เยี่ยมชม Mitradeเทรดกับ เว็บ Mitradeเทรดกับ แอพ Mitradeเทรดกับ แอพ Mitrade
สแกนเพื่อดาวน์โหลด
นโยบายกองบรรณาธิการเกี่ยวกับเรา
Mitrade Logoมุมมองการลงทุน

PE ratio คืออะไร?

ผู้เขียน
|อัพเดทครั้งล่าสุด 20 มี.ค. 2566 08:38 น.
6577

เกริ่นนำ

ในช่วงที่ตลาดปรับตัวลงมามากแบบนี้ นักลงทุนหลายท่านคงกำลังเล็งหุ้นไว้ แต่ก็ไม่รู้ว่าราคาที่เห็นในตอนนี้ถือว่าถูกไหม ควรจะช้อนซื้อได้แล้วหรือยัง ซื้อแล้วจะกำไรไหม ทำกำไรได้เมื่อไหร่ และคำถามมากมายแบบนี้จะใช้วิธีไหนหาคำตอบดี?


การวัดความถูกแพงของราคาหุ้นเป็นเรื่องที่ขึ้นอยู่กับความคิดของแต่ละบุคคล แต่ถ้ามองเรื่องความถูกแพงในการลงทุนและทำกำไรในแบบวิชาการลงทุน เราพอมีตัวชี้วัดความถูกหรือแพงของหุ้นอยู่หลายวิธีด้วยกัน แต่วิธีที่เป็นที่นิยมและมักถูกนักลงทุนเน้นคุณค่า หรือวีไอ (Value Investor-VI) พูดถึงมากที่สุดคงหนีไม่พ้นค่า PE หรือ PE Ratio แต่ PE คืออะไร และเอาไปใช้หามูลค่าหุ้นและวัดความถูกแพงของหุ้นได้อย่างไร คราวนี้เราจะมาหาคำตอบสำหรับคำถามนี้กัน

PE ratio คืออะไร?

PE ratio หรือที่เรียกว่า Price per Earning ratio อ่านชื่อแล้วก็คงพอบอกความหมายได้ว่าคือ อัตราส่วนของ ราคา ต่อ ผลกำไร ของหุ้น เป็นค่าที่บอกว่าถ้าเราซื้อหุ้นที่ราคานี้ เราต้องรอผลตอบแทนของบริษัท กี่ปี จึงจะ คุ้มทุน หากบริษัททำผลกำไรได้เท่านี้ในทุก ๆ ปี


ถ้าคำนวนค่า PE ออกมาได้ยิ่งต่ำ ยิ่งหมายความหุ้นมีราคาถูกและใช้เวลาคืนทุนน้อย ซึ่งหมายถึงทำกำไรได้เร็วขึ้นนั่นเอง


        PE = P/E 


จากสมการวิธีคำนวนหาค่า PE นี้ก็จะใช้ปัจจัย 2 ตัวคือ


1.       ราคาต่อหุ้น (Price) เป็นราคาที่นักลงทุนซื้อหุ้นตัวนั้น ๆ ยิ่งได้หุ้นมาในราคาที่ถูก ถึงผลกำไรต่อหุ้น (EPS) จะไม่มาก ก็มีโอกาสที่ค่า PE จะออกมาต่ำ และคืนทุนได้เร็วขึ้น


2.       ผลกำไรสุทธิต่อหุ้น (Earning Per Share-EPS) ผลกำไรสุทธิต่อหุ้นตัวนี้คิดจากผลกำไรที่บริษัทนั้น ๆ ทำได้ในแต่ละปี แล้วเฉลี่ยออกมาเป็นสัดส่วนผลกำไรที่จะได้ต่อหุ้น นั่นหมายถึงผลกำไรที่ผู้ที่ถือหุ้นหนึ่ง ๆ จะได้ในแต่ละปี ซึ่งหากนักลงทุนสามารถคัดเลือกหุ้นที่มี EPS สูง ๆ ซึ่งหมายถึงบริษัทมีความสามารถในการทำกำไรมาก ถึงแม้นักลงทุนจะซื้อหุ้นนี้มาได้ในราคา (Price) ที่สูง ก็ยังมีโอกาสคืนทุนได้เร็ว เนื่องจาก PE ที่คำนวนได้จะออกมาต่ำเนื่องจากตัวหารมีค่าสูงนั่นเอง


สมมติว่านักลงทุนซื้อหุ้นหนึ่งตัวด้วยราคา 5 บาทต่อหุ้น ขณะนั้นหุ้นมี EPS ที่ 0.5 บาท หุ้นตัวนี้จะมีค่า PE ที่ 10 เท่า หมายความว่าทุก ๆ ปีบริษัทจะจ่ายผลตอบแทนให้ผู้ถือหุ้นจำนวน 0.5 บาท เมื่อครบ 10 ปี นักลงทุนที่ถือหุ้นไว้จะได้ผลตอบแทนกลับมาครบ 5 บาทและคืนทุนในปีที่ 10 และหลังจากปีที่ 10 ไปนักลงทุนจะได้รับผลกำไรจากการถือหุ้นตัวนี้โดยไม่มีต้นทุน


แต่ในโลกการลงทุนไม่สามารถวัดค่าต่าง ๆ ออกมาได้ง่ายดายขนาดนั้น วิธีนี้ยังมีข้อจำกัดอยู่เนื่องจาก ค่า EPS ของหุ้นไม่ได้คงที่เสมอตลอดระยะเวลาที่นักลงทุนถือหุ้นนั้น ๆ ทำให้ค่า PE สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดระยะเวลาที่นักลงทุนถือหุ้น


เช่น นักลงทุนซื้อหุ้นมาได้ที่ราคา 5 บาท และด้วย EPS 0.5 บาทเท่ากันกับตัวอย่างก่อนหน้า ทำให้นักลงทุนได้หุ้นมาที่ค่า PE 10 เท่า และคาดหวังว่าต้องถือหุ้นไปอีก 10 ปีจึงจะคุ้มทุน แต่ระหว่างนั้นเกิดการเติบโตอย่างก้าวกระโดดและมีปัจจัยใหม่เข้ามากระทบกับผลตอบแทนที่บริษัทจะทำได้ (EPS) เช่น เกิดการขยายไลน์การผลิต หรือขยายตลาดการส่งออก ทำให้ผลตอบแทนต่อหุ้นของบริษัทนั้น ๆ (EPS) ปรับขึ้นมาที่ 1 บาทต่อหุ้น การเปลี่ยนแปลงนี้กระทบค่า PE ทำให้ปรับตัวลงมาเหลือ 5 ทันที หมายความว่าบริษัทมีความสามารถทำกำไรได้มากขึ้น ทำให้จุดคุ้มทุนของการถือหุ้นนี้จะเหลือเพียง 5 ปีเท่านั้น


ในทางกลับกัน สมมติให้หากมีปัจจัยเชิงลบที่กระทบต่อผลกำไรของบริษัท เช่น บริษัทถูกกีดกันทางการค้า หรือถูกเรียกค่าเสียหาย ทำให้ผลกำไรต่อหุ้นปรับลดลงมาเหลือ 0.25 บาทต่อหุ้น ทำให้ค่า PE ของหุ้นที่นักลงทุนได้มาด้วยราคา 5 บาทนี้เปลี่ยนไปเป็น 20 เท่า นั่นหมายถึงนักลงทุนต้องถือหุ้นนี้ไปเป็นเวลา 20 ปีจึงจะคุ้มทุนและเริ่มมีกำไร


ดังนั้นจะเห็นว่าการเลือกใช้เครื่องมีอย่าง PE ในการประเมินการลงทุนในหุ้นนั้น ๆ ยังคมีข้อจำกัด แต่ทั้งนี้วิธีนี้ก็ยังเป็นที่นิยมเนื่องจากสามารถเปรียบเทียบความถูกแพงของหุ้นแต่ละตัวในตลาดได้อย่างเป็นมาตรฐานเดียวกัน ซึ่งหลังจากเลือกหุ้นที่ PE ได้แล้ว นักลงทุนสามารถประเมินข้อจำกัดของการลงทุนด้วยวิธีนี้อีกครั้ง ก็จะช่วยลดข้อผิดพลาดของการลงทุนลงไปได้

10 หุ้น PE ต่ำปันผลสูง

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ตลาดหุ้นปรับตัวลงมามาก และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียโอกาสที่นักลงทุนจะได้เข้าซื้อหุ้นพื้นฐานดีราคาถูก ทางทีมงานจึงขออ้างอิงข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์และถือโอกาสเปิดตำราค้นหา 10 หุ้น PE ต่ำ ปันผลสูง 2563 มาเป็นแนวทางในการลงทุนให้กับนักลงทุนกัน ส่วนจะมีหุ้นตัวไหนกันบ้างนั้น ตามไปดูได้เลย

1.    บริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน) TCAP 

หรือที่รู้จักกันในชื่อธนาคารธนชาติ แต่ธนาคารธนชาติก็เป็นเพียงหนึ่งในธุรกิจที่ TCAP ดำเนินการอยู่เท่านั้น เพราะ TCAP เป็นบริษัทแม่ของธุรกิจการเงินธนชาติที่ประกอบธุรกิจทางการเงินหลากหลายอย่าง ธุรกิจธนาคารพาณิชย์ ธุรกิจบริหารสินทรัพย์ ธุรกิจหลักทรัพย์ ธุรกิจประกัน ธุรกิจให้เช่าซื้อ ธุรกิจลีสซิ่ง และธุรกิจธุรกิจสนับสนุนอื่นๆ ปัจจุบันซื้อขายที่ราคา 35.00 บาทต่อหุ้น คิดเป็น PE 3.37 เท่า และจ่ายปันผล 21.53% ต่อปี


2.    บริษัท เอสทีพี แอนด์ ไอ จำกัด (มหาชน) STPI 

บริษัท เอสทีพี แอนด์ ไอ จำกัด (มหาชน) STPI เป็นหุ้นในกลุ่มธุรกิจรับเหมาก่อสร้างที่ดำเนินธุรกิจแปรรูปและติดตั้งโครงสร้างเหล็ก ระบบท่อ โรงงานสำเร็จรูป และผลิตภัณฑ์เหล็กอื่น ๆ ในอุตสาหกรรมก่อสร้างระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน โรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ปัจจุบันซื้อขายที่ราคา 4.78 บาทต่อหุ้น คิดเป็น PE 3.73 เท่า และจ่ายปันผล 8.34% ต่อปี


3.    บริษัท สมบูรณ์ แอ๊ดวานซ์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) SAT 

บริษัท สมบูรณ์ แอ๊ดวานซ์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) SAT หุ้นตัวนี้อยู่ในกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมยานยนต์ ทำธุรกิจผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ให้กับผู้ประกอบยานยนต์ทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งลงทุนในบริษัทอื่นที่ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ด้วย ทำให้ธุรกิจมีความหลากหลายขึ้น ซึ่งด้วยความเป็นบริษัทที่มีธุรกิจเป็นการส่งออกชิ้นส่วนรถยนต์ทำให้นอกจากการประกอบธุรกิจแล้วยังมีปัจจัยด้านค่าเงินที่ส่งผลต่อผลกำไรของบริษัทด้วย ปัจจุบันซื้อขายที่ราคา 10 4.68 บาทต่อหุ้น คิดเป็น PE 4.68 เท่า และจ่ายปันผล 13.71% ต่อปี


4.    ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) BAY 

ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) BAY เป็นหุ้นในกลุ่มธุรกิจการเงิน ประกอบกิจการธนาคารพาณิชย์ในด้านสินทรัพย์ สินเชื่อและเงินฝาก ปัจจุบันเป็นบริษัทในเครือของมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG) กลุ่มสถาบันการเงินยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่น รายได้หลักของบริษัทได้มาจากการให้บริการทางการเงิน ที่มีทั้งการบริหารความมั่งคั่ง บัตรเครดิต ประกันวินาศภัย การบริหารสินทรัพย์ การค้าหลักทรัพย์ สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์และเครื่องจักร แฟคเตอริ่ง ไมโครไฟแนนซ์และสินเชื่อเพื่อการผ่อนชำระ ปัจจุบันซื้อขายที่ราคา 21.30 บาทต่อหุ้น คิดเป็น PE 4.83 เท่า และจ่ายปันผล 3.95% ต่อปี


5.    บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) SIRI 

บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) SIRI เป็นหุ้นในกลุ่มธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายทั้งโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบและแนวสูง รวมถึงธุรกิจให้เช่าอาคารสำนักงานอาคารพานิชย์และธุรกิจบริการอสังหาริมทรัพย์เช่นการบริหารการขายและจัดการโครงการอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจนายหน้า ปัจจุบันซื้อขายที่ราคา 0.71 บาทต่อหุ้น คิดเป็น PE 4.20 เท่า และจ่ายปันผล 11.27% ต่อปี


6.    บริษัท ไทยสแตนเลย์การไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) STANLY 

บริษัท ไทยสแตนเลย์การไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) STANLY เป็นหุ้นในกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมยานยนต์เช่นเดียวกับ SAT แต่ STANLY เป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนด้านการส่องสว่างในรถยนต์ เช่น หลอดไฟ ชุดโคมไฟ แม่พิมพ์ ส่งให้กับผู้ผลิตยานยนต์ทั้งในและต่างประเทศ และเช่นเดียวกับ SAT นอกจากกำไรปกติจากการดำเนินงานแล้ว อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลกระทบต่อรายได้และผลกำไรของบริษัทเช่นกัน ปัจจุบัน STANLY ซื้อขายอยู่ที่ราคา 124.5 บาทต่อหุ้น คิดเป็น PE 4.93 เท่า และจ่ายปันผล 6.63% ต่อปี


7.    ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) KTB 

ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) KTB เป็นหุ้นในกลุ่มธุรกิจการเงินธนาคาร ดำเนินธุรกิจธนาคารพาณิชย์เต็มรูปแบบ มีสาขาอยู่ทั่วประเทศและกระจายไปในบางภูมิภาคของโลกด้วยเช่นกัน และด้วยธุรกิจหลักของบริษัทที่ให้บริการด้านการเงิน ผลกำไรของบริษัทจึงขึ้นอยู่กับส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม/ค่าบริการเป็นหลัก ปัจจุบัน KTB ซื้อขายที่ราคา 10.6 บาทต่อหุ้น คิดเป็น PE 5.01 เท่า และจ่ายปันผล 7.17% ต่อปี


8.    ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) KBANK 

ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) KBANK เป็นหุ้นในกลุ่มธุรกิจการเงินธนาคาร ดำเนินธุรกิจธนาคารพาณิชย์ใหญ่ติดอันดับหนึ่งในสามของประเทศ ซึ่งนอกจากให้บริการทางการเงินจากธนาคารแล้วยังดำเนินธุรกิจอื่นที่เกี่ยวเนื่องกัน เช่น ธุรกิจหลักทรัพย์ ธุรกิจสินเชื่อ จัดการทางการเงิน ฯลฯ รายได้หลักของบริษัทมาจากค่าดำเนินงานและส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย ปัจจุบันซื้อขายที่ราคา 87.75 บาทต่อหุ้น คิดเป็น PE 5.41 เท่า และจ่ายปันผล 5.71% ต่อปี


9.     ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) BBL 

ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) BBL เป็นอีกหนึ่งหุ้นในกลุ่มธุรกิจการเงินธนาคารยักษ์ใหญ่ ดำเนินธุรกิจธนาคารพาณิชย์ใหญ่ติดอันดับหนึ่งในสามของประเทศที่ให้บริการทางการเงินครบวงจรแก่ธุรกิจทั้งขนาดใหญ่ SME ตลอดจนฐานลูกค้าบุคคล โดยมีสาขาในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ และภูมิภาคอื่นของโลก ปัจจุบันซื้อขายที่ราคา 102 บาทต่อหุ้น คิดเป็น PE 5.49 เท่า และจ่ายปันผล 7.19% ต่อปี


10.   ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) SCB 

ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) SCB เป็นหุ้นที่อยู่ในหมวดธุรกิจการเงินธนาคาร ดำเนินธุรกิจธนาคารพาณิชย์ที่ให้บริการทางการเงินครบวงจรสำหรับลูกค้าทุกประเภท ทั้งด้านจัดการกองทุน การปริวรรตเงินตรา และเช่นเดียวกับธนาคารอื่น รายได้หลักของ SCB ก็มาจากรายได้ค่าธรรมเนียมและส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยเช่นเดียวกัน ปัจจุบัน SCB ซื้อขายที่ราคา 67 บาทต่อหุ้น คิดเป็น PE 5.63 เท่า และจ่ายปันผล 9.33%ต่อปี

ส่งท้าย

นักลงทุนที่ต้องการประสบความสำเร็จในตลาดหุ้นไม่จำเป็นต้องมีเครื่องมือเดียวเพื่อใช้ในทุกสถานการณ์ ในความผันผวนของตลาดเราอาจนำเครื่องมือทางเทคนิคเข้ามาเป็นตัวช่วย แต่เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนและเปิดโอกาสให้นักลงทุนได้เลือกเฟ้นหุ้นดีเก็บเข้าพอร์ตนักลงทุนก็ไม่ควรพลาดโอกาสนั้น แต่การคะเนความถูกแพงของหุ้นจากเปอร์เซนต์การปรับลดลงจากจุดสูงสุดอาจให้ค่าที่คลาดเคลื่อนได้ จากบทความนี้นักลงทุนได้เรียนรู้กันมาแล้วว่า PE ratio คืออะไร นำมาใช้ได้อย่างไร และมีอะไรที่ต้องระวังบ้างเพื่อช่วยให้เก็บหุ้นถูกและดีเข้าพอร์ตได้ต่อไป

*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา


การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน

Mitrade
มุมมองการลงทุนเป็นแพลตฟอร์มที่ให้ข้อมูลทางด้านการเงินภายใต้ Mitrade ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อให้นักลงทุนได้รับความรู้พื้นฐานทางการเงินที่สมบูรณ์ สภาวะตลาดแบบเรียลไทม์ ข่าวที่เกี่ยวข้องในเวลาที่เหมาะสม และการวิเคราะห์ตลาดในเชิงลึก
Mitrade Logo
มุมมองการลงทุน
อำนวยเนื้อหาคอลัมน์ที่มีคุณภาพสูงแก่นักลงทุนทั่วโลก

คำเตือนเกี่ยวกับความเสี่ยง: การซื้อขายอาจทำให้คุณสูญเสียเงินทุนทั้งหมด การซื้อขายอนุพันธ์แบบ OTC อาจไม่เหมาะสำหรับทุกคน โปรดพิจารณาเอกสาร PDS, FSG, คำชี้แจงการเปิดเผยความเสี่ยงและข้อตกลงลูกค้าก่อนใช้บริการของเรา และตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โปรดทราบว่าคุณไม่ได้เป็นเจ้าของหรือมีผลประโยชน์ใด ๆ ในสินทรัพย์อ้างอิง

ขยาย