หากพูดถึงสกุลเงินที่มาแรงที่สุดในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาก็คงหนีไม่พ้นสกุลเงินน้องใหม่อย่าง Bitcoin สกุลเงินที่ไม่เพียงแค่มีราคาผันผวนสูงที่สุด แต่ยังเป็นสกุลเงินดิจิตอลที่ถือกำเนิดขึ้นจากเทคโนโลยีที่มาแรงสุด ๆ อย่างบล็อกเชนที่ว่ากันว่าไม่มีใครเป็นเจ้าของ ไม่ต้องมีธนาคารกลางที่ไหนเป็นผู้กำหนดค่า แต่สกุลเงินนี้จะเป็นของประชากรที่ใช้งานทั้งหมด พูดถึงตรงนี้แล้วหลายคนคงอยากเริ่มหาวิธีขุดเหมืองหาบิทคอยน์ฟรีและนึกสนใจอยากเริ่มต้นเทรด Bitcoin กันบ้างแล้ว ด้วยความน่าสนใจจากการเป็นสกุลเงินที่มีการเติบโตสูงกลายมาเป็นที่นิยมกันมาก ทำให้ราคาของสกุลเงินนี้ถีบตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็วถึงกว่า 23 เท่า หรือกว่า 2,300% ภายในหนึ่งปี! และขึ้นไปทำจุดสูงสุดถึงกว่า 20,000 ดอลลาร์ต่อ 1 Bitcoin หรือกว่า 600,000 บาททีเดียว! ด้วยความนิยมถึงขนาดนี้คงพลาดไม่ได้แล้วที่เราจะมาคุยกันเรื่องการหาบิทคอยน์ฟรี และชวนเริ่มเทรด Bitcoin กันบ้าง
บิทคอยน์ (Bitcoin) เป็นสกุลเงินดิจิตอลที่ไม่ได้มีตัวเงินเป็นเหรียญหรือธนบัตร จับต้องไม่ได้ ไม่มีตัวกลางอย่างธนาคารในการเก็บรักษา ไม่มีธนาคารกลางคอยควบคุมธุรกรรม แต่เป็นสกุลเงินที่สามารถถ่ายโอนเก็บรักษาและแสดงค่าได้ในกระเป๋าเงินดิจิตอลที่เรียกว่า bitcoin wallet
ถึงแม้ว่าสกุลเงินดิจิตอลอย่าง Bitcoin จะดูเลื่อนลอยเพราะดูเหมือนไม่มีอะไรมาค้ำประกันมูลค่าได้เลย แต่ปัจจุบันความเป็นดิจิตอลนี้ก็เริ่มจับต้องได้จริงแล้วเมื่อบริษัทอย่าง Microsoft เริ่มอนุญาตให้นำ Bitcoin มาชำระค่าบริการบางอย่างได้ รวมทั้งการที่ประเทศญี่ปุ่นได้กำหนดให้ Bitcoin เป็นสกุลเงินที่ถูกกฎหมาย ทำให้สกุลเงินน้องใหม่นี้เริ่มเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเราอย่างจริงจังมากขึ้น พร้อม ๆ กับความต้องการที่เพิ่มมากขึ้นเป็นเงาตามตัว
ว่ากันว่าสกุลเงินนี้เกิดขึ้นจากผู้ใช้นามแฝง ซาโตชิ นากาโมโตะ นำเทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain) เข้ามาใช้กับสกุลเงินเพื่อลดค่าธรรมเนียมตัวกลางทางการเงิน เพราะการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้จะตัดตัวกลางออกไปให้สมาชิกในเครือข่ายเป็นผู้ดูแลและยืนยันการทำธุรกรรมในระบบแทน โดยข้อมูลธุรกรรมที่เกิดขึ้นจะถูกสำเนาซ้ำในทุกสถานี (Node) ในเครือข่าย ทำให้เป็นการยากต่อการปลอมแปลงหรือแฮ็กข้อมูลและมีความโปร่งใสที่สามารถตรวจสอบได้ ซึ่งแน่นอนว่าการตรวจสอบธุรกรรมนั้นจำเป็นต้องใช้การประมวลผลอย่างสูง ทำให้ผู้ที่ทำหน้าที่ประมวลผลธุรกรรมในระบบนี้จะได้ Bitcoin ตอบแทนกลับมาอย่างที่เราเรียกวิธีการหา Bitcoin แบบนี้ว่า การขุด นั่นเอง
การขุด Bitcoin แบบนี้เป็นเพียงวิธีเดียวที่ทำให้มี Bitcoin เพิ่มขึ้นมาหมุนเวียนในระบบมากขึ้น แต่ Bitcion ที่จะได้จากการขุดนี้ก็มีเพิ่มขึ้นได้อย่างจำกัด คือ ในช่วงเริ่มต้นจะได้ Bitcoin ทุกการประมวลผล 10 นาที แต่อัตราส่วนนี้จะลดลงครึ่งหนึ่งทุก ๆ 4 ปี หรือที่เรียกกระบวนการนี้ว่า Bitcion Halving และการขุด Bitcion จะไม่เหลือผลตอบแทนเป็น Bitcion เลยเมื่อมี Bitcion หมุนเวียนในระบบครบตามจำนวนที่กำหนดไว้ คือ 21 ล้านเหรียญ Bitcion และด้วยการได้มาที่จำกัดแบบนี้ทำให้สกุลเงินนี้ตัดปัญหาเรื่องเงินเฟ้อจนเสื่อมค่าไปได้เลย
เมื่อ Bitcion เป็นสกุลเงินที่ออกแบบมาได้อย่างปลอดภัยและมีความเสี่ยงต่ำ การได้ครอบครองสกุลเงินนี้ไว้เพื่อสร้างผลกำไรจึงเป็นที่ใฝ่ฝันของนักลงทุนหลาย ๆ คน ทางผู้เขียนจึงหาวิธีครอบครอง Bitcoin มาเป็นแนวทางหากนักลงทุนท่านใดสนใจสะสมสินทรัพย์ตัวนี้ไว้ในพอร์ตการลงทุน มีทั้งวิธีที่ได้มาแบบฟรี ๆ วิธีที่เร็วกว่าอย่างการซื้อขาย หรือแม้แต่การทำกำไรจาก Bitcion ได้แบบไม่ต้องจับจองเป็นเจ้าของเลยอย่างการเทรด รวมถึงข้อแนะนำในการลงทุนสินทรัยพ์ตัวนี้ต่อไป
รู้หรือไม่เราสามารถหา Bitcoin ได้ฟรีบนโลกออนไลน์ได้ด้วยเหมือนกัน วิธีนี้เหมาะมากกับนักลงทุนที่มีทุนทรัพย์ไม่มากนักและมีเวลาพอสมควร เพราะการหา Bitcoin ออนไลน์แบบนี้มักจะให้คนเข้าไปร่วมกิจกรรมเพื่อให้เกิดยอดเข้าชมทั้งทางตรงและทางอ้อมให้กับเว็บไซต์ (Advertisment) และทางเว็บไซต์จะนำรายได้ส่วนนี้มาแบ่งเป็น Bitcoin ให้กับผู้เข้าร่วมกิจกรรมเป็นการตอบแทน ส่วนวิธีร่วมกิจกรรมนั้นก็มีมากมายหลายประเภท เช่น
1. เล่นเกมเพื่อรับ Bitcoin วิธีนี้เป็นวิธีที่สนุกและร่วมกิจกรรมได้อย่างลืมเวลาไปเลย และสามาถเล่นได้ทั้งเกมในมือถือและบนคอมพิวเตอร์จึงเป็นที่นิยมของผู้แสวงหา Bitcoin มากวิธีหนึ่ง แต่การได้ Bitcoin มาด้วยวิธีนี้มักจะมีโฆษณาเยอะและต้องใช้เวลานานกว่าจะได้ Bitcoin และยังได้ Bitcoin ที่น้อยมาก ดังนั้นจึงไม่เหมาะกับผู้ที่ต้องการสะสม Bitcoin อย่างจริงจัง แต่เหมาะกับการเล่นฆ่าเวลาและได้ Bicoin เป็นค่าตอบแทนเล็ก ๆ น้อย ๆ มากกว่า
2. ทำงานออนไลน์เพื่อรับ Bitcoin ยังมีบางเว็บที่ให้นักสะสม Bitcoin เข้ามาทำงานเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้ อย่างเช่น การทำแบบสำรวจ ทำแบบทดสอบ หรือช่วยแชร์ข้อมูล ช่วยเพิ่มยอดเข้าชม เพื่อแลกกับ Bitcoin แต่ก็อีกเช่นกัน วิธีนี้เป็นวิธีที่ไม่ต้องใช้เงินต้นหรือเงินลงทุนใด ๆ ก็จริง แต่จำเป็นต้องอาศัยเวลานานเพื่อให้ได้ Bitcoin จำนวนที่ไม่มากนัก จึงไม่เหมาะกับผู้ที่คิดสะสม Bitcoin อย่างจริงจัง แต่เหมาะกับการทำฆ่าเวลา
3. อ่านหนังสือคลาสสิคเพื่อรับ Bitcoin บางแพลตฟอร์มมีงานที่ดูเป็นกิจลักษณะขึ้นมาบ้าง อย่างเช่นการอ่านหนังสือคลาสสิคที่เปิดให้อ่านได้ฟรีเพื่อดึงผู้ชมเข้าสู่เว็บไซต์และได้ยอดผู้เข้าชมเพื่อเป็นค่าโฆษณา และผู้อ่านก็จะได้ Bitcoin เป็นค่าตอบแทน แต่ก็อีกเช่นกัน วิธีนี้เป็นวิธีที่ใช้เวลามากและผลตอบแทนน้อย อาจไม่คุ้มค่ากับการทุ่มเทนัก
4. เขียนบทความ Cryptocurrency เพื่อรับ Bitcoin เว็บไซต์เช่น Bitcointalk เปิดให้สมาชิกเขียนบทความเกี่ยวกับ Cryptocurrency ลงเว็บเพื่อให้เกิดยอดผู้เข้าชมและขายโฆษณา และนำรายได้บางส่วนมาแบ่งเป็น Bitcoin ให้กับผู้เขียนบทความ แต่การเขียนบทความแบบนี้คนที่จะลงโฆษณามักจะเลือกคนเขียนเดิม ๆ ที่มีฐานคนอ่านอยู่แล้ว ทำให้คนใหม่ที่คิดอยากเขียนบทความลงเว็บบางมีโอกาสได้ค่าตอบแทนน้อยจนแทบจะไม่มีเลย ทำให้การหา Bitcoin ในรูปแบบนี้อาจจะไม่ได้เหมาะกับนักลงทุนทุกคน
5. ขุดเพื่อรับ Bitcoins อย่างที่เกริ่นไว้ก่อนหน้านี้ว่าในระบบ Bitcoin จะมีผู้ที่คอยประมวลผลยืนยันการทำธุรกรรมอยู่ และจะได้ Bitcoin เป็นการตอบแทน ซึ่งเราก็สามารถร่วมวงแบ่ง Bitcoin ออกมาได้เช่นกัน เรามักจะเรียกกระบวนการนี้ว่า การขุด Bitcoin (Bitcoin Mining) กระบวนการนี้ก็เป็นอีกวิธีที่ไม่ต้องใช้เงินลงทุน ไม่ต้องมีเงินตั้งต้นก็สามารถแสวงหา Bitcoin มาครอบครองได้ แต่วิธีนี้จำเป็นต้องอาศัยการประมวลผลของคอมพิวเตอร์อย่างมหาศาล ต้องสิ้นเปลืองเงินในการปรับแต่อุปกรณ์ให้มีประสิทธิภาพ เปลืองไฟฟ้า และเป็นเรื่องยากมากที่คน ๆ เดียวจะขุดได้เพราะจำเป็นต้องแข่งขันกับคนอื่น ๆ ที่มีศักยภาพมากกว่าด้วย จึงอาจจะไม่เหมาะกับนักลงทุนรายย่อยนัก
จะเห็นได้ว่าวิธีได้ Bitcoin มาแบบฟรี ๆ หรือไม่ต้องใช้เงินตั้งต้นนี้มักจะต้องแลกมาด้วยการใช้เวลานานมาก เพื่อให้ได้ Bitcoin เล็กน้อย ซึ่งนักลงทุนจำเป็นต้องชั่งน้ำหนักและเลือกใช้เวลาไปกับการหา Bitcoin แบบนี้อย่างเหมาะสม แต่สำหรับผู้ที่ไม่ต้องการรอคอยหรือสิ้นเปลืองเวลาไปมาก เรายังสามารถซื้อหา Bitcoin มาครอบครองได้โดยไม่ต้องเสียเวลามากมายนัก
หากนักลงทุนต้องการวิธีที่รวดเร็วกว่าเพื่อให้ได้ Bitcoin มาครอบครอง การซื้อ Bitcoin มาเก็บไว้เลยอาจเป็นวิธีที่ง่ายและสะดวกกว่า ซึ่งปัจจุบันก็มีหลากหลายวิธีให้นักลงทุนได้เลือกจับจองเป็นเจ้าของกัน เช่น
1. ซื้อ Bitcoin ออนไลน์ วิธีนี้เป็นวิธีที่ง่ายและตรงไปตรงมา คือการเข้าไปซื้อ Bitcoin ใน Online Market Place ในไทยก็เช่น Bitkub หรือ Satang Pro ที่ได้รับอนุญาตจากกลต.ในการซื้อขาย cryptocurrency ในไทย ซึ่งในนั้นจะมีเหรียญมากมายให้นักลงทุนได้เลือกรวมถึง Bitcoin ด้วย นักลงทุนสามารถจ่ายเงินเพื่อเก็บเหรียญ cryptocurrency มาสะสมไว้ และขายออกเมื่อต้องการ แต่วิธีการนี้นักลงทุนจำเป็นต้องมี กระเป๋า Bitcoin ที่ได้รับการอนุมัติเพื่อใช้เก็บสะสม Bitcoin และการทำธุรกรรมอาจไม่ได้ง่ายดายนัก และมีต้นทุนทางธุรกรรมเช่นค่าธรรมเนียมสูง จึงอาจไม่ได้เหมาะกับนักลงทุนทุกคน
(ข้อมูลเพิ่มเติม 9 เว็บเทรด Bitcoin ที่คนไทยนิยมใช้งานมากที่สุด)
2. ซื้อ Bitcoin โดยตรงกับคนขาย หากนักลงทุนไม่สะดวกซื้อขายออนไลน์เนื่องจากค่าธรรมเนียมธุรกรรมที่สูงเกินไป ในอเมริกายังมีเว็บไซต์ที่ให้ค้นหาร้านค้า ธนาคาร รวมถึงบุคคล ที่ต้องการแลก Bitcoin เป็นเงินสด ทำให้เราสามารถซื้อ Bitcoin มาเป็นเจ้าของได้ แต่วิธีนี้ก็จำเป็นต้องอาศัยกระเป๋า Bitcoin ที่ได้รับการอนุมัติแล้ว รวมถึงยังมีความเสี่ยงเรื่องความน่าเชื่อถือของคู่ค้าด้วยว่าเมื่อเราจ่ายเงินไปแล้วจะได้รับ Bitcoin โอนเข้ากระเป๋าเข้ามจริงหรือตรงตามที่ตกลงกันไว้หรือไม่
3. ซื้อ Bitcoin ผ่าน ATM ในต่างประเทศจะมีเครื่อง Bitcoin ATM หรือที่ชอบเรียกกันว่า BTM (Bitcoin Teller Machines) คือเครื่อง ATM ที่สามารถกดแลก Bitcoin ออกมาเป็นเงินสด และเปิดโอกาสให้ผู้ที่ต้องการซื้อ Bitcoin ใช้เงินสดแลก Bitcoin มาได้อีกด้วย แต่การใช้เครื่อง BTM แบบนี้ไม่ได้มีแพร่หลายมากนัก อาจจะหายากเพราะมีต้นทุนสูงในการติดตั้ง ซึ่งนอกจากจะทำให้หายากแล้วยังทำให้ค่าธรรมเนียมในการใช้บริการสูงตามไปด้วย จึงอาจจะไม่ได้เหมาะกับนักลงทุนทุกคนที่ต้องการสะสม Bitcoin
จะเห็นได้ว่าการเก็บสะสม Bitcoin ด้วยการซื้อขายอาจจะเป็นการได้มาที่รวดเร็ว แต่ก็ต้องเสียเงินแลกมาบวกกับค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมเข้าไปอีก ทำให้การได้มาซึ่ง Bitcoin ในรูปแบบนี้มีราคาที่ค่อนข้างแพง และหากคู่ค้าของเราไม่มีเครดิตที่ดีพอก็อาจทำให้ถูกโกงได้อีกด้วย ทำให้หากนักลงทุนต้องการลงทุนในรูปแบบนี้อาจต้องพิจารณาให้รอบคอบเสียก่อน
หากนักลงทุนต้องการทำกำไรบนสินทรัพย์ Bitcoin แต่ไม่อยากสิ้นเปลืองไปกับการหากระเป๋า Bitcoin มาไว้ใช้ การเทรด Bitcoin ด้วยเครืองมือ CFD(Contract For Difference) อาจเป็นทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ เนื่องจาก CFD ทำให้นักลงทุนสามารถทำกำไรบน Bitcoin ได้ด้วยการส่งคำสั่งซื้อขายทันทีโดยไม่ต้องถือ Bitcoin จึงไม่ต้องเสียเวลาขุดหรือหามา ทั้งยังไม่ต้องเสียค่าธุรกรรมแพง ๆ เพื่อซื้อ Bitcoin มาเก็บไว้อีกด้วย
สิ่งที่น่าดึงดุดใจที่สุดคือ CFD ยังได้เสนอความได้เปรียบด้านอัตราทด (Leverage) ให้กับเทรดเดอร์ ทำให้สามารถวางเงินเพียงจำนวนหนึ่งแต่ก็ยังจะได้รับผลตอบแทนเท่ากับการซื้อขายสินค้านั้นจริงด้วยเงินเต็มจำนวน CFD จึงทำให้เทรดเดอร์มีความได้เปรียบกว่าเครื่องมืออื่น ๆ หลายอย่าง เช่น
● อำนวยความสะดวกในการซื้อขายและทำกำไร นักลงทุนไม่จำเป็นต้องไปหาหรือรอเล่นเกมเพื่อให้ได้ Bitcoin มาครอบครองและทำกำไร แต่สามารถคลิกซื้อขายและทำกำไรได้ด้วยการคลิกเพียงไม่กี่ครั้ง ทั้งยังไม่จำเป็นต้องมีกระเป๋า Bitcoin เพื่อเก็บรักษา Bitcoin
● มีโอกาสทำกำไรได้ทั้งในแนวโน้มราคาขาขึ้นและขาลง ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสทำกำไรให้กับนักลงทุนโดยที่ไม่จำเป็นต้องรอซื้อถูกเพื่อรอไปขายราคาแพงเหมือนกับวิธีอื่น ๆ
- หากคุณคาดว่าราคา Bitcoin จะเพิ่มขึ้น คุณเปิดสถานะซื้อ (long position) เมื่อราคา Bitcoin วิ่งขึ้นถึงระดับที่คุณคาดการณ์ไว้ คุณปิดสถานะซื้อและรับกำไรจากส่วนต่างของราคาซื้อและราคาขาย - หากคุณคาดว่าราคา Bitcoin จะลดลง คุณเปิดสถานะขาย (short position) เมื่อราคา Bitcoin ดิ่งลงถึงระดับที่คุณคาดการณ์ไว้ คุณปิดสถานะขายและรับกำไรจากส่วนต่างของราคาขายและราคาซื้อ |
● การเทรดด้วยอัตราทด (เลเวอเรจ) นักลงทุนสามารถขยายกำไรเป็นหลายเท่าได้ด้วยการใช้อัตราทด (leverage) เพื่อให้นักลงทุนเข้าใจถึงเลเวอเรจให้มากขึ้น
● ใช้เงินทุนน้อย ทำให้นักลงทุนวางเงินจำนวนน้อย (มาร์จิ้น) ก็เทรดได้ในจำนวนมาก ซึ่งสามารถขยายกำไรเป็นหลายเท่าได้
*เลเวอเรจไม่ใช่ยิ่งสูงยิ่งดี หากเทรดเดอร์ใช้เลเวอเรจสูงเกินจะมีโอกาศทำให้คุณขาดทุนอย่างหนักจากการเคลื่อนไหวในทิศทางตรงกันข้ามกับที่คุณคาดการณ์ไว้ ดังนั้น นักลงทุนควรบริหารความเสี่ยงให้ดี เช่น เลือกโบกเกอร์ที่ได้เสนอฟังค์ชั่นป้องกันยอดคงเหลือติดลบและใช้เครื่องมือจัดการความเสี่ยง
● ตลาดอนุพันธ์ของ Bitcoin มีสภาพคล่องสูง (High Liquidity) ทำให้นักลงทุนสามารถหาคู่สัญญาและเปิดปิดสัญญาได้รวดเร็ว ซึ่งช่วยลดปัญหาที่จะเปิดปิดสัญญายากจนทำให้ได้ราคาไม่ดีลงไปได้
แต่การเทรด Bitcoin ด้วย CFD ก็มีข้อที่ควรระวังอยู่เช่นเดียวกัน กล่าวคือ
● การเทรด Bitcoin ด้วย CFD เป็นการเทรดด้วยอัตราทด (Leverage) ทำให้มีโอกาสได้กำไรสูงแต่ก็เป็นการขยายผลขาดทุนได้ด้วย ดังนั้นนักลงทุนควรหลี่กเลี่ยงการใช้ Leverage ที่สูงเกิน และ จำเป็นต้องมีการวางแผนและบริหารความเสี่ยงของเงินลงทุนให้ดี
● การเทรด CFD เป็นการทำสัญญาระหว่างนักลงทุนกับตัวกลางอย่างโบรคเกอร์ ทำให้ความน่าเชื่อถือของโบรคเกอร์กลายเป็นสิ่งสำคัญมากต่อการรักษาเงินทุนและผลกำไรของนักลงทุน ดังนั้นนักลงทุนจำเป็นต้องหาโบรคเกอร์ที่น่าเชื่อถือและอยู่ในการกำกับดูแลจากหน่วยงานอย่าง ASIC ของประเทศออสเตรเลีย, FCA ของประเทศอังกฤษ
Bitcoin เป็นอีกหนึ่งสินทรัพย์ที่กำลังมาแรง เป็นที่ต้องการของนักลงทุน และยังมีโอกาสที่เติบโตมากขึ้นอีกในอนาคต นักลงทุนมีวิธีมากมายเพื่อให้ได้มา ไม่ว่าจะเป็นการหาบิทคอยน์ฟรีจากเว็บไซต์ต่าง ๆ การซื้อมาด้วยเงินสด หรือแม้แต่การเริ่มเทรด Bitcoin เพื่อเก็บสะสมกำไรโดยที่ไม่จำเป็นต้องถือครอง Bitcoin จริง ๆ ซึ่งนักลงทุนแต่ละคนก็มีข้อจำกัดและความได้เปรียบแตกต่างกันไป จึงสามารถเลือกวิธีทำกำไรจาก Bitcoin ได้ตามความถนัดของตัวเอง ซึ่งผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะช่วยนำเสนอวิธีที่เหมาะกับนักลงทุนแต่ละคนเพื่อหาวิธีแสวงหากำไรจาก Bitcoin ได้ตามความถนัดและความเชี่ยวชาญของตัวเองและนำไปสู่การมีกำไรและการเติบโตของเงินลงทุนได้ในที่สุด
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
คำเตือนเกี่ยวกับความเสี่ยง: การซื้อขายอาจทำให้คุณสูญเสียเงินทุนทั้งหมด การซื้อขายอนุพันธ์แบบ OTC อาจไม่เหมาะสำหรับทุกคน โปรดพิจารณาเอกสาร PDS, FSG, คำชี้แจงการเปิดเผยความเสี่ยงและข้อตกลงลูกค้าก่อนใช้บริการของเรา และตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โปรดทราบว่าคุณไม่ได้เป็นเจ้าของหรือมีผลประโยชน์ใด ๆ ในสินทรัพย์อ้างอิง