ด้วยภาวะวิกฤตของชีวิตจะมาเมื่อไหร่ไม่มีใครรู้ หลายคนจึงเริ่มมองหาการลงทุนทั้งระยะสั้นและระยะยาวเพื่อการออมเงินสำหรับการใช้จ่ายในอนาคต รวมถึงการปลดเกษียณตัวเอง การออมหุ้นเดือนละ 1000 คือรูปแบบการลงทุนอย่างหนึ่งที่ได้รับความนิยมอย่างสูงจากนักลงทุนหน้าใหม่ ด้วยความสะดวก และง่ายต่อการลงทุน อีกทั้งยังเป็นการฝึกวินัยด้านการออมอีกด้วย
ท่านใดที่สนใจคงมีคำถาม “ ฉันอยากเริ่มออมในหุ้น เริ่มต้นยังไง และการออหุ้นนั้น แบบการลงทุนอย่างไร เปิดบัญชีออมหุ้นที่ไหนดี 2566 ในบทความนี้เราจะพาทุกท่านการสู่เส้นทางแห่งอิสรภาพทางการเงินด้วยเงินลงทุนเดือนละ 1000 บาท กับการลงทุนออมหุ้นครับ
เมื่อพูดถึง “ หุ้น “ หลายคนคงเคยได้ฟังเรื่องราวประดุจฝันร้ายของนักลงทุนมากมายที่ประสบความล้มเหลวกับการลงทุนในห้อง แต่ถึงอย่างไร เรื่องราวความสำเร็จของนักลงทุนอีกหลายคนเป็นเหมือนน้ำผึ้งอันหอมหวานที่ชักชวนเหล่าหมู่ภมรให้เข้าไปสัมผัส แต่จะทำยังไงดีเล่า ถามใคร เขาก็บอก ลงทุนหุ้นนั้น มีความเสี่ยงสูง ถ้าเป็นเช่นนั้น ไม่มีโอกาสสำหรับนักลงทุนหน้าใหม่ให้มีที่ยืนเลยหรือ
เพราะนี่คือคำถามที่สถาบันการเงิน และโบรกเกอร์หลายคนให้ความสนใจ จึงออกแบบการลงทุนให้สำหรับนักลงทุนหน้าใหม่ เริ่มต้นลงทุนในหุ้น โดยมีความเสี่ยงต่ำ แถมยังเป็นการช่วยฝึกวินัยการเงินขั้นพื้นฐานอีกด้วย ไปทำความรู้จักหน่วยการลงทุนสุดแสนน่าสนใจ แถมใช้เงินลงทุนเพียงละ 1000 บาท กับ การออมหุ้นเดือนละ 1000
การออมหุ้นคือ การเลือกฝากเงินผ่านบัญชีธนาคารโดยมีอัตราการฝากเงินเป็นประจำ จำนวนเท่า ๆ กันทุกเดือน โดนเงินฝากก้อนนี้จะนำไปลงทุนในหุ้นต่าง ๆ ที่ทางธนาคารหรือโบรกเกอร์ตัวแทนกำหนด ซึ่งโดยปกติ จะเป็นหุ้นพื้นฐานดี ส่วนใหญ่จะอยู่ในตระกูลหุ้น SET 50, SET 100 หรือ หุ้นที่มีการซื้อขายสูงสุด 50 และ 100 อันดับแรกที่จัดโดย คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ประเทศไทย โดยเป็นการลงทุนแบบ DCA ย่อมากจา Dollar-Cost Averaging โดยแปลเป็นไทยเข้าใจง่าย ๆ ว่า การลงทุนแบบเงินฝากประจำกในจำนวนที่ทำการ แทนที่จะได้ผลประโยชน์จากดอกเบี้ยเงินฝาก กลับได้ผลประโยชน์จากการถัวเฉลี่ยของฝากของเราไปลงทุนในหุ้นกลุ่ม SET 50, SET 100 โดยการจัดสรรของธนาคารหรือโบรกเกอร์นั่นเอง ซึ่งผลดีของการลงทุนออมหุ้นเดือนละ 100 บาทคือ เป็นการออมที่มีการลงทุนโดยมีผลตอบแทนเป็นกำไรจากการซื้อขายหุ้น ซึ่งทำให้เรามีพื้นฐานได้การลงทุนเพิ่มเติมอีกด้วย
สำหรับการซื้อหุ้นในรูปแบบ ออมหุ้น DCA เป็นการซื้อหุ้นแบบถัวเฉลี่ย ตลอดระยะเวลาการเปิดพอร์ตลงทุน โดยการซื้อขายจะทำการซื้อเดือนละ 1 ครั้ง ในจำนวนเงินที่เท่า ๆ กัน แต่ในแต่ละเดือน ราคาหุ้นอาจขึ้นลงแตกต่างกันไป ทำให้เกิด ราคาหุ้นถัวเฉลี่ยในพอร์ตของเรา โดยทำให้ราคาพอร์ตให้หุ้นของเรามีราคาถัวเฉลี่ยยามซื้อเขามีอัตราลดลง และจำนวนหุ้นที่เราถือในมือมีมากขึ้น ยิ่งอัตราถัวเฉลี่ยของหุ้นที่เราถือในมือ ลดต่ำลงเท่าไหร่ หมายถึงอาสที่เราสามารถทำกำไรยามที่เราขายหุ้นออกไปสูงขึ้นอีกด้วย
ออมหุ้นเดือนละ 1000 ในระบบ DCA ถือเป็นเรื่องใหม่ และทางเลือกใหม่สำหรับนักลงทุน โดยเฉพาะผู้ที่ยังไม่มีประสบการณ์ด้านการลงทุน และไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นลงทุนยังไง
แต่เดิม เรามีโบรกเกอร์ หรือ ธนาคารเพียงไม่กี่แห่งเท่านั้นที่เปิดให้บริการออมหุ้นในระบบ DCA ซึ่งแต่เดิม นักลงุทนหลายท่านเลือกที่จะทำการลงทุนหุ้นถัวเฉลี่ยในแบบตัวของท่านเอง ซึ่งเป็นการลงทุนซื้อหุ้นถัวเฉลี่ยในหุ้นสามัญโดยตรงซึ่งมีความเสี่ยงต่อการถูกทุบราคาอย่างสูง ดั่งวิกฤตไวรัสโควิด-19 ที่ทุบราคาหุ้นจนต่ำเตี้ยเรี่ยดิน อาจส่งผลให้หลายท่านที่เคยออมหุ้นในระหว่างที่หุ้นสามัญตัวนั้นมีราคาที่สูง พลอยขาดทุนติดลบไปด้วย
เช่นเดียวกันกับธนาคาร ที่เปิดให้บริการฝากเงินเพื่อลงทุนในกองทุนรวม SET 50 หรือ SET 100 แต่ไม่ได้มีเงื่อนไขที่ให้นักลงทุนต้องนำเงินมาลงทุนเป็นประจำทุกเดือน อาจทำให้เกิดภาวะขาดสภาพคล่องด้านการสะสมทุน จึงทำให้เมื่อต้องการขาย กลับมีหุ้นกองทุนรวมอยู่ในมือเพียงนิดเดียว ซึ่งต่างจากรูปแบบการลงทุน ออมหุ้นเดือนละ 1000 ในระบบ DCA ที่ธนาคารจะทำการตัดยอดเงินจากท่านเป็นประจำทุกเดือน ตามที่ท่านกำหนดไว้ตั้งแต่เปิดพอร์ตลงทุน แล้วนำไปลงทุนในหุ้นกลุ่ม SET 50 , SET 100 หรือ MAI ที่มีพื้นฐานมั่นคงสูง ซึ่งเป็นข้อดีของการลงทุน ออมหุ้นเดือนละ 1000 ซึ่งขอแบ่งออกเป็นข้อ ๆ เพื่อง่ายต่อความเข้าใจดังนี้ครับ
1. เป็นการกระจายความเสี่ยงด้านการลงทุน โดยนักลงทุนที่มีประสบการณ์
แน่นอนครับ ความเสี่ยงระหว่างการซื้อหุ้นสามัญ ในราคา 10 บาท จำนวน 1000 บาท มีความเสี่ยงมากกว่า การที่ท่านนำเงิน 1000 บาท ให้อยู่ในมือของนักลงุทนที่มีประสบการณ์ แล้วนำเงินไปลงทุนให้กับท่าน เป็นการป้องกันความเปลี่ยนแปลงจากอัตรามูลค่าของหุ้นสามัญตัวนั้น ยิ่งท่านซื้อหุ้นเฉลี่ยในจำนวนเงินเท่ากันเป็นประจำทุกเดือน ก็ยิ่งช่วยทำให้มูลค่าหุ้นในราคาถั่วเฉลี่ยถูกลง เมื่อทำการขายก็จะมีโอกาสได้กำไรเพิ่มขึ้น
2. เป็นการเริ่มต้นศึกษาการลงทุนไปในตัว
หลายท่าน กล้า ๆ กลัว ๆ ที่จะเข้าสู่โลกการลงทุน เพราะไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร ออมหุ้นเดือนละ 1000 ในระบบ DCA ช่วยให้ท่านได้ศึกษาเรียนรู้ รูปแบบการลงทุนในตลาดหุ้น เมื่อท่านต้องการพัฒนาตัวต่อยอด โดยการเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นเอง ก็สามารถทำได้ โดยที่มีประสบการณ์มาบ้างแล้ว ต่างกับการกระโจนเข้าสู่ตลาดหุ้นในทันที ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการสูญเสียสูงกว่า
3. เป็นการออมเงินด้วยการลงทุน ที่ให้ผลประโยชน์มากกว่าดอกเบี้ยประจำ
ออมหุ้นเดือนละ 1000 ในระบบ DCA ไม่ได้ให้ผลประโยชน์กับท่านรูปแบบดอกเบี้ยเงินฝาก แต่ให้ผลตอบแทนท่านในรูปแบบมูลค่าหุ้นที่ท่านถือในมือ ยิ่งท่านลงทุนไว้นานเท่าไหร่ และอัตรถัวเฉลี่ยรวมของหุ้นที่ท่านมีในพอร์ตการลงทุนยิ่งถูกลง
ยกตัวอย่างตอนเริ่มต้นออม ท่านลงทุนในอัตรา 10 บาทต่อหุ้น แต่เมื่อท่านถือนานไป ต้นทุนของท่านลดลงเหลือหุ้นละ 9 บาท แล้วมูลค่าหุ้นที่ท่านถือในมือปรับเป็น 13 บาท หมายความว่า ท่านทำกำไรได้ถึง 4 บาทต่อหุ้น โดยที่หุ้นในมือของท่านมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โอกาสที่ท่านจะได้รับกำไรสูงขึ้นเพิ่มตามไปด้วย และที่สำคัญ ทั้งการฝากประจำและมีรายได้จากดอกเบี้ย และ การออมหุ้นเดือนละ 1000 ในระบบ DCA ยังคงต้องมีการจ่ายภาษีเงินได้ ท่านคิดว่า การลงทุนแบบใดที่ช่วยท่านทำกำไรได้อย่างสมน้ำสมเนื้อกันละครับ
4. เป็นการลงทุนที่เหมาะสำหรับนักลงทุนหน้าใหม่ และไม่มีเวลาดูกระดานหุ้นด้วยตัวเอง
สำหรับนักลงทุนหน้าใหม่ เชื่อว่าสิ่งที่ทุกคนกลัวมากที่สุดคือ เงินต้นฉันจะหายไหม นักลงทุนหน้าใหม่กลัวการขาดทุนครับ และยิ่งการขาดทุนในอัตราสูง ยิ่งทำก่อให้เกิดความกลัว ไม่กล้าพัฒนาตัวสู่โลกการลงทุนอีก การลงทุน ออมหุ้นเดือนละ 1000 ในระบบ DCA ช่วยให้ท่านเข้าสู่โลกการลงทุนด้วยความสบายใจ เพราะจะมีผู้มีประสบการณ์ในการลงทุนคอยช่วยเหลือท่าน และการลงทุนระบบนี้ เน้นการลงทุนในหุ้นสามัญ ที่เน้นปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก ท่านหมดกังวลได้ที่จะต้องนั่งเฝ้าดูกระดาน ว่าฉันต้องซื้อ ต้องขายตอนไหนดี
ก่อนจากกันไป แยกย้ายไปเปิดพอร์ตออมหุ้น มีข้อคิดเห็นที่อยากฝากไว้สำหรับนักลงทุนทุกท่านซักนิดนะครับ
1. การมีวินัยคือสิ่งสำคัญ
สิ่งสำคัญคือความมีวินัยครับ อยากยิ่งใหญ่ ต้องมีวินัยสูง ต้องเตรียมตัวเตรียมใจ ให้เขาเก็บเงินเราไป ดังนั้น อยากสำเร็จในการออมหุ้น ต้องรักษาวินัยการออมครับ
2. สภาพคล่องทางการเงินที่อาจหายไป
การมีวินัย มีผลต่อสภาพคล่องเราแน่ เพราะหมายความว่าเราจะต้องตัดเงินไว้เพื่อการลงทุน ซึ่งแตกต่างจากการไปฝากประจำที่เบื่อเมื่อไหร่ ก็ปิดบัญชีได้เมื่อนั้น แต่การลงทุนในหุ้น เราต้องรอจังหวะของตลาด ใจร้อนไม่ได้ ขาดทุนทันที ดังนั้น อาจมีผลต่อสภาพคล่องของเรามั่งครับ
3. ค่าธรรมเนียมการซื้อขาย
ถ้าจำนวนเงินที่เราใช้ในการซื้อหุ้นสูง แล้วเราเลือกโบรกเกอร์ที่เก็บค่าธรรมเนี่ยมสูง มันคือ ผลกำไรที่ลดลง ดังนั้น ก่อนเปิดพอร์ตลงทุน ดูให้ดีครับว่า ค่าธรรมเนี่นมเขาคิดยังไง
4. รายการหุ้นที่สามารถซื้อได้
หมดเม็ดหรือเปล่า ที่คือสิ่งที่ต้องดูให้ดี โปรยหน้าอาจบอกว่า สามารถซื้อหุ้นได้ในกลุ่ม SET 100 แต่พอเอาจริง ๆ ตัวนั้นก็ซื้อไม่ได้ ตัวนี้ก็ซื้อไม่ได้ แล้วจะไปลงทุนที่ไหนดี โดยปกติ เราสามารถทำการซื้อหุ้นได้ประมาณ 10-20 หุ้น ครับ แต่นั่นแหละ ยิ่งเรากระจายไปซื้อมาก ก็จะมีจำนวนหุ้นในมือน้อยตามไปด้วย ดังนั้น ก่อนเกี่ยวก้อยเดินไปด้วยกัน ถามก่อนว่า ฉันซื้อหุ้นตัวไหนได้บ้าง
เอาละครับ ฟังผมเกลี้ยกล่อมมานานละ หลายท่านคงเริ่มขยับตัว มองหาใครซักคนที่จะให้บริการ ออมหุ้นเดือนละ 1000 ในระบบ DCA กันแล้ว อย่างที่เรียนให้ทราบในเบื้องต้น ในปัจจุบัน ทั้งธนาคาร และ สถาบันการเงินหลายแห่งได้เปิดบริการ เปิดบัญชีออมหุ้นด้วยระบบ DCA แล้ว แต่ว่า เมื่อมันมีเยอะขนาดนั้น เราควรเลือก เปิดบัญชีออมหุ้นที่ไหนดีในปี 2566 โดยผมขอแนะนำโบรเกอร์ หรือ ธนาคาร ที่น่าสนใจไปเปิดพอร์ตลงทุนออมหุ้นกันครับ
1. เปิดบัญชีออมหุ้นกับ SCBS
อันแรกที่ชอบ และมองดูแล้วว่าใช่ คือ SCBS หรือ บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ครับ เหตุเพราะ เจ้านี้ทำธุรกรรมอะไรผ่านทางออนไลน์ง่ายมาก เพียงแต่คุณมีบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ในมือ เขาลิงค์ถึงกันหมด ใช้งานง่าย อัตราการลงทุนขั้นต่ำอยู่ที่ 2000 บาทต่อเดือน โดยคิดค่าธรรมเนียมการออกคำสั่งซื้อ-ขายที 0.25% และเน้นการลงทุนหุ้นใน SET 100 เป็นหลัก ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจครับ เพราะหุ้น SET 100 มีฐานค่อนข้างกว้างทำให้ราคาเฉลี่ยหุ้น SET100 ไม่สูง ไม่แรงมากนัก อัตราคาธรรมเนียมก็พอรับได้ครับ
2. เปิดบัญชีออมหุ้นกับ Phillip Captital
ถือเป็นโบรกเกอร์หน้าใหม่ แต่มีผลิตภัณฑ์แสนเราใจให้นักลงทุนปรสบการณ์ 0 มาเปิดพอร์ตลงทุนกับเขา เจ้านี้เข้านโยบายกับบทความครับ ลงทุนขั้นต่ำ 1,000 บาท โดยเลือกลงทุนกับหุ้นเด่น 30 ตัวจากนักวิเคราะห์ และมีค่าธรรมเนียมการออกคำสั่งซื้อขาย ครั้งละ 0.25% สำหรับเจ้านี้ ผมมองดูแล้วอาจหวือหวาไปนิด เพราะหุ้นจากนักวิเคราะห์ 30 ตัว มันไม่รู้ว่าจะมีตัวไหนที่เราถูกใจบ้าง แต่ด้วยจำนวนเงินเริ่มต้นน้อย ค่าธรรมเนียมต่ำ ถือว่าเป็นการเปิดตัวที่ดีครับ
3. เปิดบัญชีออมหุ้นกับ SBI Thai Online
เป็นโบรกเกอร์ที่เข้าทางนักลงทุนที่มีทุนน้อยครับ ด้วยงบเปิดพอร์ตที่ 1,000 บาทเหมือนกัน แถมลงทุนกับหุ้นในกลุ่ม SET 100 อีกต่างหาก ไม่ต้องพะวงปวดหัวว่า หุ้นเราใครจะแลไหม แล้วค่าธรรมเนี่ยมก็แสนถูกที่ 0.075% น่าจะน้อยกว่าใครเขา ติดก็เพียงแต่ สำหรับนักลงทุนหน้าใหม่อาจไม่รู้จักโบรกเกอร์รายนี้ จึงไม่กล้าเปิดพอร์ตกับเขา สำหรับเอกสารเพื่อใช้ในการเปิดพอร์ต มีเพียงแค่ บัตรประชาชนกับสมุดบัญชีธนาคารที่เราจะให้ตัดเงินเข้าพอร์ต เพียงเท่านี้ เราก็มีพอร์ตการลงทุนของเราแล้วครับ
ออมหุ้นถือว่าเป็นวิธีการลงทุนที่น่าสนใจวิธีหนึ่ง แต่การลงทุนทุกรูปแบบก็มีข้อจำกัด ซึ่งอาจจะไม่ได้เหมาะกับนักลงทุนทุกท่าน
ข้อจำกัดของการออนหุ้นก็คือ เงินทุนเราจะเติบโตได้ในระยะยาวพอสมควร ส่วนใหญจะใช้เวลา 1 ปี, 5 ปี, 10 ปีหรือ 20 ปีขึ้นไปกว่าจะทำกำไรได้ และถึงแม้จะออมหุ้นนาน 10 ปี 20 ปีก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องทำกำไรได้แน่ มันก็ยังมีโอกาสที่พอร์ตติดลบได้ (ไม่มีรูปแบบการลงทุนไหนรับรองได้ว่าจะทำกำไรได้แน่) ซึ่งไม่เหมาะกับนักลงทุนสไตล์เทรดในระยะสั้นหรือนักลงทุน Day-trading ที่มีความคาดหวังว่าจะเก็งกำไรในระยะสั้น
สำหรับนักลงทุนที่แสวงหารูปแบบการลงทุนในวงจรการลงทุนสั้น ผู้เขียนขอเสนอเครื่องมือการเงินที่ได้รับความนิยมในหมู่นักลงทุนรายย่อยและจะถือสถานะไม่นาน นั่นก็คือ CFD นะครับ
CFD (Contract for Difference) หรือภาษาไทยว่า สัญญาซื้อขายส่วนต่าง คือตราสารอนุพันธ์รูปแบบหนึ่งที่นักลงทุนสามารถสร้างกำไรจากส่วนต่างของราคาปัจจุบันและราคาที่เปลี่ยนแปลงในอนาคตของสินทรัพย์อ้างอิงโดยไม่ต้องเป็นเจ้าของของสินทรัพย์นั้นแต่เป็นสัญญาที่ทำการซื้อขายได้ทันทีเพียงส่งคำสั่งซื้อขาย และเสนอความได้เปรียบด้านอัตราทด (Leverage) ให้กับเทรดเดอร์ ทำให้สามารถวางเงินเพียงจำนวนหนึ่งแต่ก็ยังจะได้รับผลตอบแทนเท่ากับการซื้อขายสินค้านั้นด้วยเงินเต็มจำนวน โดยในที่นี่ สินทรัพย์อ้างอิงก็คือหุ้น
ต่างจากรูปแบบการทำกำไร - ซื้อต่ำขายสูง CFD สามารถเทรดได้ทั้งในตลาดขาขึ้นและขาลง โดยเลือกการเปิดสถานะ Long เมื่อคาดว่าราคาหุ้นจะเป็นขาขึ้น และทำกำไรจากการซื้อถูกขายแพง หากมองว่าราคาหุ้นจะเป็นขาลงก็เปิดสถานะ Short เพื่อทำกำไรจากการขายแพงไปก่อนแล้วค่อยซื้อกลับในราคาถูก
และข้อทีน่าสนใจอีกข้อนึ่งคือ การเทรดผ่าน CFD จะเทรดด้วยเลเวอเรจ ซึ่งจะสามารถขยายกำไรของคุณเป็นหลายเท่าได้ (ขยายขาดทุนได้ด้วย) เพื่อจะให้นักลงทุนเข้าใจถึงเลเวอเรจ ผู้เขียนได้ทำการเปรียบเทียบการเทรดแบบไม่มีเลเวอเรจและการเทรดแบบมีเลเวอเรจในตารางด้านล่าง:
* เลเวอเรจเป็นดาบคมสองด้าน ไม่ใช่ยิ่งสูงยิ่งดี เพราะก็สามารถขยายขาดทุนเช่นกัน นักลงทุนควรหลีกเลี่ยงการใช้เลเวอเรจสูงเกินโดยเฉพาะนักลงทุนมือใหม่ และควรจัดความเสี่ยงให้ดีๆ
☆ ตัวอย่างในการเทรดหุ้น CFD - หากคุณคาดว่ากราฟหุ้น Apple จะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น↗ คุณเปิดสถานะซื้อ(Long Position) เมื่อกราฟหุ้น Apple เพิ่มขึ้นตามที่คุณดาดไว้ คุณปิดสถานะแล้วได้กำไร - หากคุณคาดว่ากราฟหุ้น Apple จะมีแนวโน้มลดลง↘ คุณเปิดสถานะขาย(Short Position) เมื่อกราฟหุ้น Apple ลดลงตามที่คุณดาดไว้ คุณปิดสถานะแล้วได้กำไร และด้วยการใช้เลเวอเรจ ถ้าคุณซื้อหรือขายหุ้น Apple ที่มีมุลค่า 20, 00 USD ด้วยเลเวอเรจ 1:20 คุณฝากมาร์จิ้นแค่ $100 USD ไว้ก็สามาถเปิดสถานะซื้อขายได้แล้ว |
� สามารถเทรด CFD ที่ไหน?
ปัจจุบันนี้มีผู้ให้บริการด้านการลงทุน CFD ค่อนข้างมาก แต่ผู้เขียนขอเสนอโบรกเกอร์ CFD ที่มีความน่าเชื่อถือสูงและได้รับความนิยมในวงการนักลงทุนไทย - MiTrade นะครับ
※ ขั้นตอนการเทรดหุ้น CFD กับ MiTrade ※
1.เปิดบัญชี การเปิดบัญชีกับ Mitrade จะง่ายและไวมาก ทำออนไหลน์ได้หมดภายในไม่กี่นาที ขอแค่มีบัตรประชาชน บัตรธนาคารก็พอ สำหรับเทรดเดอร์มือใหม่ MiTrade มีบัญชีเทรดทดลองพร้อมเงินเสมือน 50, 000 USD อยู่ในบัญชีเพื่อให้เทรดเดอร์ฝึกฝนทักษะการเทรดอย่างไม่มีความเสี่ยงใดๆ
2.ฝากเงินเข้าบัญชี ที่ Mitrade เทรดเดอร์สามารถฝากเงินเข้าบัญชีผ่านช่องทางหลากหลาย รวมถึงธนาคารไทยออนไลน์ด้วย
3.ค้นหาหุ้นที่จะเทรด ตอนนี้ Mitrade ได้เปิดให้นักลงทุนสามารถเทรดหุ้นของบริษัทยักษัใหญ่ได้ รวมถึง Facebook, Google, Apple, Amazon, Adobe, Walt Disney, Microsoft, Walmart และ Alibaba เป็นต้นและจะเปิดให้มากขึ้นอีกต่อไป
4.คว้าโอกาสในการเทรด เมื่อฝากเงินเรียบร้อยแล้วเราก็คว้าโอกาสการเทรดหุ้นด้วยเครื่องมือต่างๆ ที่ Mitrade เสนอให้ใช้ฟรี เช่นขาวสด กราฟแบบเรียลไทม์ ปฏิทินทางเศรษฐกิจ ดัชนีความเชื่อมั่นโดยรวม การคาดการณ์จากผู้เชี่ยวชาญเป็นต้น
5.เปิดคำสั่งซื้อขาย เทรดเดอร์สามารถเปิดคำสั่งซื้อหรือคำสั่งขายตามความคาดการณ์ต่อหุ้น อย่างที่เรากล่าวไปว่า หากมองว่ากราฟจะเพิ่มขึ้นก็เปิดคำสั่งซื้อ ในตรงกันข้าม หากมองว่ากราฟจะลดลงก็เปิดคำสั่งขาย
6.เฝ้ารอและปิดสถานะรับกำไร/ขาดทุน เมื่อเปิดคำสั่งแล้ว เราก็ต้องติดตามความเครื่อนไหวของกราฟ เมื่อราคาไปถึงที่เราคาดเอาไว้ เราก็ปิดคำสั่งรับกำไร/ขาดทุนได้เลย
ด้วย 5 ขั้นตอนที่กล่าวไป เราก็สามารถเข้าตลาดที่ตื่นเต้นและรอโอกาสเก็งกำไรได้แล้ว
§§§ สำหรับเทรดเดอร์มือใหม่ MiTrade ได้จัดบัญชีทดลองเทรดด้วยเงินเสมือนจริง $50, 000 USD เพื่อให้ท่านฝึกฝนทักษะการเทรดโดยไม่มีความเสี่ยงใดๆ
���
ทำไมต้องเทรดกับ MiTrade
★ MiTrade เป็นโบรกเกอร์ Forex และ CFD ที่มีความน่าเชื่อถือสูง เนื่องจาก MiTrade ได้รับการกำกับดูแลจากหลายหน่วยงานที่มีอำนาจ รวมถึง หน่วยงานด้านการเงินของเกาะเคย์แมน (CIMA) ด้วยใบอนุญาต SIB เลขที่ 1612446 (เรียนรู้วิธการตรวจสอบ) และ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และการลงทุนของออสเตรเลีย (ASIC) ด้วยใบอนุญาต AFSL เลขที่ 398528 (เรียนรู้วิธีการตรวจสอบ หรือ คลิกที่นี่) ทำให้การทำธุรกรรมและการดำเนินงานต้องเป็นไปตามข้อบังคับ
★ เงินทุนของลูกค้าจะถูกเก็บไว้ในบัญชีทรัสต์แยกต่างหากจากบัญชีบริษัท หากในกรณีที่ MiTrade ล้มละลาย เงินทุนลูกค้าก็ยังคงถูกเก็บรักษาอย่างปลอดภัยและถูกส่งกลับคืนได้ ทำให้ลูกค้าไม่ต้องเป็นห่วงความปลอดภัยของเงินทุน
★ ฟรีเครื่องมือจัดการความเสี่ยงต่าง ๆและระบบป้องกันยอดคงเหลือติดลบ
★ ฟรีเครื่องมือการเทรดต่างๆ เช่น ดัชนีความเชื่อมั่นโดยรวม, การคาดการณ์จากผู้เชี่ยวชาญเป็นต้น
★ แพลตฟอร์มการเทรดที่ใช้งานเรียบง่าย
★ เจ้าหน้าที่คนไทยคอยให้บริการ 24 ชั่วโมง 5 วันทำการ
★ เทรดด้วยเลเวอเรจสูง
★ เงินฝากขั้นต่ำ $50 ดอลล่าร์
★ ขนาดซื้อขายขั้นต่ำ 0.01 ล็อต
★ ค่าคอมมิชชั่น 0 และสเปรดต่ำ
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
คำเตือนเกี่ยวกับความเสี่ยง: การซื้อขายอาจทำให้คุณสูญเสียเงินทุนทั้งหมด การซื้อขายอนุพันธ์แบบ OTC อาจไม่เหมาะสำหรับทุกคน โปรดพิจารณาเอกสาร PDS, FSG, คำชี้แจงการเปิดเผยความเสี่ยงและข้อตกลงลูกค้าก่อนใช้บริการของเรา และตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โปรดทราบว่าคุณไม่ได้เป็นเจ้าของหรือมีผลประโยชน์ใด ๆ ในสินทรัพย์อ้างอิง