หากจะพูดถึงสินค้าที่ให้ผลตอบแทนเร้าใจที่สุดนาทีนี้คงหนีไม่พ้นทองคำอีกแล้ว จากเดิมที่ราคาทองคำเคยแกว่งตัวกรอบล่างมานานก็ดีดตัวขึ้นจาก 1,100 ดอลลาร์ต่อออนส์มาทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 2,100 หรือบวกเพิ่มมากว่า 90% ในเวลาเพียง 4 ปีเท่านั้นและยังไม่มีทีท่าว่าจะจบรอบได้ง่าย ๆ
หลายท่านที่ยังลังเลไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นการเทรดทองออนไลน์ยังไง จะซื้อขายทองออนไลน์ที่ไหนดี ตอนนี้ยังไม่นับว่าสายสำหรับการเริ่มต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อปัจจุบันมีเครื่องมือเทรดทองออนไลน์ให้เลือกมากมาย และเครื่องมือที่เทรดอย่างรวดเร็ว ใช้งานได้จริง มีต้นทุนในการซื้อขายต่ำและขยายกำไรได้ก็คงหนีไม่พ้น CFD หรือ Contract for Difference ส่วนเครื่องมือนี้จะมีดีอย่างไร ใช้เทรดทองออนไลน์ได้ด้วยวิธีไหนก็ตามไปดูกันได้เลย
CFD หรือ Contract for Difference เป็นเครื่องมือทางการเงินเสนอความได้เปรียบด้านอัตราทด (Leverage) ให้กับเทรดเดอร์ ทำให้สามารถวางเงินเพียงจำนวนหนึ่งแต่ก็ยังจะได้รับผลตอบแทนเท่ากับการซื้อขายสินค้านั้นจริง ๆ และนับเป็นเครื่องมือทางการเงินที่มีความคล่องตัวสูง เพราะเทรดเดอร์ไม่จำเป็นต้องถือครองสินค้าแต่เป็นสัญญาที่ทำการซื้อขายได้ทันทีเพียงส่งคำสั่งซื้อขาย การเทรดทองออนไลน์ด้วย CFD จึงทำให้เทรดเดอร์มีความได้เปรียบกว่าเครื่องมืออื่น ๆ หลายอย่าง เช่น
1. มีโอกาสทำกำไรได้ทั้งขาขึ้นและขาลง
การเทรด CFD คือการทำกำไรจากส่วนต่างของราคา ทำให้เทรดเดอร์สร้างผลกำไรได้ทั้งราคาสินค้าที่เป็นขาขึ้นและขาลง โดยเลือกการเปิดสถานะ Long เมื่อคาดว่าราคาเป็นขาขึ้น และทำกำไรจากการซื้อถูกขายแพง ขณะที่หากมองว่าราคาเป็นขาลงก็เปิดสถานะ Short เพื่อทำกำไรจากการขายแพงไปก่อนแล้วค่อยซื้อกลับในราคาถูก
2. ใช้เงินทุนน้อย
การซื้อขายสินค้าปกติอย่างทองคำเทรดเดอร์อาจต้องใช้เงินขั้นต่ำหลายพันดอลลาร์ แต่การเทรด CFD ทำให้เทรดเดอร์วางเงินแค่บางส่วนและเลือกขนาดเงินลงทุนได้โดยเลือกจำนวน Lot size และสำหรับการเทรดทองคำแต่ละโบรกจะมีขั้นต่ำแตกต่างกันไป โบรกเกอร์บางราจะมีขั้นต่ำเพียง 0.01 lot size ทำให้นักลงทุนเริ่มต้นเทรดทองคำได้ด้วยเงินทุนขั้นต่ำเพียง 20 ดอลลาร์เท่านั้น
3. อาศัยอัตราทดเพิ่มสัดส่วนของผลกำไร
ถึงแม้เทรดเดอร์จะใช้เงินทุนจำนวนน้อยก็ไม่ได้หมายความว่าโอกาสทำกำไรจะน้อยลงไปด้วย เพราะเครื่องมืออย่าง CFD มีจุดเด่นที่การใช้อัตราทดทำให้เทรดเดอร์สร้างผลกำไรได้ไม่ต่างจากการซื้อขายสินค้าจริง เพื่อจะให้นักลงทุนเข้าใจถึงเลเวอเรจ ผู้เขียนได้ทำการเปรียบเทียบการเทรดแบบไม่มีเลเวอเรจและการเทรดแบบมีเลเวอเรจในตารางด้านล่าง:
รายการ | เทรดแบบไม่มีเลเวอเรจ | เทรดแบบมีเลเวอเรจ |
เลเวอเรจ | 0 | 1:100 |
ราคาเปิด | 2000 USD | 2000 USD |
ราคาปิด | 2100 USD | 2100 USD |
ขนาดการซื้อขาย | 1 ล็อต | 1 ล็อต |
เงินทุนเริ่มต้น | 2000 USD | 20 USD |
กำไรที่ได้ | 200 USD | 200 USD |
อัตราผลตอบแทน | 10% | 1000% |
4. มีช่วงเวลาซื้อขายยืดหยุ่น
ทองคำในตลาดโลกมีการซื้อขายแทบจะตลอด 24 ชั่วโมงต่อวัน และตลอด 5 วันต่อสัปดาห์ CFD เป็นอีกเครื่องมือตัวหนึ่งที่เปิดให้เทรดเดอร์ทำการซื้อขายสินค้าตัวนี้ได้ตลอดเวลาตามการซื้อขายในตลาดโลกโดยที่ไม่มีข้อจำกัดใด ๆ ทั้งสิ้น จึงเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับเทรดเดอร์ด้วยเวลาการเทรดที่ยืดหยุ่น
ทั้งนี้การเทรดทองออนไลน์ด้วย CFD ก็ยังมีข้อจำกัดอยู่ เช่น อัตราทด (Leverage) ที่เป็นจุดเด่นของเครื่องมือนี้เป็นได้ทั้งโอกาสและความเสี่ยง คือสามารถช่วยเพิ่มขยายผลกำไรเช่นเดียวกันกับผลขาดทุน ดังนั้น นักลงทุนควรบริหารความเสี่ยงให้ดีๆ เช่น หลีกเลี่ยงใช้เลเวอเรจสูงเกิน, ใช้เครื่องมือจัดความเสี่ยงต่างๆ อาทิ stop loss / trailing stop และ เลือกโบรกเกอร์ที่อำนวยระบบป้องกันยอดคงเหลือติดลบ(จะทำให้ยอดคงเหลือของคุณไม่มีวันจะติดลบได้) เป็นต้น
และการเทรด CFD ยังมีค่าคอมมิสชั่นจากสเปรดราคาซึ่งอาจจะถูกหรือแพงขึ้นอยู่กับแต่ละโบรกเกอร์กำหนด ดังนั้นการเลือกโบรกเกอร์สำหรับการเทรดทองคำออนไลน์ด้วย CFD ยังเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องเลือกให้ดี
ปัจจุบันมีโบรกเกอร์ CFD มากมายในตลาดให้เลือกใช้ แต่เทรดเดอร์ยังต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของเงินทุน ความสะดวก และต้นทุนการเทรดก่อนตัดสินใจเลือกโบรเกอร์สักโบรกหนึ่งมาเป็นพาร์ทเนอร์ด้วย หลักเกณ์ในการเลือกโบรกเกอร์ CFD มีดังนี้
● ความน่าเชื่อถือ ความน่าเชื่อถือของโบรกเกอร์ CFD เป็นหลักการแรกในการเลือกโบรกเกอร์ เงินทุนของคุณจะได้ฝากถอนปกติและไม่ต้องกังวลเรื่องโดนโกง หรือโบรกเกอร์หนี ● ค่าคอมมิชชั่น&สเปรด สองอย่างนี้เป็นต้นทุนอย่างหนึ่งในการเทรดและนักลงทุนไม่ควรมองข้ามเลย เพราะถึงจะเป็นจำนวนเล็กน้อยแต่การซื้อขายหลายครั้งจะทำให้จำนวนน้อย ๆ นี้กลายเป็นต้นทุนที่มากขึ้นได้ ● อินเตอร์เฟซ อินเตอร์เฟซที่เข้าถึงง่าย ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อนจะทำให้กระบวนการเทรดรวดเร็วและราบรื่นมากขึ้น ● เครื่องมือต่างๆ โบรกเกอร์ที่ดีจะอำนวยเครื่องมือต่างๆ ให้ใช้ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องมือช่วยเทรดหรือเครื่องมือจัดความเสี่ยง ● บริการลูกค้า เพราะเป็นไปไม่ได้เลยที่การเทรดทุกอย่างจะราบรื่นไปได้ตลอด การบริการลูกค้าหรือช่วงเวลาให้บริการจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ควรจะสามารถบริการลูกค้าได้ทันท่วงที และเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ต้องดูเช่นกัน ● บัญชีเทรดทดลอง บางโบรกจะมีบัญชีให้ทดลองเทรดเพื่อให้นักลงทุนคุ้นเคยตลาด CFD และฝึกฝนทักษะการเทรดโดยไม่ต้องวางเงินจริง ซึ่งอันนี้สำคัญมากต่อนักลงทุนมือใหม่ ● โปรโมชั่น นักลงทุนควรศึกษาโปรโมชั่นโดยเฉพาะโปรโมชั่นสำหรับผู้เปิดบัญชีใหม่และโปรโมชั่นฝากเงิน เพื่อไม่ให้เสียโอกาสที่ควรได้ไป |
ซึ่งเราพร้อมที่จะเสนอโบรกเกอร์ CFD สัญชาติออสเตรเลีย - MiTrade ให้กับนักลงทุนทุกท่านแล้ว!!
���
ทำไมถึงเทรดกับ MiTrade
★ MiTrade เป็นโบรกเกอร์สัญชาติออสเตรเลียที่ให้บริการ CFD (สัญญาซื้อขายส่วนต่าง) ที่น่าเชื่อถือและไว้วางใจได้ เนื่องจาก MiTrade ได้รับอนุญาตและอยู่ภายใต้การควบคุมของ Australian Securities and Investments Commission (ASIC) และถือ Australian Financial Services Licence (AFSL 398528) การซื้อขายและการจัดการต่าง ๆ จะอยู่ภายใต้ข้อกำหนดของทาง ASIC(วิธีการตรวจโบรกเกอร์ CFD)
และเงินทุนของท่านจะถูกเก็บแยกไว้ในบัญชีประเภททรัสต์ภายใต้ข้อกำหนดของประเทศออสเตรเลีย
★ มีระบบป้องกันยอดคงเหลือติดลบและเครื่องมือจัดการความเสี่ยงต่างๆ ให้ใช้ฟรี
★ มีแพลตฟอร์มการเทรดที่พัฒนาขึ้นมาเอง เน้นประโยชน์การใช้งานที่เรียบง่าย เหมาะกับเทรดเดอร์มือใหม่อย่างมาก
★ มีฝ่ายบริการลูกค้าให้บริการ 24 ชั่วโมง 5 วันทำการเพื่อแก้ปัญหาและให้คำแนะนำ
★ ขนาดขั้นต่ำ 0.01 ล็อด
★ เงนฝากขั้นต่ำ $50 USD
★ เลเวอเรจในการเทรดทอง 1:100
★ ค่าคอมมิชชั่น 0 และสเปรดต่ำ
1 เปิดบัญชี
การเปิดบัญชีกับ Mitrade จะง่ายและไวมาก ทำออนไหลน์ได้หมดภายในไม่กี่นาที ขอแค่มีบัตรประชาชน บัตรธนาคารก็พอ สำหรับเทรดเดอร์มือใหม่ Mitrade มีบัญชีเทรดทดลองพร้อมเงินเสมือน 50, 000 USD อยู่ในบัญชีเพื่อให้เทรดเดอร์ฝึกฝนทักษะการเทรดอย่างไม่มีความเสี่ยงใดๆ
2 ฝากเงินเข้าบัญชี
แต่ละโบรกเกอร์มีวิธีฝากเงินเข้าบัญชีแตกต่างกันไป เพื่อให้ง่ายสำหรับเทรดเดอร์ไทยอาจเลือกโบรกที่สนับสนุนการโอนเงินผ่านธนาคารไทยเป็นตัวเลือกที่ดี นอกจากนี้จำนวนเงินที่โอนเข้าไปก็มีความสำคัญ เพราะ CFD เป็นเครื่องมือที่ใช้อัตราทด (Leverage) และใช้เงินทุนน้อย ดังนั้นอาจโอนเงินเข้าพอร์ตแค่ส่วนหนึ่งของเงินที่ต้องการลงทุนทั้งหมดก็เพียงพอแล้ว Mitrade ได้เสนอช่องทางการฝากเงินหลากหลาย รวมถึงธนาคารไทยออนไลน์และ QR code ด้วย
3 หาโอกาสทำการซื้อขาย
หลังจากบัญชีพร้อมสำหรับการเทรดแล้วเทรดเดอร์ควรใช้ข้อมูล เครื่องมือหรืออินดิเคเตอร์ทางเทคนิคต่างๆ เพื่อเป็นแนวทางในการซื้อขายและวิเคราะห์หาจุดเปิดสถานะที่มีความได้เปรียบที่สุด เทรดเดอร์สามารถเปิดคำสั่งซื้อหรือคำสั่งขายตามความคาดการณ์ หากมองว่ากราฟจะเพิ่มขึ้นก็เปิดคำสั่งซื้อ ในตรงกันข้าม หากมองว่ากราฟจะลดลงก็เปิดคำสั่งขาย โดยปริมาณขั้นต่ำในการเทรดทองที่ Mitrade จะต่ำถึง 0.01 ล็อต มาร์จิ้น 1% และเลเวอเรจสูงถึง 100 เท่า
4 เฝ้ารอและปิดสถานะ
เมื่อเปิดสถานะสัญญาแล้วนักลงทุนยังต้องติดตามการเคลื่อนไหวราคาและรอปิดสัญญาเพื่อทำกำไรหรือตัดขาดทุน ด้วยฟังก์ชั่นที่อำนวยความสะดวกให้กับนักลงทุน ทำให้นักลงทุนสามารถตั้งราคารอปิดสัญญาหรือปรับเปลี่ยนราคาได้ตลอดเวลาโดยมีการตั้งจุด stop loss หรือ trailing stop เพื่อควบคุมความเสี่ยงของสถานะการลงทุนทุกครั้ง
การเทรดทองคำมีหลายปัจจัยที่ต้องคำนึงและมีหลายวิธีให้เลือกใช้ เทรดเดอร์แต่ละคนอาจเลือกวิธีที่คิดว่าเหมาะกับตัวเอง หรือใช้หลาย ๆ วิธีประกอบกันก็ได้ และคราวนี้ผู้เขียนได้รวบรวมวิธีเทรดทองออนไลน์ในหลาย ๆ แบบมาให้เพื่อน ๆ ได้ลองเลือกใช้กัน
1. เทรดด้วยปัจจัยพื้นฐาน (Fundamental Analysis)
ทองคำนั้นไม่เหมือนกับหุ้นหรือสินค้าโภคภัณฑ์อย่างน้ำมัน เพราะไม่มีราคาในตัวเอง ราคาของทองคำขึ้นอยู่กับความหายากและความเชื่อมั่นของนักลงทุน การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและหาราคาที่เหมาะสมอย่างการวิเคราะห์หุ้นนั้นไม่สามารถใช้กับทองคำได้ เราจึงวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานที่ส่งผลให้ราคาของทองคำเปลี่ยนแปลงไปเท่านั้น และปัจจัยพื้นฐานที่ทำให้ทองคำปรับตัวขึ้นได้แก่
- อัตราเงินเฟ้อ หากย้อนข้อมูลเก่ากลับไปจะพบว่าอัตราเงินเฟ้อมีความสัมพันธ์กับราคาทองคำอย่างมีนัยยะ ส่วนหนึ่งเพราะทองคำมีการซื้อขายด้วยเงินดอลลาร์ การเกิดเงินเฟ้อหมายถึงมูลค่าของเงินดอลลาร์กำลังเสื่อมลง ทำให้ต้องใช้เงินในจำนวนมากขึ้นเพื่อซื้อทองคำเท่าเดิม การเกิดเงินเฟ้อจึงเป็นผลให้ราคาทองคำปรับสูงขึ้นไปโดยปริยาย อีกเหตุผลหนึ่งเป็นเพราะทองคำมีฐานะเป็น safe haven ช่วยรักษาความมั่งคั่ง ในเวลาที่เกิดเงินเฟ้อคนมักหันไปถือทองคำทดแทน ทำให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นในอีกทางหนึ่ง
- วิกฤตเศรษฐกิจ ความไม่มีเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ การที่ประเทศหนึ่งจะเข้าสู่วิกฤตเศรษฐกิจนั่นหมายถึงค่าเงินของประเทศนั้นจะเสื่อมค่าลงและทำให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นโดยเปรียบเทียบ นอกจากนี้ราคาของทองคำยังมักจะปรับตัวขึ้นเมื่อเกิดความไม่มีเสถียรภาพหรือความไม่เชื่อมั่นของนักลงทุน (risk off) อย่างเช่นช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ทำให้ทั้งดอลลาร์และทองคำปรับตัวสูงขึ้นในทางเดียวกัน เพราะทั้งคู่ต่างก็มีสถานะเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยเหมือนกัน
- ดอลลาร์อ่อนค่า เพราะทองคำในตลาดโลกซื้อขายด้วยสกุลเงินดอลลาร์ การอ่อนค่าของดอลลาร์เป็นผลโดยตรงทำให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น ยกเว้นก็แต่ในสถานการณ์ที่นักลงทุนต่าง risk off ที่ทั้งทองคำและดอลลาร์จะปรับตัวไปในทางเดียวกันได้
2. เทรดด้วยปัจจัยด้านช่วงเวลา (Seasonality Trading)
การเทรดด้วยปัจจัยด้านช่วงเวลาเป็นการกลับไปวิเคราะห์ข้อมูลย้อนหลังและดูว่าดีมานด์ของทองคำมีปัจจัยด้านช่วงเวลาเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ และพบว่าราคาของทองคำมักจะปรับตัวขึ้นในช่วงเดือนสิงหาและกันยาของปีจึงเป็นช่วงที่เหมาะสำหรับการซื้อทองคำ และช่วงกุมภาและกรกฎาของปีมักจะเป็นช่วงที่ราคาทองคำปรับตัวลงจึงเป็นช่วงที่เหมาะสำหรับการขาย แต่ปัจจัยด้านช่วงเวลาแบบนี้ไม่จำเป็นต้องเป็นจริงเช่นนั้นทุกปีเสมอไป ควรดูเป็นเพียงไกด์ไลน์เท่านั้น
3. เทรดด้วยปัจจัยทางเทคนิค (Technical Analysis)
การวิเคราะห์ทางเทคนิคคือการวิเคราะห์รูปแบบการเคลื่อนไหวของราคาที่ผ่านมาเพื่อพยากรณ์การเคลื่อนไหวของราคาในอนาคต การวิเคราะห์ทางเทคนิคยังแตกแขนงไปอีกหลายวิธี แต่ในที่นี้เราของแนะนำอย่างคร่าว ๆ 3 วิธีที่ง่ายและใช้กันบ่อย ได้แก่
3.1 เทรดตามเทรนด์ (Trend Trading) วิธีนี้เป็นการหาแนวโน้มของราคาและใช้แนวโน้มให้เป็นประโยชน์ เทรดเดอร์บางคนใช้การทำ Higher High, Higher Low เพื่อกำหนดเทรนด์, บางคนใช้ราคาปิดของเดือนสูงกว่าราคาราคาสูงสุดในรอบหกเดือน หรือบางคนอาจใช้ Moving Average ในการกำหนดแนวโน้ม แตกต่างกันไป แต่ทั้งหมดนี้ก็สามารถนำมาใช้กำหนดกลยุทธ์
- เทรดตามเทรนด์ (Trend Trading Strategy) คือการเทรดไปตามแนวโน้ม ที่ตลาดกำลังเป็นอยู่ เช่น หามองว่าราคาเป็นขาขึ้น เทรดเดอร์จะใช้กลยุทธ์ Long เป็นหลักเพื่อให้สถานะไหลไปกับแนวโน้ม ในทางตรงกันข้ามหากมองว่าราคาเป็นขาลงก็จะใช้กลยุทธ์ Short เป็นหลัก
- เทรดเมื่อเกิดการเปลี่ยนเทรนด์ (Trading Breakouts Strategy) เป็นการจับจุดที่เกิดการเปลี่ยนแปลงแนวโน้มและเปิดสถานะที่ต้นเทรนด์ใหม่ วิธีนี้ราคาทองคำที่เพิ่งเปลี่ยนเทรนด์จะมีการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วและรุนแรง จะมีความผันผวนมาก แต่เทรดเดอร์หากจับจังหวะได้ก็จะสามารถเปิดสถานะได้ในจุดที่ได้เปรียบที่สุด
3.2 เทรดบนความผันผวน (Volatitily Trading) วิธีนี้จะเป็นกลยุทธ์ที่อยู่บนพื้นฐานที่ว่าราคาทองคำที่เคลื่อนไหวอยู่ในแต่ละวันจะมีค่าเฉลี่ยอยู่ และเมื่อราคาเบี่ยงเบนไปจากค่าเฉลี่ยหรือเกิดความผันผวน ราคาก็จะปรับตัวกลับเข้ามาสู่ค่าเฉลี่ยในที่สุด วิธีนี้เทรดเดอร์อาจใช้อินดิเคเตอร์ ADR หรือ Moving Average หรือ Bollinger Band ก็ได้ แต่ไม่ควรใช้อินดิเคเตอร์หลายตัวประกอบกันเพราะจะให้สัญญาณขัดแย้งกันได้
3.3 เดย์เทรด (Day Trading) วิธีนี้เทรดเดอร์หลายท่านอาจจะรู้จักดี เพราะเป็นวิธีเทรดที่เห็นผลรวดเร็วที่สุด และไม่จำเป็นต้องเสียค่าสว็อปเพิ่มเติมอีกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งทองคำเป็นสินค้าที่ราคาผันผวนและมีสภาพคล่องสูง ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่เอื้อต่อการเทรดอย่างยิ่ง และสำหรับเทรดเดอร์ที่สนใจเดย์เทรดควรเทรดตามเทรนด์ใหญ่ไว้ก่อน และควรมีจุด take profit และ Stop loss กำกับการเปิดสถานะทุกครั้งเพื่อป้องกันความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นได้
ช่วงเวลาที่ทองคำมีความผันผวนและสภาพคล่องสูงเหมาะกับการเทรดทองมากที่สุดของวันมักเป็นช่วง 12.00-16.00 น. ตามเวลาในลอนดอน ประเทศอังกฤษ
ทองคำเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมจากนักลงทุนทั่วโลก การเทรดทองออนไลน์ไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่หลาย ๆ คนคิด แต่คำถามที่ว่าจะเทรดทองออนไลน์ที่ไหนดี? ก็ยังเป็นคำถามที่เทรดเดอร์จำเป็นต้องให้ความสำคัญ เพราะนั่นหมายถึงความปลอดภัยของเงินทุนและความสะดวกสบายต่าง ๆ ที่โบรกจะสนับสนุนให้ และส่วนที่ยากและอาจเป็นขั้นตอนที่น่ากลัวที่สุดสำหรับมือใหม่หัดเทรดทองออนไลน์ก็คงหนีไม่พ้นการเริ่มต้นนั่นเอง แต่หากผ่านจุดนี้ไปได้ ฝึกซ้อมมือหาประสบการณ์บ่อย ๆ หมั่นคิดวิเคราะห์ติดตามข่าวสาร เพียงแค่นี้ความสำเร็จในการเทรดทองออนไลน์ในส่วนที่เหลือก็ไม่ใช่เรื่องที่ยากจนเกินไปแล้ว
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
คำเตือนเกี่ยวกับความเสี่ยง: การซื้อขายอาจทำให้คุณสูญเสียเงินทุนทั้งหมด การซื้อขายอนุพันธ์แบบ OTC อาจไม่เหมาะสำหรับทุกคน โปรดพิจารณาเอกสาร PDS, FSG, คำชี้แจงการเปิดเผยความเสี่ยงและข้อตกลงลูกค้าก่อนใช้บริการของเรา และตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โปรดทราบว่าคุณไม่ได้เป็นเจ้าของหรือมีผลประโยชน์ใด ๆ ในสินทรัพย์อ้างอิง