เทียนของแท่งเทียน แสดงถึงการปะทะระหว่างแรงซื้อ-แรงขายที่เกิดขึ้นภายในแท่งเทียน

   -  หากแท่งเทียนมีไส้เทียนสั้น หมายความว่า ราคาซื้อขายในช่วงเวลาดังกล่าวไม่ห่างจากราคาเปิดและราคาปิดมากนัก

   -  หากแท่งเทียนมีไส้เทียนยาว หมายความว่า ราคาซื้อขายในช่วงเวลาดังกล่าวห่างจากราคาเปิดและราคาปิดค่อนข้างมาก

เราทำการแบ่งแพทเทิร์นออกเป็น 3 รูปแบบดังนี้

◆  แพทเทิร์นหนึ่งแท่งเทียน: Marubozu, Doji, Spinning Top, Hammer & Hanging Man, Inverted Hammer & Shooting Star

◆  แพทเทิร์นสองแท่งเทียน: Bullish Engulfing & Bearish Engulfing, Tweezer Tops & Tweezer Bottoms

◆  แพทเทิร์นสามแท่งเทียน: Evening Star & Morning Star, Three White Soldier & Three Black Crow และ Three Inside Up & Three Inside Down