เยี่ยมชม Mitradeเทรดกับ เว็บ Mitradeเทรดกับ แอพ Mitradeเทรดกับ แอพ Mitrade
สแกนเพื่อดาวน์โหลด
นโยบายกองบรรณาธิการเกี่ยวกับเรา
Mitrade Logoมุมมองการลงทุน

Bitcoin Halving คืออะไร นักลงทุนสามารถทำกำไรจาก Bitcoin ได้อย่างไร

ผู้เขียน
|อัพเดทครั้งล่าสุด 11 เม.ย. 2566 11:42 น.
1735

ความสนใจที่เพิ่มสูงขึ้นคงเป็นผลโดยตรงมาจากมูลค่าที่ทวีความแข็งแกร่งภายใต้ทุกสถานการณ์ของเศรษฐกิจโลก “บิทคอยน์” เป็นทางเลือกการลงทุนอันดับต้นๆ ในตระกูลเงินสกุลดิจิตอลโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใกล้ถึงปรากฎการณ์ Bitcoin Halving ที่จะเป็นตัวกำหนดทิศทางในด้านราคาว่าจะเพิ่มสูงขึ้นกว่านี้หรือจะสวนกระแสการคาดการณ์จากหลายๆ นักวิเคราะห์ที่ได้แต่ตั้งข้อสังเกตการณ์รอคอยว่าในทุกๆ 4 ปีอะไรๆ จะเปลี่ยนแปลงไปบ้าง ซึ่งในบทความนี้ก็ไม่พลาดที่จะหยิบยกประเด็นที่โลกกำลังพูดถึง พร้อมอธิบายว่า Bitcoin Halving คืออะไร มีส่วนเกี่ยวข้องกับ Bitcoin อย่างไร รวมถึงผลที่จะตามมาหลังจากเกิดปรากฎการณ์ดังกล่าว ถ้าใครที่เป็นนักลงทุน หรือนักขุดบิดคอยน์ทั้งรายเล็กรายใหญ่สามารถร่วมแบ่งบันไอเดียผ่านบทความนี้กันได้เลยครับ

Bitcoin Halving คืออะไร

ปรากฎการณ์ Bitcoin Halving คือ เหตุการณ์ที่บิทคอยน์จะลดลงเหลือเพียงครึ่งเดียว โดยเป็นบิทคอยน์ที่เกิดขึ้นใหม่จากรางวัลการขุดบิทคอยน์เท่านั้น (Block Reward) ไม่ได้หมายถึงจำนวนบิทคอยน์ทั้งหมดที่อยู่ในระบบ ซึ่งจะส่งผลโดยตรงต่อราคาบิทคอยน์ที่จะเปลี่ยนแปลงไป โดยการลดลงนี้จะเกิดขึ้นในทุกครั้งที่มีการค้นพบบล็อกใหม่ครบจำนวน 210,000 บล็อก ระบบจะทำการลดรางวัลที่นักขุดทองจะได้รับ (Block Reward) ลงครึ่งหนึ่ง ซึ่ง Bitcoin Halving มีความพิเศษตรงที่ว่า “จะเกิดขึ้นในทุกๆ 4 ปี” ปรากฎการณ์นี้ถือเป็นวันสำคัญของเหล่านักขุดบิทคอยน์ รวมไปถึงผู้ที่ถือเงินสุกลดิจิตอลอย่างบิทคอยน์ เพราะการลดลงของจำนวนเงินดังกล่าวมักสร้างความเปลี่ยนแปลงในเชิงเศรษฐกิจวงการคริปโตเคอร์เรนซีไม่น้อยแน่ๆ

 

บิทคอยน์เข้าสู่ระบบในช่วงกลางปี 2008 ซึ่งแน่นอนว่าในตอนนั้นผู้ที่เข้าใจถึงกลไกของเงินดิจิตอลยังค่อนข้างจำกัด แต่เมื่อบิทคอยน์กลายเป็นคริปโตเคอร์เรนซีแนวหน้าของโลก ผู้คนจะหลั่งใหลเข้ามาจับจ้องเป็นเจ้าของเพื่อต้องการนำไปขายต่อหรือถือเอาไว้ให้มูลค่าสูงขึ้น แต่นั่นก็หมายความว่าอุปทานของบิทคอยน์จะสูงขึ้นเช่นเดียวกันและช่างขัดแย้งกับหลักเศรษฐศาสตร์เสียจริงถ้าราคาของบิทคอยน์จะเพิ่มสูงขึ้น


นี่จึงอาจเป็นสาเหตุหลักที่ “ซาโตชิ นากาโมโตะ” นามแฝงของผู้ที่คิดค้นบิทคอยน์ได้สร้างแนวทางในการป้องกันปัญหาที่จะตามมาจากความนิยมที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากในทุกๆ 4 ปีจะมีบิทคอยน์ออกมาทั้งหมด 210,000 บล็อค และจำกัดจำนวนบิทคอยน์สุทธิที่จะผลิตออกมาทั้งหมดอยู่ที่ 21,000,000 บิทคอยน์ ดังนั้นหากให้รางวัลแก่นักขุดเท่าเดิม ไม่นานบิทคอยน์ก็จะหมดลง “Bitcoin Halving” จึงเข้ามามีบทบาทในการลดจำนวน Bitcoin ที่จะออกสู่ตลาดลงทุกๆ 4 ปี ตามคอนเซ็ปท์ที่ว่าเมื่ออุปทานลดลง อุปสงค์เพิ่มขึน ราคาจึงเพิ่มขึ้นตามไปด้วย


Bitcoin Halving เกิดขึ้นมากี่ครั้งแล้ว

เหตุการณ์ Bitcoin Halving ในปัจจุบันเกิดขึ้นมาทั้งหมด 3 ครั้งภายในระยะเวลา 12 ปี โดยเริ่มตั้นครั้งแรกในช่วงปี 2008-2012 จนกระทั้งล่าสุดในปีนี้ 2016-2020 ตรงกับวันที่ 11 พฤษภาคม 2563 ซึ่งจากปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เงินรางวัลของบิทคอยน์ลดลงไปครึ่งหนึ่งตามหลักการณ์ที่ได้ระบุเอาไว้ โดยในปี 2012 และ 2016 ต่างเป็นช่วงปีที่เกิดเหตุการณ์ Bitcoin Halving ซึ่งทั้งในสองปีนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ราคาของบิทคอยน์จะเข้มแข็งขึ้น จากผลลัพธ์ในเชิงบวกที่จะเกิดขึ้นต่อมูลค่าตามวิธีการที่ซาโตชิ นากาโมโตะได้คิดค้นเอาไว้


ในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2012 เมื่อเงินรางวัลบิทคอยน์ถูกลดลงจาก 50 BTC ไปอยู่ที่ 25 BTC ราคาของบิทคอยน์ก็เพิ่มสูงขึ้นจาก 2 ดอลลาร์ เป็น 12 ดอลลาร์ และในปารากฎการณ์เดียวกันนี้ในปี 2016 ซึ่งถือเป็นครั้งที่สองของ Bitcoin Halving ราคาของบิทคอยน์มีมูลค่าสูงถึง 650 ดอลลาร์ในเดือนกรกฎาคม และมูลค่าทะยานสูงขึ้นถึง 20,000 ดอลลาร์ในปี 2017


ข้อดีและข้อเสียของ Bitcoin Halving

จากกลไกการปรับสมดุลของ Bitcoin Halving ทำให้ผู้ที่มีส่วนร่วมต้องวิเคราะห์และพิจารณาถึงผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อม รวมถึงแนวทางในการตระเตรียมเรื่องประสิทธิภาพในการขุดบิทคอยน์ดังกล่าว ทั้งนี้จากกระบวนการ Bitcoin Halving นักวิเคราะห์และนักลงทุนหลายท่านได้ชี้ให้เห็นถึงข้อดีและข้อเสียของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยมุ่งเน้นไปที่การคาดการณ์ราคาและการปรับตัวถ้าหากต้องการถือบิทคอยน์ในมุมมองของความได้เปรียบเชิงบวก


ข้อเสียที่มักพบเจอจะเกิดขึ้นกับนักลงทุนทั้งหลายที่อาจไม่เข้าใจถึงเหตุการณ์ดังกล่าว เพราะถ้ารางวัลถูกลดลงครึ่งหนึ่งดูเผินๆ แล้วเหมือนช่องทางการรับกำไรจะลดลงไปด้วย ทั้งนี้ยังรวมไปถึงหากแผนการดังกล่าวไม่ประสบผลสำเร็จไม่สามารถทำให้ราคาของบิทคอยน์สูงขึ้นได้ ก็นับเป็นเรื่องที่จะต้องวิเคราะห์กันอย่างละเอียดต่อไป


ทว่าข้อดีจาก Bitcoin Halving จะช่วยส่งเสริมความมั่นคงของสกุลเงินที่ถูกสร้างบนพื้นที่ทางสังคมในแนวโน้มที่ยั่งยืน เพราะหากอุปทานมีจำนวนลดลง แล้วอุปสงค์เพิ่มขึ้นจริง ความแตกต่างของทั้งสองนี้ยิ่งมากเท่าไหร่ ราคาก็จะสะท้อนถึงมูลค่าจริงที่นักลงทุนจะได้รับมากเท่านั้น นอกจากนี้เสถียรภาพที่ซาโตชิ นากาโมโตะได้คาดการณ์เอาไว้จะมุ่งสู่แผนที่จะเกิดขึ้นเมื่อบิทคอยน์มีจำนวนถึง 6,930,000 บล็อคประมาณ


Bitcoin Halving จะส่งผลกระทบต่อราคา Bitcoin อย่างไร โดยเฉพาะการ Halving ครั้งนี้

ในช่วงปีที่ผ่านมาเป็นบทพิสูจน์ที่ชัดเจนที่สุดว่า Bitcoin Halving ได้ทำหน้าที่อย่างสมบูรณ์แบบเท่าที่ได้คาดการณ์เอาไว้ตามมุมมองของซาโตชิ นากาโมโตะ ซึ่งปัจจัยที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดก็คงจะเป็นราคาของบิทคอยน์ เพราะในใจของผู้ถือสกุลเงินดิจิจตอลดังกล่าวต่างก็คาดหวังให้ราคาของบิทคอยน์เพิ่มสูงขึ้นตามหลักการเพื่อการทำกำไรตามแผนระยะยาว

ในปี 2020 ก่อนเหตุการณ์ Bitcoin Halving นักวิเคราะห์และนักลงทุน ผู้ที่กำลังเตรียมพร้อมสำหรับการลดลงครึ่งหนึ่งของเงินรางวัลได้คาดการณ์ว่า “ราคาบิทคอยน์ (Bitcoin Price) จะมีมูลค่าสูงกว่า 10,000 ดอลลาร์” ซึ่งค่อนข้างสอดคล้องกับราคาบิทคอนย์หลังจากวันที่ 11 พฤษภาคมที่ผ่านมาที่มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น 12% จากเดิม แต่อย่างไรก็ตามการเพิ่มขึ้นของราคานั้นอาจเกิดจากความสนใจอย่างต่อเนื่องของบิทคอยน์ และถึงแม้เกือบทุกครั้งที่เมื่อเกิด Bitcoin Halving ราคาของบิทคอยน์มักจะสูงขึ้นเสมอแต่ก็จะต้องใช้เวลาในการสร้างมูลค่าอยู่ไม่น้อย นักขุดเองจึงอาจต้องใช้เวลาในการวิเคราะห์สถานการณ์และความไม่แน่นอนในอนาคตของสกุลเงินดังกล่าว


ในโอกาสนี้ผมขออธิบายขั้นตอนคร่าวๆ ของกลไล Bitcoin Halving จะมีความสำคัญอย่างไรกับราคาของบิทคอยน์ตาม 3 ขั้นตอนดังนี้


Step 1 เมื่อมีการขุดบิทคอยน์จนใกล้ครบหรือครบ 210,000 BTC กล่าวง่ายๆ คือเมื่อปริมาณบิทคอยน์ที่มีในระบบเกิดขึ้นมาใหม่ด้วยจำนวน 210,000 BTC จะตรงกับระยะเวลาประมาณ 4 ปีพอดี เวลาขุดและสร้างบล็อกใหม่ใช้เวลาประมาณ 10 นาที จึงได้ว่า 210,000 x 10 = 2.1 ล้านนาที หรือประมาณ 4 ปี)


Step 2 รางวัลของบิทคอยน์จะลดลงครึ่งหนึ่ง (Block Reward BTC) เช่น หลังจากปี 2012 รางวัลจะลดจาก 50 BTC เหลือ 25 BTC ส่วนในปัจจุบันปี 2020 จะลดเหลือ 12.50 BTC

Step 3 จากการปรับลด ส่งผลให้อุปทานน้อยลง อุปสงค์มากขึ้น ราคาของบิทคอยน์ก็จะสูงขึ้นตาม (วิเคราะห์ตามทฤษฎีภายใต้สภาวะที่คงที่)


ในกรณี Bitcoin Halving นักลงทุนสามารถทำกำไรจาก Bitcoin ได้อย่างไร

แน่นอนว่าส่วนใหญ่การเลือกถือสกุลเงินดิจิตอลบิทคอยน์ ก็เพื่อการเกร็งกำไรจากการซื้อสินทรัพทย์ในราคาถูกแล้วขายเมื่อราคามีมูลค่าที่สูงขึ้นหรือที่เรียกว่า Capital Gain โดยที่คุณจะได้เป็นเจ้าของบิทคอยน์จริงๆ แต่อย่างที่เข้าใจกันว่าส่วนใหญ่หากเลือกที่จะถือบิทคิอยน์แล้วก็ควรถือในระยะยาวเพราะจากการคาดการณ์ก็ทราบดีอยู่แล้วว่าราคาจะขยับตัวสูงขึ้นในแต่ละปี แล้วทราบหรือไม่ครับว่ามีเศรษฐษีหน้าใหม่หลายท่านที่ร่ำรวยจากการเทรดบิทคอยน์ ซึ่งนอกจากการลงทุนด้วยข้างต้น ยังมีอีกหลายวิธีที่น่าสนใจโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการเทรดแบบ CFD


วิธีการเทรดแบบ CFD (Contract for Difference) หรือ สัญญาซื้อขายส่วนต่าง ที่มีความคล้ายคลึงกับการเทรดแบบ forex เพราะการเทรดดังกล่าวคุณไม่ได้ลงทุนเพื่อเป็นเจ้าของบิทคอยน์นั้นจริงๆ แต่เป็นการลงทุนที่มุ่งไปยังความผันผวนของราคาหรือส่วนต่างระหว่างราคาเปิดและราคาปิดของรายการซื้อขายในแต่ละจุดเวลาที่ทำการเทรด เช่น คุณทำการเปิดออเดอร์ซื้อทรัพย์สิน (ในที่นี้เป็นบิทคอยน์) ที่ราคาหนึ่งในเวลานั้นๆ แล้วขายทำกำไรเมื่อราคาขยับขึ้นมาในจุดที่คุณพอใจ นอกจากนี้การเทรดแบบ CFD สามารถทำกำไรจากราคาขาลงของบิทคอยน์ได้อีกด้วย ซึ่งถือเป็นจุดเด่นของการเทรดแบบ CFD ที่ต่างจากการทำกำไรแบบทางเดียวหรือที่ซื้อไว้แล้วรอราคาเพิ่มขึ้นด้วยการซื้อขายจากตลาด


Bitcoin CFD ทำงานอย่างไร? 


หลักการทำเงินจาก CFD เป็นดังนี้


 -  หากคุณคิดว่า Bitcoin จะขึ้น คุณเปิดคำสั่งซื้อ เมื่อ Bitcoin วิ่งขึ้นถึงระดับที่คุณคาดการณ์ไว้ คุณปิดคำสั่งซื้อและรับกำไรจากส่วนต่างของราคาซื้อและราคาขาย


 -  หากคุณคิดว่า Bitcoin จะลง คุณเปิดคำสั่งขาย เมื่อ Bitcoin ดิ่งลงถึงระดับที่คุณคาดการณ์ไว้ คุณปิดคำสั่งขายและรับกำไรจากส่วนต่างของราคาซื้อและราคาขาย


 ข้อดีของ Bitcoin CFD 


 ●  คุณสามารถทำกำไรจาก Bitcoin ไม่ว่าจะเป็นขาขึ้นหรือขาลง ทำให้คุณมีโอกาสทำกำไรมากขึ้น ซึ่งแตกต่างจากการขุด Bitcoin ที่คุณจะทำกำไรต่อเมื่อราคา Bitcoin สูงกว่าต้นทุนเท่านั้น


 ●  สะดวกกว่า เนื่องจากคุณไม่ได้ครอบครอง Bitcoin จริง ๆ ดังนั้น คุณจึงไม่ต้องวุ่นวายกับการหาวอลเล็ตและไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของ Bitcoin แต่อย่างใด


 ●  คุณสามารถเริ่มต้นลงทุนด้วยเงินจำนวนน้อยและมีโอกาสทำกำไรได้มากด้วยสิ่งที่เรียกว่า มาร์จิ้นและเลเวอเรจ เช่น เลเวอเรจ 1:10 หมายความว่า มาร์จิ้นขั้นต่ำอยู่ที่ 10% หรือก็คือ คุณลงเงินเพียงแค่ 10% ของมูลค่าการลงทุนทั้งหมด 


 ●  เทรดด้วยเลเวอเรจสูง ทำให้ใช้เงินทุนต่ำ และมีโอกาศในการทำกำไรมากขึ้น


 ข้อเสียของ Bitcoin CFD 


 ●  เลเวอเรจสูงจะสามารถขยายกำไรเป็นหลายเท่า แต่มันก็มีโอกาศทำให้คุณขาดทุนอย่างมากจากการเคลื่อนไหวในทิศทางตรงกันข้ามกับคุณที่คาดการณ์ไว้


 ●  กฎหมายไทยยังไม่รองรับโบรกเกอร์ CFD ที่คุณสามารถเลือกลงทุนจะเป็นโบรกเกอร์จากต่างประเทศ ทำให้การเลือกโบรกเกอร์ที่ใช่และสัตย์ซื่อนั้นเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการเทรด CFD ซึ่งโบรกเกอร์ที่ใช่ของคุณต้องตอบโจทย์ความต้องการลงทุนของคุณและอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานกำกับดูแลสำคัญ ๆ เช่น ASIC, FCA, FSA เป็นต้น


เริ่มการเทรด CFD อย่างไร?


หากคุณเป็นมือใหม่ที่ยังไม่ประสีประสากับ CFD เราขอแนะนำให้คุณเริ่มต้นบนบัญชีทดลองที่จะช่วยให้คุณทำความคุ้นเคยกับ CFD และตลาดโดยไม่มีค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด ใช้เวลาฝึกฝนทักษะ สร้างแผนการลงทุนและบริหารจัดการความเสี่ยงของคุณเอง


ปัจจุบันนี้มีโบรกเกอร์ที่ให้บริการเทรดบิทคอยน์เป็นจำนวนมาก คุณสามารถเลือกลงทุนได้ตามเงื่อนไขที่เหมาะสม ที่สำคัญการเลือกใช้บริการจากโบรกเกอร์ควรดูที่ระยะเวลาในการดำเนินงานที่จะสะท้องถึงความมั่นคงได้ในระดับหนึ่งสำหรับวิธีการเทรดแบบ CFD คร่าวๆ ที่ผมจะมาแนะนำ เมื่อคุณทำการเปิดบัญชีกับโบรกเกอร์ใดๆ แล้วให้เลือกช่องทางการเทรดที่ถนัดไม่ว่าจะเป็นทางเว็บไซต์หรือทางแอปพลิเคชัน หลังจากประเมินสภาวะราคาตลาดแล้วให้เลือกซื้อสินทรัพย์ดังกล่าวตามกำลังการลงทุนที่มี พยายามศึกษาข่าว ข้อมูล และสภาวะที่มีผลทั้งทางตรงและทางอ้อมของบิทคอยน์เพื่อประเมินทิศทางของราคาในการขายเพื่อทำกำไร


▼ เทรด bitcoin กับ Mitrade ด้วยค่าคอมมิชชั่น 0 สเปรดต่ำ ▼

16138064165855§§§ สำหรับเทรดเดอร์มือใหม่ MiTrade ได้จัดบัญชีทดลองเทรดด้วยเงินเสมือนจริง $50, 000 USD เพื่อให้ท่านฝึกฝนทักษะการเทรดโดยไม่มีความเสี่ยงใดๆ 


 เปิดบัญชีทดลองเทรด >


โปรโมชั่น ตอนนี้ยังมีโปรแกรมแนะนำเพื่อน เมื่อคุณได้แนะนำเพื่อนแล้วคุณกับเพื่อนทั้งคู่จะได้โบนัสสูงสุดถึง $500 USD และสามารถถอนออกได้ * (*ตามข้อกำหนดและเงื่อนไข)


บทสรุป

กลไก Bitcoin Halving ถูกนำเสนอในประเด็นต่างๆ อย่างน่าสนใจเนื่องจากในสถานการณ์เช่นนี้ความมั่นคงทางการเงินถือเป็นสิ่งใกล้ตัวที่ประชากรทั้งโลกควรใส่ใจ ดังนั้นการลดจำนวนรางวัลของบิทคอยน์ลง (Block Reward) นับเป็นเรื่องที่จะมองข้ามไม่ได้ หลายอุตสาหกรรมทั้งไทยและต่างประเทศต่างเฝ้าติดตามและวางแผนการสร้างจุดได้เปรียบทางธุรกิจถ้าหากบิทคอยน์กลายมาเป็นระบบธุรกรรมทางการเงินที่มีอิทธิตามการคาดการณ์ ทั้งนี้ปรากฎการณ์ Bitcoin Halving ก็มีจุดมุ่งหมายเพื่อรักษาสมดุลของราคาให้สอดคล้องกับกฎอุปสงค์อุปทานคงไว้ด้วยมูลค่าทางตลาดที่สูงอยู่เสมอและมีแนวโน้มว่าจะสูงต่อไปตามโรดแมปจนถึงปี 2140 ด้วยความหวังที่ว่าสังคมจะถูกทรานเฟอร์ด้วยสกุลเงินดิจตอลอย่างยั่งยืน

เนื้อหาของบทความนี้เป็นเพียงความเห็นส่วนตัวของผู้เขียนบทความ ไม่สามารถใช้เป็นคำแนะนำการลงทุนได้ เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้นและผู้อ่านไม่ควรใช้บทความนี้เป็นพื้นฐานการลงทุนใด ๆ Mitrade ไม่รับผิดชอบต่อผลลัพธ์ใด ๆ ตามบทความนี้และไม่รับประกันความถูกต้องของเนื้อหาของบทความนี้

Mitrade
มุมมองการลงทุนเป็นแพลตฟอร์มที่ให้ข้อมูลทางด้านการเงินภายใต้ Mitrade ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อให้นักลงทุนได้รับความรู้พื้นฐานทางการเงินที่สมบูรณ์ สภาวะตลาดแบบเรียลไทม์ ข่าวที่เกี่ยวข้องในเวลาที่เหมาะสม และการวิเคราะห์ตลาดในเชิงลึก
บทความยอดนิยม
อ่านมากที่สุด
ข่าวล่าสุด
  • ต้นฉบับ
  • กลยุทธ์การเทรด
  • อ่านมากที่สุด
    ข่าวล่าสุด
ไม่พบข้อมูล
Mitrade Logo
มุมมองการลงทุน
อำนวยเนื้อหาคอลัมน์ที่มีคุณภาพสูงแก่นักลงทุนทั่วโลก

คำเตือนเกี่ยวกับความเสี่ยง: การซื้อขายอาจทำให้คุณสูญเสียเงินทุนทั้งหมด การซื้อขายอนุพันธ์แบบ OTC อาจไม่เหมาะสำหรับทุกคน โปรดพิจารณาเอกสาร PDS, FSG, คำชี้แจงการเปิดเผยความเสี่ยงและข้อตกลงลูกค้าก่อนใช้บริการของเรา และตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โปรดทราบว่าคุณไม่ได้เป็นเจ้าของหรือมีผลประโยชน์ใด ๆ ในสินทรัพย์อ้างอิง

ขยาย