หากคุณสนใจลงทุนในบริษัทชั้นนำของสหราชอาณาจักร เช่น Unilever, Tesco, Prudential และ Rolls Royce เป็นต้น แต่ไม่ค่อยมีเวลาติดตามข้อมูลข่าวสาร การเลือกลงทุนใน FTSE 100 Index อาจจะเป็นคำตอบสำหรับคุณ เพราะคุณสามารถเข้าถึงบริษัทเหล่านี้และบริษัทชั้นนำอื่น ๆ ของสหราชอาณาจักรได้ในคราวเดียว
แต่ก่อนที่เราจะพูดถึงช่องทางทำเงินจากดัชนีดังกล่าว เรามาทำความรู้จักดัชนีนี้กันก่อนนะครับ
FTSE 100 Index หรือ UKX คือดัชนีที่วัดผลการดำเนินงานของ 102 หลักทรัพย์ของบริษัทขนาดใหญ่ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน นอกจากนั้นแล้ว ดัชนีนี้ยังมีจุดประสงค์ในการเป็นดัชนีอ้างอิงสำหรับกองทุนและตราสารอนุพันธ์อีกด้วย
ข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับ FTSE 100 Index
○ FTSE 100 Index จัดทำครั้งแรก ณ วันที่ 3 มกราคม 2527
○ ดูแลโดย FTSE Group ซึ่งเป็นบริษัทลูกของตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน
○ ค่าฐานของดัชนีอยู่ที่ 1,000 จุด
○ ดัชนีแตะระดับสูงสุดระหว่างวันที่ 7,903.50 จุด ณ วันที่ 22 พฤษภาคม 2561
○ ดัชนีปิดสูงสุดที่ 7,877.45 จุด ณ วันที่ 22 พฤษภาคม 2561
FTSE 100 Index ประกอบด้วยหลักทรัพย์จากภาคส่วนต่าง ๆ ต่อไปนี้
รหัส | ภาคส่วนหลัก | จำนวนหลักทรัพย์ | มูลค่าตลาดสุทธิ (ล้านปอนด์) | สัดส่วนถ่วงน้ำหนัก |
0500 | น้ำมันและแก๊ส | 3 | 177,931 | 12.48% |
1300 | เคมีภัณฑ์ | 2 | 8,712 | 0.61% |
1700 | ทรัพยากรพื้นฐาน | 9 | 114,234 | 8.01% |
2300 | ก่อสร้างและวัสดุ | 1 | 17,504 | 1.23% |
2700 | บริการและสินค้าอุตสาหกรรม | 16 | 121,329 | 8.51% |
3300 | ยานยนต์และชิ้นส่วน | - | - | - |
3500 | อาหารและเครื่องดื่ม | 3 | 69,257 | 4.86% |
3700 | สินค้าครัวเรือนและส่วนบุคคล | 9 | 184,038 | 12.91% |
4500 | สุขภาพ | 5 | 184,340 | 12.93% |
5300 | ค้าปลีก | 7 | 48,691 | 3.41% |
5500 | สื่อ | 7 | 59,588 | 4.18% |
5700 | ท่องเที่ยวและพักผ่อน | 7 | 42,346 | 2.97% |
6500 | โทรคมนาคม | 2 | 40,597 | 2.85% |
7500 | สาธารณูปโภค | 6 | 64,726 | 4.54% |
8300 | ธนาคาร | 5 | 147,271 | 10.33% |
8500 | ประกันภัย | 7 | 65,005 | 4.56% |
8600 | อสังหาริมทรัพย์ | 3 | 15,408 | 1.08% |
8700 | บริการทางการเงิน | 8 | 56,282 | 3.95% |
9500 | เทคโนโลยี | 2 | 8,643 | 0.61% |
รวม | 102 | 1,425,899 | 100.00% |
โดยสุขภาพมีสัดส่วนถ่วงน้ำหนักมากที่สุดที่ 12.93% ตามมาติด ๆ ด้วยสินค้าครัวเรือนและส่วนบุคคลที่ 12.91% อันดับที่สามจะเป็นน้ำมันและแก๊สที่มีสัดส่วนถ่วงน้ำหนักที่ 12.48% (อ้างอิงข้อมูลของวันที่ 31 มีนาคม 2563)
5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าตลาดสุทธิสูงสุดของ FTSE 100 Index
หลักทรัพย์ | ภาคส่วนย่อย | มูลค่าตลาดสุทธิ (ล้านปอนด์) | สัดส่วนถ่วงน้ำหนัก |
AstraZeneca | เภสัชภัณฑ์และเทคโนโลยีชีวภาพ | 94,637 | 6.64% |
HSBC Hldgs | ธนาคาร | 91,905 | 6.45% |
GlaxoSmithKline | เภสัชภัณฑ์และเทคโนโลยีชีวภาพ | 74,173 | 5.20% |
BP | ผู้ผลิตน้ำมันและแก๊ส | 68,510 | 4.80% |
British American Tobacco | บุหรี่ | 62,921 | 4.41% |
รวม | 392,145 | 27.50% |
คุณจะเห็นว่า 5 หลักทรัพย์ของดัชนีมีสัดส่วนถ่วงน้ำหนักอยู่ที่ 27.50% มากกว่า ¼ ของสัดส่วนถ่วงน้ำหนักทั้งหมด โดยที่ AstraZeneca มีมูลค่าตลาดสุทธิสูงเกือบแสนล้านปอนด์ซึ่งมากกว่ามูลค่าตลาดสุทธิเฉลี่ยของแต่ละหลักทรัพย์ที่ 13,979 ล้านปอนด์ถึง 6.8 เท่า ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าตลาดสุทธิต่ำสุดมีเพียงแค่ 131 ล้านปอนด์ ซึ่งน้อยกว่ามูลค่าตลาดสุทธิเฉลี่ยถึง 106.7 เท่า! (อ้างอิงข้อมูลของวันที่ 31 มีนาคม 2563)
หากคุณสนใจอ่านรายชื่อหลักทรัพย์ทั้งหมดของ FTSE 100 Index คุณสามารถคลิกอ่านได้ที่นี่
หลักทรัพย์ที่บรรจุเข้า FTSE 100 Index จะต้องมีคุณสมบัติต่อไปนี้
○ ราคา: ต้องถูกต้องและเชื่อถือได้เพื่อกำหนดมูลค่าตลาดของบริษัท
○ สิทธิ์ลงคะแนนขั้นต่ำ: ผู้ถือหุ้นที่ไม่ถูกจำกัดต้องมีสิทธิ์ลงคะแนนเกินกว่า 5% มิฉะนั้นจะไม่มีสิทธิ์บรรจุเข้าดัชนี
○ สัดส่วนน้ำหนักที่สามารถลงทุนได้:
บริษัทที่จดทะเบียนในสหราชอาณาจักรต้องมีการกระจายหุ้นสู่รายย่อยขั้นต่ำที่ 25%
บริษัทที่จดทะเบียนนอกสหราชอาณาจักรต้องมีการกระจายหุ้นสู่รายย่อยขั้นต่ำที่ 50%
○ ผ่านเกณฑ์ข้อจำกัดความเป็นเจ้าของของต่างชาติและจำนวนหุ้นขั้นต่ำที่นักลงทุนต่างชาติสามารถลงทุนได้
○ ปริมาณซื้อขายของหลักทรัพย์: อย่างน้อย 0.025% ของหุ้นที่ออกทั้งหมด ซึ่งคำนวณเป็นรายเดือนและรายปี
FTSE 100 Index มีการทบทวนทุกไตรมาสในเดือนมีนาคม มิถุนายน กันยายนและธันวาคมของทุกปี
FTSE 100 Index ถ่วงน้ำหนักด้วยมูลค่าตลาดที่กระจายสู่รายย่อย ทำให้ความเคลื่อนไหวของบริษัทขนาดใหญ่ที่มีกระจายสู่รายย่อยมากกว่ามีผลต่อดัชนีมากกว่าบริษัทที่มีขนาดเล็กกว่า ซึ่งสูตรคำนวณเป็นดังนี้
โดยที่
Price of Stock = ราคาหุ้น
Number of Share = จำนวนหุ้น
Free float adjustment Factor - ปัจจัยปรับการกระจายสู่รายย่อย
Index Divisor = ตัวหารดัชนี
คุณสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่
ขอขอบคุณข้อมูลจาก tradingview.com
ถึงแม้การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาในสหราชอาณาจักรจะเกิดขึ้นในเดือนมีนาคม แต่ FTSE 100 Index ได้รับผลกระทบตั้งแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์เช่นเดียวกับดัชนีอื่น ๆ ในยุโรป โดยหล่นจาก 7,000 กว่าจุดเหลือไม่ถึง 5,000 จุดดี นับตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคมที่ดัชนีดูเหมือนจะเป็นขาขึ้นแต่ก็มีโอกาสปรับตัวลง
เราคาดการณ์ว่า FTSE 100 Index มีแนวโน้มเป็นขาลง เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาที่ยังไม่ดีขึ้น ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและบรรดาบริษัทที่อยู่ในดัชนีดังกล่าวและปัจจัยทางเทคนิคยังส่งสัญญาณเป็นขาลง ยิ่งการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนายาวนานมากเท่าไหร่ FTSE 100 Index จะรับผลกระทบมากขึ้นเท่านั้น
ในทางตรงกันข้าม หากดัชนีเป็นแนวโน้มขาขึ้น FTSE 100 Index ต้องผ่านแนวต้านสำคัญที่ 6,580 จุดเสียก่อน เพื่อยืนยันแนวโน้มขาขึ้นดังกล่าวว่าเป็นของจริง
ดัชนีอื่นที่คุณอาจจะสนใจด้วย>>> · นิเคอิ225(Nikkei 225)คืออะไร? · ดัชนีหุ้นฮั่งเส็ง(Hang Seng Index)คืออะไร? |
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
คำเตือนเกี่ยวกับความเสี่ยง: การซื้อขายอาจทำให้คุณสูญเสียเงินทุนทั้งหมด การซื้อขายอนุพันธ์แบบ OTC อาจไม่เหมาะสำหรับทุกคน โปรดพิจารณาเอกสาร PDS, FSG, คำชี้แจงการเปิดเผยความเสี่ยงและข้อตกลงลูกค้าก่อนใช้บริการของเรา และตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โปรดทราบว่าคุณไม่ได้เป็นเจ้าของหรือมีผลประโยชน์ใด ๆ ในสินทรัพย์อ้างอิง