โบรกเกอร์ Forex คืออะไร? ประเภทของโบรกเกอร์ Forex

ถ้าหากคุณต้องการเทรดในตลาด Forex นี้ คุณจำเป็นต้องเปิดบัญชีกับ โบรกเกอร์ Forex ก่อน แต่โบรกเกอร์ Forex คืออะไรกันแน่ เนื้อหาในบทความนี้จะทำให้คุณเข้าใจและเห็นภาพถึงความหมายโดยทั่วไปของโบรกเกอร์ Forex

โบรกเกอร์ Forex คือ บริษัทหรือองค์กรที่ให้บริการในการซื้อขายสกุลเงินต่างประเทศ (Foreign Exchange หรือ Forex) แก่นักลงทุน ผู้ซื้อขายที่มีความสนใจในตลาดนี้ โบรกเกอร์ Forex เป็นผู้ที่เปิดโอกาสให้นักลงทุนทำการซื้อขายสกุลเงินต่างประเทศในรูปแบบของคู่เงิน (currency pair) เช่น EUR/USD, USD/JPY, GBP/USD, และอื่นๆ โดยผ่านแพลตฟอร์มการซื้อขายออนไลน์ที่พวกเขาให้บริการ

หน้าที่ของโบรกเกอร์ Forex (Forex broker) มีหลายองค์ประกอบที่สำคัญในการให้บริการแก่นักลงทุนที่สนใจซื้อขายสกุลเงินต่างประเทศในตลาด Forex ดังนี้:

1. การเปิดบัญชี

โบรกเกอร์ Forex ช่วยนักลงทุนในการเปิดบัญชีการซื้อขาย Forex โดยมีตัวเลือกให้บัญชีทดลอง (demo account) เพื่อฝึกฝนหรือบัญชีสด (live account) เพื่อซื้อขายด้วยเงินจริง.

2. การให้คำแนะนำและวิเคราะห์

บางโบรกเกอร์จะให้บริการคำแนะนำการซื้อขายและการวิเคราะห์ตลาดเพื่อช่วยนักลงทุนในการตัดสินใจการซื้อขาย โดยให้ข้อมูลเกี่ยวกับแนวโน้มของราคา และข่าวสารที่อาจมีผลต่อตลาด

3. การให้บริการแพลตฟอร์มการซื้อขาย

โบรกเกอร์จะให้แพลตฟอร์มการซื้อขายออนไลน์ที่นักลงทุนสามารถใช้ในการดำเนินการซื้อขาย Forex โดยแพลตฟอร์มเหล่านี้ส่วนใหญ่รวมถึง MetaTrader 4 (MT4) และ MetaTrader 5 (MT5)

4. การจัดการเงิน

โบรกเกอร์จะช่วยในการจัดการเงิน และรับคำสั่งการซื้อขายจากลูกค้า เช่น การกำหนดขนาดการซื้อขาย (lot size), การใช้งานการยืดหยุ่นในการหมุนเงิน (leverage), และการจัดการความเสี่ยง

5. การประมาณค่าการซื้อขาย

โบรกเกอร์จะคิดค่าธรรมเนียมหรือค่าคอมมิชชันจากการทำการซื้อขาย ซึ่งอาจเป็นค่าสเปรด (spread) หรือค่าคอมมิชชันอื่นๆ

6. การให้บริการสอบถามและซัพพอร์ต 

โบรกเกอร์ Forex ต้องมีทีมงานที่สามารถให้คำแนะนำและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในระหว่างการซื้อขาย และตอบสนองต่อคำถามและข้อสงสัยของลูกค้า

7. การปฏิบัติตามกฎหมายและกำกับดูแล

โบรกเกอร์ Forex ต้องปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้องและรักษาความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือสำหรับลูกค้า โดยบางประเทศมีหน่วยงานกำกับดูแลการซื้อขาย Forex เพื่อตรวจสอบและควบคุมพฤติกรรมของโบรกเกอร์

8. การให้บริการลูกค้า 

โบรกเกอร์ควรให้บริการลูกค้าอย่างเท่าเทียม และให้ความสนใจต่อความต้องการและคำขอของลูกค้า

9. การส่งคำสั่งการซื้อขาย

โบรกเกอร์จะส่งคำสั่งการซื้อขายของลูกค้าไปยังตลาด Forex หรือจะดำเนินการเล่นตัวแทนตามคำสั่งของลูกค้า ขึ้นอยู่กับโครงสร้างของโบรกเกอร์

โบรกเกอร์ Forex มีหลายประเภทตามลักษณะและการทำงานของพวกเขา ดังนี้:

1.โบรกเกอร์ Forex Retail (Retail Forex Broker)

โบรกเกอร์นี้เปิดให้บริการแก่นักลงทุนบุคคลทั่วไปหรือนักลงทุนที่มีความสนใจในการลงทุนในตลาด Forex ในรูปแบบของบัญชีส่วนบุคคล โบรกเกอร์ Retail มักจัดให้มีบัญชีการซื้อขายทดลอง (demo account) และบัญชีการซื้อขายสด (live account) และมักมีการรวบรวมค่าสเปรด (spread) เป็นรายจ่ายหลัก

2. โบรกเกอร์ Forex ECN (Electronic Communication Network)

โบรกเกอร์ ECN เปิดให้บริการในรูปแบบที่เชื่อมโยงลูกค้ากับระบบ ECN ซึ่งเป็นระบบที่เชื่อมโยงระหว่างนักลงทุน ธนาคาร และสถาบันการเงินต่างๆ โดยตรง โบรกเกอร์ ECN จะมีการเลือกค่าสเปรดเป็นค่าคอมมิชชัน และทำให้มีความสมเหตุสมผลและราคาที่ดีกว่าสำหรับนักลงทุนขนาดใหญ่

3. โบรกเกอร์ Forex STP (Straight Through Processing)

โบรกเกอร์ STP กล่าวถึงการประมวลผลคำสั่งซื้อขายของลูกค้าโดยการส่งตรงไปยังตลาดระบบ ECN หรือผู้ให้ Liquidity Provider โดยไม่มีการเป็นตัวกลางในการตรวจสอบคำสั่งซื้อขาย นี่เป็นแบบอื่นที่มีความสมเหตุสมผลและราคาที่ดี

4. โบรกเกอร์ Forex Market Maker

โบรกเกอร์ Market Maker มักเป็นคู่ขายของลูกค้า และมีความรับผิดชอบในการจัดการคำสั่งการซื้อขายของลูกค้า โดยในบางกรณีอาจมีความข้องขัดแย้งของดอลลาร์แรกกับดอลลาร์ที่สอง หรือความผิดปกติในการปรับค่าสเปรด

5. โบรกเกอร์ Forex NDD (No Dealing Desk)

โบรกเกอร์ NDD ไม่มีห้องซื้อขาย (dealing desk) และไม่มีการประมวลผลคำสั่งซื้อขายภายในบริษัทตัวเอง แต่ส่งคำสั่งซื้อขายของลูกค้าไปยังตลาดระบบ ECN หรือผู้ให้ Liquidity Provider โดยตรง

การเลือกโบรกเกอร์ forex นั้นหากนักเทรดเลือกไม่ถูกต้องหรือไม่เข้าใจหลักการการดำเนินการของโบรกเกอร์ที่เลือกก็จะนำไปสู่การเทรดที่ไม่คุ้มค่า ซึ่งวิธีการเลือกโบรกเกอร์ forex ที่น่าเชื่อถือควรประกอบด้วยวิธีดังนี้

1. โบรกเกอร์ที่อยู่ภายใต้หน่วยงานที่รับการกำกับดูแลที่เข้มงวด

สิ่งแรกที่ถือเป็นปัจจัยสำคัญของเทรดเดอร์ในการเลือกโบรกเกอร์ forex คือการพิจารณาถึงการกำกับดูแลโบรกเกอร์(broker)ที่อยู่ภายใต้หน่วยงานที่น่าเชื่อถือและได้รับการรับรองอย่างเป็นมาตรฐานตามสากล เช่น FCA,ASIC เพราะหน่วยงานดังกล่าวนี้จะมีการตรวจสอบและการดูแลอย่างเข้มงวด ทำให้เทรดเดอร์มั่นใจได้ถึงความปลอดภัยของข้อมูลและเงินทุนที่ใช้ในการเทรด 

2. ค่าสเปรด (Spread) และค่าคอมมิชชัน

ค่าสเปรด (Spread) และค่าคอมมิชชันเป็นค่าในการซื้อขายในตลาด Forex ที่โบรกเกอร์เรียกเก็บเป็นรายจ่าย ซึ่งมีผลต่อกำไรหรือขาดทุนที่คุณจะทำได้จากการซื้อขาย. ค่าเหล่านี้สามารถมีผลต่อกำไรหรือขาดทุนอย่างมาก ดังนั้นควรเข้าใจและพิจารณาให้ดีก่อนที่จะเลือกโบรกเกอร์ Forex หรือเปิดตำแหน่งการซื้อขาย

3. อ่านรีวิวโบรกเกอร์

ในปัจจุบัน เทคโนโลยีที่เข้ามามีบทบาทสำคัญอีกทั้งผู้คนต่างให้ความสนใจกับสื่อบนโซเชี่ยลมีเดีย ทำให้หลากหลายข้อมูลไม่มีจริงหรือเท็จที่นักเทรดจะสามารถเข้าถึงข้อมูลและเป็นผู้ตัดสินใจได้ง่ายๆด้วยตนเอง ดังนี้เอง ในแต่ละโบรกเกอร์ต่างมีผู้ใช้บริการจากนักเทรดทั่วทุกมุมโลกที่ได้คอมเม้นและแสดงความเห็นไว้ตามสื่อออนไลน์ต่างๆจึงทำให้ง่ายต่อนักเทรดมือใหม่ที่ต้องการเลือกว่าควรใข้บริการจากโบรกเกอร์ forex ไหนดี ดังนั้น จึงเป็นหน้าที่ของนักเทรดที่จะคอยอ่านรีวิวและสรุปข้อดีข้อเสียของแต่ละโบรกเกอร์เพื่อตัดสินใจเลือกการใช้บริการโบรกเกอร์ที่มั่นใจ

4. คุณภาพของการดำเนินคำสั่งและ Slippage

ปัจจัยสำคัญของการเลือกโบรกเกอร์ forex ที่ถูกต้องคือเลือกโบรกเกอร์ที่มีการดำเนินการคำสั่งซื้อขายรวดเร็วและการคลาดเคลื่อนของราคา (slippage) ที่มีความสมเหตุสมผล การดำเนินการคำสั่งซื้อขายรวดเร็วนั้นคือการดำเนินคำสั่งที่มีคุณภาพและยังหมายถึงเมื่อนักเทรดทำการเปิดคำสั่งการซื้อขายเมื่อใด ระบบจะต้องวิเคราะห์ถึงราคาต้นทุนที่เป็นตัวตั้งและหยิบยกราคาที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าโดยทันที 

5. ระบบและความเร็วในการฝากเงินและถอนเงิน

เมื่อการเทรดเกี่ยวผันกับเรื่องของกำไรและขาดทุน รวมทั้งการลงทุนการเทรดที่เป็นอีกองค์ประกอบสำคัญ ดังนั้น ระบบการฝากและถอนเงินของโบรกเกอร์ forex จะต้องเปี่ยมไปด้วยคุณภาพและความรวดเร็ว อีกทั้งต้องรองรับธนาคารของนักเทรดในการจะอำนวยความสะดวกให้แก่นักเทรดเพื่อให้การเทรดประสบความสำเร็จและเป็นไปได้ด้วยดี ตัวอย่างเช่น นักเทรดอยู่ในประเทศไทย ดังนั้น การฝากและถอนเงินนั้นควรจะครอบคลุมธนาคารที่ให้บริการในประเทศไทยอย่างเช่น บริการไอแบ้งกิ้งของธนาคารในประเทศไทย เพื่อให้นักเทรดได้มีตัวเลือกในการฝากและถอนเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว

6. การบริการลูกค้า

เมื่อโบรกเกอร์ forex ได้จัดรูปแบบแพลตฟอร์มทุกอย่างตามมาตรฐานที่ได้กล่าวในเบื้องต้นแล้วนั้น สิ่งที่สำคัญและขาดไม่ได้คือการให้บริการลูกค้า โดยในแต่ละโบรกเกอร์จะมีการกำหนดระยะเวลาการให้บริการลูกค้าที่แตกต่างกันไม่ว่าจะเป็นการให้บริการทุกวันโดยไม่มีวันหยุด หรือ ห้าวันต่อสัปดาห์ เป็นต้น ทั้งนี้เป็นเรื่องของนักเทรดที่จะต้องติดตามว่าโบรกเกอร์ใดที่เปิดการให้บริการแก่นักเทรดที่พอใจและรับได้มากที่สุด เพราะแน่นอนว่า การเทรดนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนเพราะมีความเกี่ยวเนื่องกับการเงิน จึงต้องคอยตรวจสอบว่าผู้ให้บริการโบรกเกอร์นี้ได้ตัดสรรการบริการลูกค้าแก่นักเทรดลักษณะใด

 แนะนำโบรกเกอร์ Forex - Mitrade 

Mitrade เป็นโบรกเกอร์ Forex ที่มีเทคโนโลยีทางการเงินที่ยึดมั่นในมาตรฐานการกำกับดูแลที่เข้มงวด มุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์การซื้อขายที่ง่ายและสะดวกแก่นักลงทุน แพลตฟอร์มการซื้อขายที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ Mitrade ได้รับการยกย่องอย่างสูงและได้รับรางวัลมากมาย เช่น Best Mobile Trading Platform และ Most Innovative Brokerage Firm

ผ่านแพลตฟอร์มของ Mitrade คุณสามารถเข้าถึงตลาดการเงินระหว่างประเทศ และซื้อขายสินค้ายอดนิยมหลายร้อยรายการ เช่น หุ้น ดัชนี สินค้าโภคภัณฑ์ และสกุลเงิน นอกเหนือจากแพลตฟอร์มการซื้อขายบนมือถือและเว็บไซต์ที่ใช้งานง่ายแล้ว Mitrade ยังเสนอต้นทุนการทำธุรกรรมที่แข่งขันได้ การดำเนินการธุรกรรมที่รวดเร็ว การบริการลูกค้า และเครื่องมือระดับโลก ช่วยให้คุณเข้าใจโอกาสในการลงทุนและการซื้อขาย

บทความนี้เราได้ทำความรู้จักกันแล้วว่า โบรกเกอร์ Forex คืออะไร การพิจารณาเลือกโบรกเกอร์ forex ต้องตรวจสอบปัจจัยและข้อมูลเชิงลึกของแต่ละโบรกเกอร์ก่อนการตัดสินใจเทรด เนื่องจากเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการลงทุนและเงินของเราเอง