นี่คือรีวิวเครื่องขุด Bitcoin รุ่นไหนดีสำหรับปี 2023 ที่จะช่วยให้คุณสามารถสร้าง Passive Income จากการขุด Bitcoin จากที่บ้าน ด้วยการลงทุนในเครื่องขุด Bitcoin นี้จะทำให้คุณเป็นเจ้าของ Bitcoin ได้โดยไม่ต้องจ่ายเงินซื้อแถมยังสามารถสร้างกระแสเงินสดในระยะยาวได้อีกด้วย
หากใครยังไม่ทราบว่าเครื่องขุด Bitcoin คืออะไร มีวิธีเลือกสเป็กยังไง รวมถึงมีลิสต์เครื่องขุด Bitcoin รุ่นไหนดีในปี 2023 บ้างก็ตามมาดูกันได้เลย เพราะในบทความนี้เรารวบรวมข้อมูลทั้งหมดมาไว้ให้แล้ว!
เครื่องขุด Bitcoin คือเครื่องประมวลผลที่มีประสิทธิภาพสูงจนสามารถถอดรหัสเพื่อสร้างบล็อกใหม่ของ Bitcoin ขึ้นมาได้เร็วกว่าคนอื่น แม้ว่าในอดีตเราจะสามารถใช้คอมพิวเตอร์ทั่วไปที่มีการ์ดจอคุณภาพสูงในการขุดได้ แต่ปัจจุบันที่การแข่งขันมีสูงขึ้นและ Bitcoin ที่เหลือให้ขุดมีน้อยลงทำให้ต้องใช้เครื่องขุดที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นจนกลายมาเป็นเครื่อง ASIC และเครื่องขุด Bitcoin ที่เราจะพูดถึงต่อไปนี้ก็คือเครื่อง ASIC ทั้งหมด
เครื่องขุด Bitcoin แบบ ASIC (Application-Specific Integrated Circuit) เป็นเครื่องประมวลผลที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อการแก้รหัสเหรียญคริปโตโดยเฉพาะ เครื่อง ASIC เครื่องหนึ่งสามารถขุดเหรียญได้หลายแบบขึ้นอยู่กับฟังก์ชั่นที่ถูกออกแบบมาในแต่ละรุ่น
เครื่อง ASIC ที่ใช้สำหรับขุด Bitcoin จะเป็นเครื่องที่ทำหน้าที่ประมวลผลและยืนยันธุรกรรมเพื่อสร้างบล็อกใหม่ขึ้นในบล็อกเชนของ Bitcoin และเครื่องที่สามารถประมวลผลเพื่อแก้รหัสได้เร็วที่สุดก็จะได้รับ Bitcoin ใหม่เป็นรางวัล หรือ ที่เรียกกันว่าการขุด Bitcoin นั่นเอง
สำหรับเคล็ดลับการเลือกซื้อเครื่องขุด Bitcoin รุ่นไหนดีในปี 2023 เพื่อให้ผลตอบแทนที่สูงเราก็ต้องคำนึงถึงสเป็กของเครื่องขุดที่ให้โอกาสในการได้รับผลตอบแทน (Bitcoin reward) สูง ขณะเดียวกันก็มีต้นทุนเช่น ราคาค่าเครื่องและต้นทุนการกินไฟฟ้าที่ต่ำ รวมถึงฟังก์ชั่นในการดูแลรักษาอื่น ๆ ได้แก่
ราคา
เพราะเครื่องขุด Bitcoin เป็นต้นทุนจมก้อนใหญ่ที่ต้องจ่ายออกไปและไม่ได้มีราคาที่ถูกนัก แต่ราคาเครื่องขุดที่สูงก็มักจะตามมาด้วยสเป็กเครื่องที่ช่วยเพิ่มความสามารถในการขุด Bitcoin ได้ ราคาของเครื่องขุดจึงเป็นปัจจัยแรก ๆ ที่ต้องคำนึงถึงและชั่งน้ำหนักว่าราคาเท่าไหร่จึงจะเหมาะสม
เหรียญที่สามารถขุดได้
เครื่องขุด Bitcoin มักไม่ได้สามารถขุดได้เพียงแค่ Bitcoin เท่านั้น ซึ่งหากเราสนใจการขุดเหรียญอื่น ๆ ด้วยก็ควรเลือกเครื่องที่มีสเป็กครอบคลุมการขุดเหรียญนั้น ๆ ด้วย
แรงขุด
แรงขุดของเครื่องขุด Bitcoin มีผลต่อโอกาสและผลตอบแทนที่จะได้รับกลับมา เครื่องที่มีแรงขุดสูงมักจะให้โอกาสในการได้รางวัลสูงตามไปด้วย
กำลังไฟที่ใช้
แรงขุดของเครื่องขุด Bitcoin ที่สูงมักจะตามมาด้วยการกินไฟมาก ซึ่งจะส่งผลต่อต้นทุนหลักอีกส่วนหนึ่งของการขุด Bitcoin นั่นก็คือต้นทุนค่าไฟ และกำลังไฟที่เครื่องขุด Bitcoin ใช้จะช่วยให้เราประมาณต้นทุนส่วนนี้ได้
ความดังของตัวเครื่องขณะทำงาน
เป็นปัจจัยหนึ่งที่ต้องคำนึงถึงจากการหาที่ติดตั้งตัวเครื่อง เพื่อไม่ให้เสียงรบกวนพื้นที่รอบข้างได้
เริ่มลิสต์รีวิวเครื่องขุด Bitcoin รุ่นไหนดี 2023 กันเลยกับ Antminer S19j Pro ที่ขึ้นชื่อและเด่นมาก ๆ กับประสิทธิภาพในการขุดด้วยแฮชเรทสุดแรงที่ 100Th/s แต่กินไฟไม่มากไม่น้อยที่ 3250W ด้วยกำลังแรงขนาดนี้ก็เหมาะมาก ๆ กับการขุด Bitcoin ของนักขุดมืออาชีพไปจนถึงอุตสาหกรรมการขุด Bitcoin
ตัวเครื่อง Antminer S19j Pro มาด้วยขนาด 195 x 290 x 370 มม. น้ำหนักรวม 13.2 กก. ติดตั้งง่าย เข้ากันได้กับไฟบ้าน 220-277 V ตัวเครื่องห่อหุ้มด้วยโครงอะลูมิเนียมระบายความร้อนได้ดี ทั้งยังแข็งแรงปกป้องอุปกรณ์ภายในได้แบบไม่มีปัญหา นอกจากนี้ยังสามารถใช้ขุดเหรียญอัลกอริทึม SHA-256 เช่น บิทคอยน์แคชได้แบบไม่มีปัญหา ซึ่งแม้ราคาเครื่องที่ $2,860 จะแรงไม่แพ้กำลังขุด แต่ก็เหมาะกับการลงทุนระยะยาวที่สามารถสร้างกระแสเงินสดได้ราว $0.14 ต่อวัน (ณ ราคา Bitcoin 28,094.08) และเป็นหนึ่งในรุ่นที่เราแนะนำในรีวิวเครื่องขุด Bitcoin รุ่นไหนดี 2023 นี้เลย
★ สรุป Features:
ราคา: $2,860
แรงขุด: 100Th/s
การใช้ไฟฟ้า: 3250 W
ความดัง: 75db
ผลการขุดบิทคอยน์ต่อวัน: $7.38
ต้นทุนของค่าไฟต่อวัน: -$7.24
ผลกำไรเฉลี่ยต่อวัน: $0.14 ($51.1 ต่อปี)
ระยะเวลาคืนทุน: 56 ปี
สำหรับ Antminer T9+ เป็นเครื่องขุด Bitcoin ที่มาในขนาดกะทัดรัดเพียง 125 x 190 x 320 มม. และหนักเพียง 4.2 กก. แถมราคาซื้อหาก็ดีงามสุด ๆ ที่ $430 หรือราว 15,000 บาทเท่านั้น แต่ด้วยคุณสมบัติที่ย่อมเยาสมราคานี้ทำให้เราได้สเป็กเครื่องขุดที่มีแฮชเรทไม่มากเพียงแค่ 10.5Th/s และกินไฟเบา ๆ ที่ 1432W ซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้การแข่งขันขุด Bitcoin เป็นไปได้ค่อนข้างยาก และแม้ตัวเครื่องจะสามารถสร้างผลตอบแทนได้อยู่บ้างที่ $0.77 แต่ก็ถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับต้นทุนค่าไฟที่ใช้ไฟ
ถึงอย่างนั้น Antminer T9+ ก็ยังเป็นเครื่องขุด Bitcoin สเป็กเบา ๆ ในรีวิวเครื่องขุด Bitcoin รุ่นไหนดี 2023ที่เราคัดมาในคราวนี้ที่เหมาะมากสำหรับผู้เริ่มต้นทดลองขุด Bitcoin ด้วยต้นทุนค่าเครื่องที่ไม่แพงนัก
★ สรุป Features:
ราคา: $430
แรงขุด: 10.5Th/s
การใช้ไฟฟ้า: 1432W
ความดัง: 76db
ผลการขุดบิทคอยน์ต่อวัน: $0.77
ต้นทุนของค่าไฟต่อวัน: -$3.09
ผลกำไรเฉลี่ยต่อวัน: -$2.32 (-$846.8 ต่อปี)
ระยะเวลาคืนทุน: ไม่สามารถคืนทุนได้จากกำไรที่ติดลบ
อีกหนึ่งเครื่องขุด Bitcoin มากความสามารถที่ใช้ขุดเหรียญอื่น ๆ บนอัลกอริมึม SHA-256 ได้ก็คงหนีไม่พ้น AvalonMiner A1166 Pro ที่มาพร้อมกับแฮชเรท 81TH/s ด้วยการกินไฟ 3400W ซึ่งแม้จะใช้ขุด Bitcoin ได้ราว $5.97 แต่ก็ยังไม่เพียงพอกับค่าไฟที่ -$7.34 ทำให้ที่ราคา Bitcoin ตอนนี้ยังไม่สามารถทำกำไรได้ แต่ก็จะเริ่มกลับไปทำกำไรได้เมื่อ Bitcoin ราคา $34,500
สำหรับตัวเครื่อง AvalonMiner A1166 Pro มีขนาดไม่ใหญ่นักที่ 306 x 405 x 442 มม. แต่น้ำหนัก 12.8 กก. นั้นก็ถือว่าค่อนข้างเอาเรื่อง จึงต้องเตรียมพื้นที่สำหรับการติดตั้งให้เหมาะสม ตัวเครื่องมาพร้อมพัดลมระบายความร้อน 4 ตัว ช่วยระบายความร้อนได้ดี ซึ่งถือว่าค่อนข้างเป็นเครื่องที่ได้รับความนิยมเมื่อเทียบกับราคาที่สมเหตุสมผลที่ $1,550 หรือราว 54,000 บาท และกลายมาเป็นหนึ่งในลิสต์รีวิวเครื่องขุด Bitcoin รุ่นไหนดี 2023ของเราในคราวนี้
★ สรุป Features:
ราคา: $1,550
แรงขุด: 81TH/s
การใช้ไฟฟ้า: 3400W
ความดัง: 75db
ผลการขุดบิทคอยน์ต่อวัน: $5.97
ต้นทุนของค่าไฟต่อวัน: -$7.34
ผลกำไรเฉลี่ยต่อวัน: -$1.37 (-$500.05 ต่อปี)
ระยะเวลาคืนทุน: ไม่สามารถคืนทุนได้จากกำไรที่ติดลบ
ได้รับความนิยมสูงอีกรุ่นหนึ่งจากลิสต์รีวิวเครื่องขุด Bitcoin รุ่นไหนดี 2023 ที่เราคัดมาในคราวนี้ก็คงหนีไม่พ้น AvalonMiner 1246 จาก Canaan ที่มาพร้อมกับแฮชเรท 90Th/s และการกินไฟ 3420W ทำให้ขุด Bitcoin ได้ราว $6.64 ต่อวัน (ผลตอบแทนเปลี่ยนแปลงได้ตามราคาบิทคอยน์) แต่เนื่องจากต้นทุนค่าไฟที่ราว $7.39 ทำให้ยังไม่สามารถทำกำไรได้ที่ราคา Bitcoin $28,000 นี้ และจะเริ่มกลับมาทำกำไรได้เมื่อราคา Bitcoin ปรับตัวขึ้นไปถึงราว $31,500
อย่างไรก็ดีหากพูดถึงสเป็กการขุด AvalonMiner 1246 มาพร้อมกับโครงอะลูมิเนียมและพัดลม 7 ตัวช่วยระบายความร้อนและป้องกันฝุ่นไม่ให้เข้าไปรบกวนในตัวเครื่อง ทั้งช่วยลดความร้อนและช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องไปด้วยในตัว ซึ่งแม้จะยังทำกำไรไม่ได้ ณ ราคา Bitcoin ตอนนี้แต่ก็ยังน่าสนใจหากราคา Bitcoin ปรับสูงขึ้นไปได้ในอนาคต
★ สรุป Features:
ราคา: $3,890
แรงขุด: 90Th/s
การใช้ไฟฟ้า: 3420W
ความดัง: 75db
ผลการขุดบิทคอยน์ต่อวัน: $6.64
ต้นทุนของค่าไฟต่อวัน: -$7.39
ผลกำไรเฉลี่ยต่อวัน: -$0.75 (-$273.75 ต่อปี)
ระยะเวลาคืนทุน: ไม่สามารถคืนทุนได้จากกำไรที่ติดลบ
อีกหนึ่งตัวท็อปสำหรับลิสต์รีวิวเครื่องขุด Bitcoin รุ่นไหนดี 2023 นี้เลยกับเครื่องขุด Bitcoin รุ่นใหม่สเป็กแรงจาก MicroBT กับรุ่น WhatsMiner M30S++ ที่รองรับการขุดเหรียญอื่น ๆ บนอัลกิริทึม SHA-256 พร้อมแฮชเรทที่มากสุดถึง 112Th/s บนประสิทธิภาพการกินไฟ 3472W ให้กำลังการขุดที่สามารถสร้างรายได้กว่า $0.76 ต่อวัน หรือ $277 ต่อปี
ตัวเครื่อง WhatsMiner M30S++ เปิดตัวครั้งแรกเมื่อช่วงเมษาปี 2020 ถูกปรับให้มีแฮชเรทสูงขึ้นกว่ารุ่น WhatsMiner M30S+ก่อนหน้าถึง 40Th/s และกลายมาเป็นเครื่องขุด Bitcoin ที่ทรงประสิทธิภาพและได้ความนิยมสูงสำหรับนักขุดมืออาชีพ โดยเฉพาะเมื่อเชื่อมต่อกำลังการขุดเข้ากับ Mining Pool เจ้าใหญ่ก็จะยิ่งช่วยให้การคืนทุนเป็นไปได้เร็วยิ่งขึ้น
★ สรุป Features:
ราคา: $3,999
แรงขุด: 112TH/s
การใช้ไฟฟ้า: 3472W
ความดัง: 75db
ผลการขุดบิทคอยน์ต่อวัน: $8.26
ต้นทุนของค่าไฟต่อวัน: -$7.50
ผลกำไรเฉลี่ยต่อวัน: $0.76 ($277 ต่อปี)
ระยะเวลาคืนทุน: 14 ปี
อีกหนึ่งรีวิวเครื่องขุด Bitcoin รุ่นไหนดี 2023 ต้องยกให้ WhatsMiner M32 รุ่นนี้เลยที่มาพร้อมกับแรงขุดไม่มากไม่น้อย 62TH/s ใช้ไฟ 3348W ทำให้สามารถขุดบิทคอยน์ได้กว่า $4.57 ต่อวัน ซึ่งแม้ว่าจะยังไม่สามารถทำกำไรได้ ณ ราคา Bitcoin ขณะนี้ แต่ก็จะสามารถกลับมาทำกำไรได้เมื่อราคา Bitcoin อยู่ราว $45,000
สำหรับตัวเครื่อง WhatsMiner M32 มาพร้อมตัวเครื่องอะลูมิเนียมแข็งแรง ขนาดกะทัดรัด 230 x 350 x 490 มม. และน้ำหนัก 10.5 กก. แบบที่สามารถตั้งโต๊ะได้ รวมทั้งราคาที่ไม่แรงมาก $1,100 หรือราว 38,500 บาท ก็นับเป็นเครื่องขุด Bitcoin รุ่นคุ้ม ๆ อีกรุ่นหนึ่งในลิสต์ของเราคราวนี้
★ สรุป Features:
ราคา: $1,100
แรงขุด: 62TH/s
การใช้ไฟฟ้า: 3348W
ความดัง: 75db
ผลการขุดบิทคอยน์ต่อวัน: $4.57
ต้นทุนของค่าไฟต่อวัน: -$7.23
ผลกำไรเฉลี่ยต่อวัน: -$2.66 (-$970.9 ต่อปี)
ระยะเวลาคืนทุน: ไม่สามารถคืนทุนได้จากกำไรที่ติดลบ
แค่กำเงิน 14,455 บาทก็สามารถซื้อเครื่องขุด Bitcoin ได้แล้ว กับเครื่องขุด Bitcoin Bitmain Antminer S5 ที่มาในราคาเบา ๆ เพียง $413 ซึ่งถึงแม้สเป็กจะไม่มากโดยมีแรงขุดเพียง 1.155Th/s แต่ก็มีข้อดีที่กินไฟไม่มากและมีเสียงไม่ดังมาก แถมยังมีขนาดเล็กเพียง 137 x 155 x 298 มม. เรียกได้ว่าเล็กกว่ากระดาษ A4 เสียอีก ทำให้เครื่องขุด Bitcoin รุ่นนี้เหมาะมาก ๆ สำหรับผู้เริ่มต้น หรืออยากลองประสบการณ์การขุด Bitcoin สักครั้งด้วยต้นทุนที่ไม่แพง
แม้สเป็กเครื่องขุดจะมาพร้อมกับคุณสมบัติไม่แรงมาก แต่ก็ยังสามารถขุดได้กว่า $0.09 ต่อวัน ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อหักลบกับค่าไฟแล้วยังไม่กำไร แต่ก็คุ้มพอที่จะลองนำมาใช้สำหรับผู้เริ่มต้นอย่างแน่นอน
★ สรุป Features:
ราคา: $413
แรงขุด: 1.155Th/s
การใช้ไฟฟ้า: 590W
ความดัง: 65db
ผลการขุดบิทคอยน์ต่อวัน: $0.09
ต้นทุนของค่าไฟต่อวัน: -$1.27
ผลกำไรเฉลี่ยต่อวัน: -$1.19 (-$434.35 ต่อปี)
ระยะเวลาคืนทุน: ไม่สามารถคืนทุนได้จากกำไรที่ติดลบ
DragonMint T1 เป็นอีกหนึ่งรุ่นสำหรับเครื่องขุด Bitcoin ที่มาในสเป็กเบา ๆ กับกำลังขุดที่ 16Th/s และกินไฟเพียง 1480W ทำให้ยังสามารถขุด Bitcoin ได้ราว $1.18 แม้จะกินไฟจนยังไม่สามารถทำกำไรได้ในระดับราคา Bitcoin ตอนนี้ก็ตาม
ตัวเครื่องก็มาพร้อมกับขนาดกะทัดรัด 125 x 155 x 340 มม. และหนักเพียง 6.0 กก. ติดตั้งและดูแลง่าย ใช้ Chipboard 3 อัน จำกัดการจ่ายไฟที่ 12V จึงถือว่าเป็นเครื่องขุด Bitcoin สำหรับผู้เริ่มต้นในราคาไม่แพงอีกตัวหนึ่งสำหรับลิสต์เครื่องขุด Bitcoin รุ่นไหนดี 2023 นี้
★ สรุป Features:
ราคา: $1,371
แรงขุด: 16Th/s
การใช้ไฟฟ้า: 1480W
ความดัง: 76db
ผลการขุดบิทคอยน์ต่อวัน: $1.18
ต้นทุนของค่าไฟต่อวัน: -$3.20
ผลกำไรเฉลี่ยต่อวัน: -$2.02 (-$737.3 ต่อปี)
ระยะเวลาคืนทุน: ไม่สามารถคืนทุนได้จากกำไรที่ติดลบ
มาที่เครื่องขุด Bitcoin รุ่นไหนดี 2023 จาก Ebang กันบ้าง กับ EBIT E11++ ที่ถือเป็นเครื่องขุด Bitcoin ที่มาด้วยกำลังขุดที่ไม่แรงมาก แต่สามารถบาลานซ์การใช้พลังงานได้อย่างยอดเยี่ยม นั่นคือขณะที่เครื่องมีแฮชเรทที่ 44Th/s เครื่องใช้ไฟฟ้าต่ำเพียง 1980W ซึ่งแม้ว่าจะขุด Bitcoin ต่อวันได้ไม่มากเท่ารุ่นอื่น แต่ด้วยต้นทุนค่าไฟต่อวันต่ำ ทำให้เราสามารถใช้เครื่องขุด Bitcoin ตัวนี้สำหรับการขุดในระยะยาวได้ดี ซึ่งแม้ว่าที่ราคา Bitcoin ในปัจจุบันจะยังให้ผลตอบแทนเป็นบวกไม่ได้ แต่เครื่องจะสามารถกลับมาให้ผลตอบแทนเป็นบวกได้เมื่อราคา Bitcoin ขยับขึ้นไปที่ $36,000
สำหรับตัวเครื่องและการติดตั้งไม่ได้เรียกร้องความต้องการพิเศษ ด้วยน้ำหนักเครื่องที่ 10 กก. มาพร้อมพัดลมระบายอากาศ 2 ตัว และรองรับกำลังไฟ 11.8V ถึง 13.0V. ก็นับเป็นเครื่องขุด Bitcoin อีกรุ่นหนึ่งที่นิยมใช้ในอุตสาหกรรม
★ สรุป Features:
ราคา: $2,595
แรงขุด: 44Th/s
การใช้ไฟฟ้า: 1980W
ความดัง: 75db
ผลการขุดบิทคอยน์ต่อวัน: $3.25
ต้นทุนของค่าไฟต่อวัน: -$4.28
ผลกำไรเฉลี่ยต่อวัน: -$1.03 (-$375.95 ต่อปี)
ระยะเวลาคืนทุน: ไม่สามารถคืนทุนได้จากกำไรที่ติดลบ
มาถึงอีกหนึ่งรุ่นเบา ๆ สำหรับผู้เริ่มต้นขุด Bitcoin กับ MicroBT Whatsminer M3X ที่มาในสนนราคาเพียง $1,188 หรือราว 41,580 บาท ซึ่งเป็นเรทที่ไม่มากไม่น้อยเมื่อเทียบกับสเป็กเครื่องที่มาพร้อมกำลังขุด 12.5Th/s และกินไฟ 2050W ทำให้สามารถขุดบิทคอยน์ได้กว่า $0.92 ต่อวัน ซึ่งหากนักขุดสามารถหาแหล่งจ่ายไฟที่มีราคาถูกลงก็จะช่วยเพิ่มโอกาสการทำกำไรขึ้นมาได้
นอกจากการขุดบิทคอยน์ เครื่องขุด Bitcoin รุ่นนี้ยังรองรับการขุดเหรียญอื่น ๆ บนอัลกอริทึม SHA-256 มากกว่า 42 ประเภทเหรียญ ซึ่งแน่นอนว่านักขุดก็สามารถเปลี่ยนไปขุดเหรียญอื่น ๆ ที่มีโอกาสทำกำไรได้มากกว่าหากการขุด Bitcoin เป็นไปได้ยากขึ้น และนี่ก็คืออีกหนึ่งเครื่องขุดในลิสต์รีวิวเครื่องขุด Bitcoin รุ่นไหนดี 2023 ที่เรานำมาฝากกัน
★ สรุป Features:
ราคา: $1,188
แรงขุด: 12.5Th/s
การใช้ไฟฟ้า: 2050W
ความดัง: 78db
ผลการขุดบิทคอยน์ต่อวัน: $0.92
ต้นทุนของค่าไฟต่อวัน: -$4.43
ผลกำไรเฉลี่ยต่อวัน: -$3.51 (-$1,281.15 ต่อปี)
ระยะเวลาคืนทุน: ไม่สามารถคืนทุนได้จากกำไรที่ติดลบ
เป็นอย่างไรกันบ้างกับลิสต์ เครื่องขุด Bitcoin รุ่นไหนดี 2023 ทั้ง 10 รุ่นที่มีมาให้เลือกทั้งเครื่องขุดสเป็กเบา ๆ ราคาย่อมเยาสำหรับนักขุดมือใหม่ไปจนถึงเครื่องขุดสุดแรงแบบจัดเต็มสำหรับมืออาชีพหรือการขุดในอุตสาหกรรม ซึ่งไม่ว่าอย่างไรการเลือกเครื่องขุด Bitcoin เพื่อให้ขุดได้ผลตอบแทนสูงก็ไม่สามารถดูแค่ต้นทุนค่าเครื่องและค่าไฟได้ในปัจจุบันได้ แต่ยังต้องดูถึงราคา Bitcoin ที่สามารถเปลี่ยนแปลงไปได้ด้วย เพราะหากราคา Bitcoin ปรับตัวสูงขึ้นก็สามารถสร้างกำไรเป็นจำนวนมากได้จากส่วนต่างของราคาขายและต้นทุนค่าเครื่อง/ค่าไฟ (Margin) ที่เพิ่มขึ้นนั่นเอง และเราก็หวังว่าเพื่อน ๆ จะได้พบเครื่องขุดบิทคอยน์ในใจจากลิสต์เครื่องขุด Bitcoin รุ่นไหนดี 2023 ที่เรานำมาฝากกันในคราวนี้
Q #1) การขุด 1 BTC ใช้เวลานานเท่าไหร่?
ระยะเวลาในการขุด Bitcoin ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น กำลังของอุปกรณ์ในการขุด กำลังไฟของเครื่องขุด รวมทั้งค่าความยากในการขุด (Difficulty Rate) สมมติว่าตัวเครื่องขุดมีกำลังขุด 110.00 TH/s, ใช้กำลังไฟ 3,250.00 วัตต์ และมีค่าความยากในการขุดที่ 17.6150T จะต้องใช้เวลา 1,273.7 วันหรือ 3 ปีครึ่งเพื่อขุดให้ได้ 1 BTC
อย่างไรก็ดี โดยตัวบล็อกเชนของ Bitcoin จะมีการให้รางวัล 1 BTC ในทุกราว 10 นาที ถึง 30 วัน ขึ้นอยู่กับค่าความยากในการขุด หากนักขุดที่ขุดลำพังเข้าร่วมกลุ่มนักขุด (Pool Mining) ก็อาจทำเวลาได้เร็วกว่านั้นในการขุดเพื่อให้ได้ 1 BTC
Q #2) เครื่องขุดบิทคอยน์ vs การ์ดจอ อันไหนดีกว่ากัน?
การขุด Bitcoin ด้วยการ์ดจอเคยเป็นที่นิยมสำหรับนักขุดเหรียญมาก่อน เนื่องด้วยความยืดหยุ่นที่นักขุดสามารถสลับเปลี่ยนไปขุดเหรียญอื่นที่หลากหลายได้หากเหรียญใดเหรียญหนึ่งมีค่าความยากในการขุด (Difficulty) เพิ่มขึ้น ที่สำคัญคือการใช้การ์ดจอขุดเหรียญยังกินไฟน้อย ให้ความร้อนไม่มาก และไม่มีเสียงดังเหมือนเครื่องขุดบิทคอยน์ แต่หากเทียบประสิทธิภาพแล้วการขุด Bitcoin ด้วยการ์ดจอทำได้ยากกว่าเครื่องขุดที่ออกแบบมาเพื่อการประมวลผลโดยเฉพาะ และด้วยประสิทธิภาพในการขุดที่น้อยกว่าเครื่องขุดนี้เองที่ทำให้การขุดด้วยการ์ดจอมีระยะเวลาในการคืนทุนยาวนานกว่าและให้ผลตอบแทนได้น้อยกว่า
Q #3) การขุดบิทคอยน์ด้วยเครื่องขุดบิทคอยน์คุ้มไหม?
สำหรับคำถามนี้เป็นไปได้ทั้งคุ้มและไม่คุ้ม เพราะการทำกำไรจากการขุด bitcoin นั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ความยากง่ายในการขุด Bitcoin ในช่วงนั้น ๆ (difficulty), กำลังขุดของเครื่องขุด, ต้นทุนจากการขุดที่ได้แก่ค่าเครื่องขุดและค่าไฟ รวมถึงราคาของเหรียญ Bitcoin ในช่วงนั้น ๆ ด้วย ซึ่งปัจจัยที่จะทำให้การขุด Bitcoin คุ้มค่าที่สุดก็คือการขุดในช่วงที่ราคา Bitcoin สูง และต้นทุนค่าเครื่องค่าไฟต่ำ ขณะเดียวกันก็ให้กำลังขุดที่สูง
แม้คำถามที่ว่าการใช้เครื่องขุด Bitcoin คุ้มไหมเป็นเรื่องยาก แต่ด้วยเงื่อนไขความคุ้มค่านี้เราก็จะบอกได้ว่าหากใครที่มาทางสายขุด Bitcoin แล้ว การมีเครื่องขุดที่ให้กำลังสูงแต่มีต้นทุนค่าไฟฟ้าต่ำนั้นทำให้นักขุดได้เปรียบกว่าคู่แข่งแน่ ๆ โดยเฉพาะเมื่อเข้าร่วมกลุ่ม Pool Mining ก็สามารถเพิ่มโอกาสการขุดให้คุ้มค่าได้มากยิ่งขึ้นไปอีก
Q #4) สามารถซื้อเครื่องขุดบิทคอยน์ได้ที่ไหน?
เราสามารถซื้อเครื่องขุดบิทคอยน์ได้ง่าย ๆ ผ่านเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถืออย่าง Amazon, asicminerseller หรือสั่งซื้อโดยตรงผ่านเว็บไซต์ของบริษัทผู้ผลิตเครื่องขุดบิทคอยน์ เช่น BITMAIN โดยเปรียบเทียบสเป็กและราคาได้ทันที
**หมายเหต
การคำนวณผลตอบแทนจากเครื่องขุด Bitcoin รุ่นไหนดี 2023 คิดจาก
- อัตราแลกเปลี่ยน 35 THB/USD
- อัตราค่าไฟ 3.2482 บาท/ยูนิต (0.0928 USD/kWh)
- ราคาบิทคอยน์ 28,094.08 USD/BTC
- Block Reward 6.25
- Difficulty 47887764338536.00
ข้อมูลอ้างอิง
Top 10 Bitcoin Mining Hardware
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
คำเตือนเกี่ยวกับความเสี่ยง: การซื้อขายอาจทำให้คุณสูญเสียเงินทุนทั้งหมด การซื้อขายอนุพันธ์แบบ OTC อาจไม่เหมาะสำหรับทุกคน โปรดพิจารณาเอกสาร PDS, FSG, คำชี้แจงการเปิดเผยความเสี่ยงและข้อตกลงลูกค้าก่อนใช้บริการของเรา และตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โปรดทราบว่าคุณไม่ได้เป็นเจ้าของหรือมีผลประโยชน์ใด ๆ ในสินทรัพย์อ้างอิง