จะซื้อขาย Bitcoin ยังไงให้กำไรจากเทรนใหม่ที่จะมาถึง

หากมีคนกล่าวว่ามีสกุลเงินหนึ่งถูกสร้างขื้นจากคนธรรมดา ไม่ได้ถูกหนุนหลังด้วยธนาคารกลางที่ไหน แต่กลายมาเป็นที่นิยมใช้อย่างแพร่หลายทั้งยังใช้ซื้อสินค้าอย่างพิซซ่าได้ด้วย ถ้าเรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อสิบปีก่อนคุณต้องไม่เชื่อแน่ ๆ แต่วันนี้สำหรับ Bitcoin ทุกอย่างก็เป็นไปได้แล้ว และแนวโน้มความเป็นที่นิยมของ Bitcoin ก็ยังมีเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ พร้อม ๆ กับผลตอบแทนอันน่าเหลือเชื่อในแบบที่ถ้าไม่มีติดพอร์ตไว้บ้างก็คงเรียกได้ว่าอาจตกรถขบวนใหญ่เลยทีเดียว

แล้วเราจะซื้อขาย Bitcoin ยังไง? วิธีซื้อขาย Bitcoin นั้นมีอยู่ 2 แบบ คือการซื้อขาย Bitcoin โดยตรง และการซื้อขาย Bitcoin ผ่านสัญญาในฐานะสินค้าทางการเงิน และหากใครยังสงสัยอยู่ว่าจะเลือกวิธีไหน จะซื้อขาย Bitcoin ยังไง? ก็ตามไปดูกันในบทความนี้ได้เลย

การซื้อขาย Bitcoin ด้วยวิธีนี้เราจะได้เป็นเจ้าของเหรียญ Bitcoin จริง เมื่อเกิดการซื้อขายขึ้นจะหมายถึงว่าต้องมีฝ่ายหนึ่งโอนเหรียญ Bitcoin ให้อีกฝ่าย ขณะที่อีกฝ่ายจะต้องจ่ายสกุลเงินอื่นเป็นการแลกเปลี่ยน เช่น ดอลลาร์สหรัฐ ๆ และฝ่ายที่ได้รับ Bitcoin ไปก็จำเป็นต้องเก็บรักษาเหรียญเอาไว้ในกระเป๋าสตางค์เหมือนกับที่เก็บเงินไว้ในธนาคาร

วิธีซื้อขายเหรียญ Bitcoin แบบนี้จะมี 2 ขั้นตอนสำคัญที่นักลงทุนควรทราบคือ ต้องมีการเตรียมกระเป๋าเงินที่จะใช้เก็บเหรียญ Bitcoin ไว้เป็นการเฉพาะ และ ต้องเลือกวิธีซื้อขาย Bitcoin ในแบบที่เหมาะกับความต้องการของเราเอง

1.เลือกรูปแบบและลงทะเบียนกระเป๋าเงินที่จะใช้เก็บเหรียญ Bitcoin ซึ่งกระเป๋าเงินที่ใช้เก็บ Bitcoin จะมีอยู่ 2 ประเภทคือ Hot Wallet และ Cold Wallet

- Hot Wallet กระเป๋าเงินแบบนี้จะเก็บรักษาเหรียญ Bitcoin ไว้ในคลาวด์ที่เข้าใช้ผ่านแอปพลิเคชั่นหรือเบราเซอร์คอมพิวเตอร์ได้จึงดูเป็นความสะดวกสำหรับนักลงทุน ซึ่งระบบซื้อขาย Bitcoin ออนไลน์ที่ได้รับความนิยมมักจะเก็บรักษาเหรียญของลูกค้าไว้แบบนี้โดยอัตโนมัติ แต่นักลงทุนก็มักนิยมโอนย้ายเหรียญไปเก็บไว้ยังบุคคลที่สามที่จะช่วยให้การเก็บรักษาเหรียญเป็นไปอย่างปลอดภัยกว่า กระเป๋าเงินแบบ Hot Wallet นี้มักจะให้บริการฟรีและดาวน์โหลดได้ฟรี เพียงมีขั้นตอนในการลงทะเบียนที่ใช้เอกสารยืนยันตัวตนเพื่อความปลอดภัย

- Cold Wallet เป็นกระเป๋าเงินที่ให้ความปลอดภัยกับเหรียญที่เก็บไว้มากขึ้นและไม่ได้อยู่บนเครือข่ายที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตตลอดเวลา แต่ความปลอดภัยที่มากขึ้นนี้ก็แลกมากับขั้นตอนการเตรียมกระเป๋าเงินที่ต้องซื้อหาอุปกรณ์เพิ่มและใช้ระยะเวลาในการโอนที่มากขึ้น กระเป๋าเงินแบบ Cold Wallet มาในรูปแบบอุปกรณ์ชิ้นเล็ก ๆ ที่ยอมให้มีการดาวน์โหลดและเก็บรักษาข้อมูล Bitcoin เอาไว้ ตัวอย่าง Cold Wallet ที่มักจะพบเห็นกันทั่วไปคือ Hardware Wallet หรือ Paper Wallet

2. เลือกว่าจะซื้อเหรียญ Bitcoin ที่ไหน 

เมื่อเลือกและเตรียมกระเป๋าเงินไว้เรียบร้อยแล้วเราก็พร้อมสำหรับการเริ่มต้นการซื้อขาย Bitcoin ได้แล้ว ที่ต้องพิจารณาเพิ่มก็มีเพียงแต่ว่าเราจะซื้อเหรียญ Bitcoin ที่ไหน ซึ่งปัจจุบันมีหลายทางให้นักลงทุนเลือกตามที่ตัวเองสะดวก ไม่ว่าจะเป็น จากonline marketplaces ที่เป็นแพลตฟอร์มให้นักลงทุนเข้ามาซื้อขาย Bitcoin กันได้เหมือนการซื้อขายหุ้น แพลตฟอร์มการซื้อขายนี้จะอำนวยความสะดวกให้นักลงทุนสามารถแลกเปลี่ยน Bitcoin ไปเป็นสกุลเงินทั่วไปในกรณที่ต้องการขาย Bitcoin หรือ ให้นักลงทุนแลกสกุลเงินทั่วไปไปเป็น Bitcoin ได้ในกรณที่ต้องการซื้อ Bitcoin เมื่อสิ้นสุดการซื้อขายผู้ซื้อ Bitcoin ก็จะได้รับเหรียญโอนเข้าไปเก็บในกระเป๋าเงินของตัวเอง แพลตฟอร์มซื้อขายแบบนี้เช่น Coinbase, Coinmama, CEX.IO หรือ Gemini.

นอกจากนี้ยังมีทางเลือกอื่นสำหรับนักลงทุนในกรณที่ไม่ต้องการเปิดบัญชีและลงทะเบียนเพื่อทำการซื้อขายผ่านแพลตฟอร์มซื้อขาย Bitcoin ออนไลน์ เช่น

- การซื้อ Bitcoin ผ่าน Bitcoin ATM วิธีนี้เป็นเหมือนการกดเงินจากตู้ ATM เพียงแต่สำหรับ Bitcoin ATM จะเป็นการกดเหรียญ Bitcoin เข้าสู่กระเป๋าเงินของตัวเองแทน วิธีนี้เป็นอีกวิธีที่สะดวกสำหรับนักลงทุน เพียงแต่ตู้ Bitcoin ATM ยังมีไม่มาก ทำให้ไม่ใช่ว่านักลงทุนทุกคนจะทำรายการได้ และต่อให้มีตู้ทำรายการ ค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมก็ค่อนข้างสูง

- การซื้อ Bitcoin จากผู้ขายโดยตรง (P2P Exchanges) เช่นเดียวกับการซื้อขายอื่น ๆ นักลงทุนสามารถซื้อเหรียญ Bitcoin ได้จากผู้ขายโดยตรง ซึ่งเป็นวิธีที่เราคุ้นเคยกันดี แต่สำหรับการซื้อขาย Bitcoin ในปัจุบันมีความเสี่ยงที่จะไม่ได้รับเหรียญ หรือเป็นเรื่องไม่ง่ายนักที่จะค้นหาผู้ที่ต้องการขายตามที่เราต้องการ วิธีนี้จึงไม่เป็นที่นิยมนัก

ด้วยวิธีการซื้อขาย Bitcoin ในปัจจุบันที่มีความหลากหลายและอำนวยความสะดวกให้กับนักลงทุนมากขึ้น แต่ก็ยังคงมีกฎระเบียบที่ช่วยรักษาความปลอดภัยให้กับเหรียญของนักลงทุน เช่น การสมัครลงทะเบียนและสร้างรหัสกระเป๋าเงินสำหรับเก็บเหรียญ การต้องลงทะเบียนด้วยขั้นตอนมากมายเพื่อยืนยันตัวตนและกระเป๋าเงินในการซื้อขาย รวมถึงค่าธรรมเนียมที่ค่อนข้างสูง ทำให้การซื้อขาย Bitcoin แบบนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการใช้ประโยชน์จากเหรียญ Bitcoin จริง ๆ หรือผู้ที่ต้องการลงทุนแบบถือยาวในระยะหลายปี แต่อาจไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อขาย Bitcoin เพื่อเก็งกำไรหรือลงทุนในระยะกลาง เนื่องจากขั้นตอนการซื้อขายค่อนข้างซับซ้อน

ปัจจุบันการซื้อขาย Bitcoin เป็นที่นิยมแพร่หลายมากขึ้น นักลงทุนยังสามารถซื้อขายสินค้าชนิดนี้ด้วยสัญญาซื้อขายอย่าง CFD - Contract For Difference หรือ สัญญาซื้อขายส่วนต่างราคา ที่เปิดโอกาสให้นักลงทุนทำกำไรจากส่วนต่างของราคาสินค้าอ้างอิงไม่ว่าจะเป็นการผันผวนในขาขึ้นหรือขาลงก็ตาม และแม้ CFD จะไม่ได้ทำให้นักลงทุนเป็นเจ้าของหรือถือครองเหรียญ Bitcoin จริง ๆ แต่ก็ช่วยให้นักลงทุนสามารถทำการซื้อขาย Bitcoin ได้สะดวกและรวดเร็วได้ไม่ต่างกับการซื้อขายหุ้นหรือสินค้าโภคภัณฑ์ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์เลย

ในการซื้อขาย Bitcoin ผ่านด้วย CFD นั้นมีวิธีและขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยากโดยเริ่มต้นที่การเปิดบัญชีซื้อขาย ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยาก เพียงแค่ลงทะเบียนผ่านหน้าเว็บไซต์หรือแอพพลิเคชั่นและยืนยันตัวตนด้วยเอกสารยืนยันตัวคนอย่างบัตรประชาชนหรือพาสปอร์ตก็เป็นอันเรียบร้อย (เปิดบัญชีกับ MiTrade>>)

เมื่อเปิดบัญชีจากโบรกเกอร์เรียบร้อยแล้วก็สามารถโอนเงินเข้าบัญชีและเริ่มซื้อขายได้ทันที โดยหากมองว่าราคาของ Bitcoin กำลังปรับตัวขึ้น ก็เปิดสถานะ Long เพื่อคาดหวังกำไรจากการซื้อถูกขายแพง และเมื่อราคา Bitcoin ปรับตัวขึ้นจนถึงจุดที่ต้องการแล้วก็ปิดสถานะเพื่อรับรู้กำไร หรือ หากนักลงทุนมองว่าราคา Bitcoin กำลังปรับตัวลดลงก็เปิดสถานะ Short เพื่อคาดหวังกำไรจากการขายแพง-แล้วกลับไปซื้อในราคาถูก และเมื่อราคา Bitcoin ปรับตัวลงถึงจุดที่ต้องการแล้วก็ปิดสถานะเพื่อรับรู้กำไร

การซื้อขาย Bitcoin ผ่านสัญญา CFD แบบนี้ช่วยสร้างความได้เปรียบให้กับนักลงทุนในหลายด้านด้วยกัน เพราะการซื้อขายสัญญา CFD ทำให้นักลงทุนไม่จำเป็นต้องซื้อ Bitcoin ทั้งหน่วย (ในเวลานี้ 1 หน่วย Bitcoin = ราว ๆ $26261.30 USD) แต่สามารถซื้อด้วยขนาดขั้นต่ำที่โบรกเกอร์กำหนด เช่น 0.1 Lot ดังตัวอย่างจะใช้เงินในการซื้อขายอยู่ที่ $2626.13 USD เท่านั้น การซื้อขาย Bitcoin ด้วย CFD จึงช่วยขยายขอบเขตการลงทุนให้กับนักลงทุนได้เพราะเป็นการลงทุนที่ใช้เงินทุนไม่มากนัก

นอกจากนี้แล้ว CFD ยังมีการอาศัยประโยชน์จากอัตราทด หรือ Leverage ช่วยเพิ่มความสามารถในการทำกำไร ทำให้แม้นักลงทุนจะใช้เงินลงทุนเพียง $262.61 USD ($26261.30*0.1ล็อต/10) เพื่อเปิดสถานะสัญญา 0.1 Lot ด้วย Leverage ที่ 1:10 ก็ทำให้สัญญานี้ให้ผลตอบแทนได้เท่ากับการลงทุนใน Bitcoin มูลค่า $26261.30 USDได้

เพื่อให้นักลงทุนเข้าใจถึงเลเวอเรจให้มากขึ้น ผู้เขียนได้ทำการเปรียบในการเทรดแบบไม่มีเลเวอเรจและมีเลเวอเรจในตารางด้านล่าง

*เลเวอเรจไม่ใช่ยิ่งสูงยิ่งดี หากเทรดเดอร์ใช้เลเวอเรจสูงเกินจะมีโอกาศทำให้คุณขาดทุนอย่างหนักจากการเคลื่อนไหวในทิศทางตรงกันข้ามกับคุณที่คาดการณ์ไว้ ดังนั้น นักลงทุนควรบริหารความเสี่ยงให้ดี เช่น เลือกโบกเกอร์ที่ได้เสนอฟังค์ชั่นป้องกันยอดคงเหลือติดลบและใช้เครื่องมือจัดการความเสี่ยง

เห็นอย่างนี้แล้วการลงทุนใน Bitcoin ก็ดูจะไม่ใช่เรื่องยากที่ไร้จุดเริ่มต้นอีกต่อไปแล้ว เมื่อเราได้พาทุกท่านไปรู้จักกับวิธีซื้อขาย Bitcoin ในหลายรูปแบบ และประโยคที่ว่า จะซื้อขาย Bitcoin ยังไง ก็คงไม่ใช่อุปสรรคในการลงทุน Bitcoin อีกต่อไป เมื่อเราสามารถเริ่มต้นซื้อขาย Bitcoin ในสไตล์ของตัวเองได้ง่าย ๆ ด้วยการเปิดบัญชีซื้อขาย CFD แบบง่าย ๆ เพียงไม่กี่คลิกเท่านั้น