เทรดทองโบรกไหนดีสำหรับคนไทย 2023?

ขึ้นชื่อว่าเป็นนักลงทุนแล้วก็เป็นธรรมดาที่จะอยากให้เงินลงทุนของตัวเองเติบโต สิ่งสำคัญนอกจากการเลือกสินทรัพย์และกลยุทธ์ที่เหมาะสมแล้วบัดดี้อย่างโบรกเกอร์ก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน ปัจจุบันโบรกเทรดทองคำในไทยยังมีไม่มากนัก แต่ด้วยการขยายโอกาสจากการสื่อสารที่เชื่อมโยงถึงกันทำให้โบรกเทรดทองต่างประเทศกลายมาเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ และหากนักลงทุนยังมีคำถามคาใจที่ว่าสำหรับคนไทยโบรกเกอร์ทองคําไหนดี? คราวนี้เราก็จะพาไปทำความรู้จักโบรกเกอร์เทรดทองจากต่างประเทศทั้ง 10 แห่งที่เราเลือกสรรมา รับรองว่าบทความนี้ช่วยหาคำตอบได้แน่นอน

โบรกเกอร์ไม่ได้มีหน้าที่แค่การเป็นผู้จับคู่สถานะสัญญาซื้อขาย แต่ว่ายังเป็นคนเก็บรักษาเงินลงทุน จัดเตรียมแพลตฟอร์มและระบบเทรด ให้บริการข่าวสาร รวมถึงตอบคำถามในช่วงที่นักลงทุนเกิดปัญหาจนเรียกได้ว่าโบรกเกอร์แทบจะไม่ต่างกับบัดดี้ของนักลงทุนเลย ดังนั้นในการเลือกโบรกเกอร์เทรดทองคำนักลงทุนก็จำเป็นต้องคำนึงถึงปัจจัยสำคัญอย่าง

  ●   การควบคุมกำกับดูแล เพราะเงินลงทุนของนักลงทุนเป็นสิ่งสำคัญ โบรกเกอร์ที่นักลงทุนจะตัดสินใจฝากเงินและผลกำไรไว้ด้วยจำเป็นต้องมีความน่าเชื่อถือ ได้รับการอนุญาต และมีการตรวจสอบจากทางการอย่างจริงจังเพื่อให้นักลงทุนมั่นใจว่าที่สุดแล้วสามารถถอนเงินทุนและผลกำไรออกมาได้ตามที่ต้องการ

  ●   ค่าคอมมิสชั่น&สเปรด สองอย่างนี้เป็นต้นทุนอย่างหนึ่งในการเทรดทองและนักลงทุนไม่ควรมองข้ามเลย เพราะถึงจะเป็นจำนวนเล็กน้อยแต่การซื้อขายหลายครั้งจะทำให้จำนวนน้อย ๆ นี้กลายเป็นต้นทุนที่มากขึ้นได้

  ●   เครื่องมือฟรีช่วยเทรดต่าง ๆ เป็นการอำนวยความสะดวกและช่วยให้นักลงทุนตัดสินใจได้แม่นยำขึ้น

  ●   ภาษา โบรกเกอร์ส่วนใหญ่เป็นบริษัทจากต่างประเทศ การสนับสนุนภาษาไทยจึงเป็นอีกส่วนที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับนักลงทุนไทยมากขึ้น

  ●   บริการลูกค้า เพราะเป็นไปไม่ได้เลยที่การเทรดทุกอย่างจะราบรื่นไปได้ตลอด การบริการลูกค้าหรือช่วงเวลาให้บริการจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ควรจะสามารถบริการลูกค้าได้ทันท่วงที และเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ต้องดูเช่นกัน

  ●   บัญชีเทรดทดลอง บางโบรกจะมีบัญชีให้ทดลองเทรดโดยไม่ต้องวางเงินจริงเป็นการอำนวยความสะดวกให้นักลงทุนอย่างหนึ่ง

นาทีนี้ไม่มีสินทรัพย์ไหนน่าสนใจไปกว่าทองคำอีกแล้ว แต่โบรกทองคำในไทยที่ได้รับความนิยมมักจะเป็นโบรกที่มีความเชี่ยวชาญจากต่างประเทศทำให้อาจเป็นอุปสรรคกับนักลงทุนไทยอยู่บ้าง ทั้งด้านภาษาและเครื่องมือที่ไม่เหมือนกับที่นักลงทุนเคยใช้เทรดหุ้นไทย ดังนั้นในการเลือกโบรกที่จะมาเป็นบัดดี้จึงจำเป็นต้องหาข้อมูลให้รอบคอบ และเราได้ทำการคัดสรรโบรกเกอร์เทรดทองคำทั้ง 10 แห่งมาให้นักลงทุนได้เลือกใช้กัน ได้แก่

1 MiTrade 

『การควบคุมกำกับดูแล』

MiTrade เป็นโบรกชั้นนำจากออสเตรเลีย มีความเชี่ยวชาญและให้บริการซื้อขายสินทรัพย์หลากหลายรวมถึงทองคำด้วย โบรกนี้อยู่ภายใต้การควบคุมและกำกับดูแลของหลายหน่วยงานด้านการเงินที่มีอำอาจในอุตสาหกรรม รวมถึง สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และการลงทุนของออสเตรเลีย(ASIC) และถือใบอนุญาต AFSL หมายเลขที่ 398528, หน่วยงานด้านการเงินของเกาะเคย์แมน (CIMA) ด้วยใบอนุญาต SIB เลขที่ 1612446 และคณะกรรมการบริการด้านการเงินมอริเชียส (FSC) หมายเลขใบอนุญาต GB20025791 ทำให้ได้รับความมั่นใจจากนักลงทุนทั่วโลกว่าเงินทุนของท่านจะถูกเก็บแยกไว้ในบัญชีประเภททรัสต์ภายใต้ข้อกำหนด และมีการตรวจสอบจากภายนอกอย่างสม่ำเสมอ >>>เช็ครายละเอียดได้ที่นี่

『รางวัล』

ด้วยเครื่องมือและบริการที่เอื้อให้เทรดเดอร์ทำการซื้อขายได้อย่างเรียบง่ายแต่ทรงประสิทธิภาพทำให้ MiTrade กลายเป็นโบรกที่นักลงทุนทั่วโลกเลือกใช้ การันตีได้จากการที่ MiTrade ได้รับรางวัล โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ Fintech ที่ดีที่สุดในเอเชียจาก Global Forex Awards 2021 แอปพลิเคชั่นมือถือที่ดีที่สุด 2021 โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่ดีที่สุดในเอเชีย 2021 โบรกเกอร์ที่เติบโตเร็วที่สุด 2021 และอีกมากมาย >>>เช็ครายละเอียดได้ที่นี่

『เครื่องมือช่วยเทรดต่างๆ 』

ขณะที่ MiTrade เสนอทั้งเครื่องมือช่วยจัดการความเสี่ยงอย่าง stop loss / trailing stop, ระบบป้องกันยอดคงเหลือติดลบ, มีกราฟราคาเรียลไทม์, รายงานข้อมูลปฏิทินเศรษฐกิจ, รายงานตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นโดยรวม, มีการอัปเดทกลยุทธ์และมุมมองการลงทุนอย่างรอบด้านและทันท่วงที ทั้งยังมีระบบแจ้งเตือนข่าวสารผ่านอีเมล์ SMS และแอพพลิเคชั่นบนมือถือแบบเรียลไทม์ให้ใช้ฟรีอีกด้วย เรียกได้ว่าแทบจะเป็นทุกอย่างให้นักลงทุนแล้วจริง ๆ 

『แพลตฟอร์มการเทรด』

ถ้าจะถามถึงจุดเด่นสุด ๆ ของโบรกนี้ก็คงหนีไม่พ้นแพลตฟอร์มการเทรดที่สนับสนุนทั้งผ่านการเทรดผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์และแอปพลิเคชั่นบนมือถือ แพลตฟอร์มนี้เป็นเทคโนโลยีที่ทางโบรกพัฒนาขึ้นมาเองแทนที่จะใช้แพลตฟอร์มมาตรฐานของ Metatrader อย่าง MT4 หรือ MT5 ที่เป็นแพลตฟอร์มสำหรับนักลงทุนมืออาชีพและมีฟังก์ชั่นซับซ้อนให้เลือกใช้และอาจทำให้ผู้ใช้รู้สึกตื่นเต้นและประหม่าจนพลาดช็อตสำคัญได้

แพลตฟอร์มของ MiTrade ถูกพัฒนาขึ้นมาจากนักเทรดและประสบการณ์ของเทรดเดอร์จึงเน้นประโยชน์การใช้งานที่เรียบง่าย ไม่ซับซ้อน แต่ก็ตอบสนองความต้องการของนักเทรดได้อย่างครบถ้วนในแบบ minimal ที่เพียบพร้อมด้วยฟังก์ชั่นการใช้งานอย่างแท้จริง

『บริการลูกค้า』

สำหรับการให้บริการ MiTrade มีฝ่ายบริการลูกค้าให้บริการด้วยภาษาไทยคอยให้คำแนะนำตลอด 24 ชั่วโมง ตลอด 5 วันทำการ ซึ่งเป็นตัวช่วยที่ดีมากในกรณีที่นักลงทุนเกิดปัญหาในช่วงเวลาฉุกเฉินก็จะมีเจ้าหน้าที่คอยแก้ปัญหาให้ได้อย่างทันท่วงที เมื่อบวกรวมกับข้อมูลบนเว็บไซต์และข่าวสารที่สนับสนุนภาษาไทย รวมถึงช่องทางการฝากถอนเงินที่นักลงทุนทำผ่านธนาคารไทยได้ก็ทำให้โบรกนี้กลายเป็นตัวเลือกที่ดีมากสำหรับนักลงทุนทองคำในไทยที่จะคอยช่วยอำนวยความสะดวกให้กับนักลงทุนได้อย่างเต็มที่

『ค่าคอมมิชชั่น & สเปรด』

MiTrade เป็นโบรกที่ให้บริการโดยที่ไม่มีค่าคอมมิสชั่น ไม่มีค่าใช้จ่ายเปิดบัญชี ไม่มีค่าธรรมเนียมการฝากเงินหรือค่าใช้จ่ายอื่นใด แต่จะคิดค่าธรรมเนียมจากสเปรดซื้อขายที่อยู่ในระดับต่ำจึงไม่เป็นภาระต้นทุนกับนักลงทุนนัก 

『บัญชีเทรดทดลอง』

เทรดเดอร์มือใหม่ยังทดลองใช้บัญชีทดลอง (Demo) เพื่อซ้อมมือด้วยวงเงินเสมือนจริง $50,000 USD ฟรีอีกด้วย

2 IC Markets 

เป็นโบรกเกอร์สัญชาติออสเตรเลียที่นักลงทุนไทยคงจะคุ้นเคยกับชื่อดีเพราะเป็นอีกโบรกเกอร์หนึ่งที่ให้บริการในรูปแบบภาษาไทยแล้ว IC Markets ให้บริการซื้อขายสินค้าหลากหลาย เช่นเดียวกันก็ให้บริการซื้อขายทองคำด้วย

โบรกนี้ได้รับการกำกับดูแลโดย ASIC, CySec, FSA และมีแพลตฟอร์มให้นักลงทุนเลือกหลากหลายทั้ง MT4, MT5 และ cTrader 

สำหรับค่าธรรมเนียม IC Market ให้บริการแบบมีค่าคอมมิสชั่นโดยแลกกับสเปรดต่ำ ทำให้นักลงทุนที่สนใจเปิดบัญชีจำเป็นต้องชั่งน้ำหนักก่อนเลือกใช้ เพราะค่าคอมมิสชั่นจะกลายเป็นต้นทุนหนึ่งในการเทรดของนักลงทุนในที่สุด

3 FXTM 

FXTM เป็นอีกโบรกเกอร์หนึ่งที่ให้บริการซื้อขายสินค้าทั้งค่าเงิน สกุลเงินดิจิตอล ทองคำ น้ำมัน ดัชนี และหุ้น ภายใต้การกำกับดูแลจาก FCA, CySec, FSCA และ FSC

สำหรับการเทรด FXTM ให้บริการบนแพลตฟอร์ม MT4 และ MT5 ที่ใช้ได้กับทั้งบนหน้าจอคอมพิวเตอร์และแอปพลิเคชั่นบนมือถือ ด้วยสเปรดราคากลาง ๆ แต่มีการให้บริการและสนับสนุนภาษาไทยแล้ว รวมถึงให้บริการฝากถอนเงินผ่านธนาคารไทย รวมถึงบัตรเครดิตและบัตรเดบิตด้วยเช่นกัน ซึ่งนับเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับนักเทรดทองคำไทยเป็นอย่างดี

4 eToro 

eToro เป็นโบรกเกอร์ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ FCA และ CySec จึงได้รับการดูแลเงินทุนอย่างปลอดภัย ให้บริการซื้อขายสินค้าหลายชนิดรวมถึงเทรดทองคำ ไม่มีคอมมิสชั่น มีสเปรดระดับกลาง ๆ ที่จะเป็นต้นทุนระดับหนึ่ง 

สำหรับการให้บริการ eToro ให้บริการด้วยแพลตฟอร์ม MT4 ใช้ได้ทั้งบนเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่นบนมือถือ ปัจจุบัน eToro เข้ามาบุกตลาดไทยและมีเว็บไซต์สนับสนุนภาษาไทยแล้วด้วยเช่นกัน

5 exness     

Exness เป็นบริษัทที่จดทะเบียนในอังกฤษและเวลส์ เป็นโบรกเกอร์ที่มีประสบการณ์ให้บริการซื้อขายสินทรัพย์ทางการเงินมายาวนาน ได้รับการกำกับดูแลโดย CySEC, FCA และ FSA ให้บริการซื้อขายสินค้าหลากหลายทั้งสกุลเงิน สินค้าโภคภัณฑ์ หุ้น/อินเด็กซ์ รวมทั้งการเทรดทองคำ

ด้านการให้บริการ exness ให้บริการด้วยสเปรดราคาต่ำและคงที่ ไม่มีค่าคอมมิสชั่นและมีบัญชีหลากหลายประเภทให้เลือกใช้ ให้บริการบนแพลตฟอร์ม MT4, MT5 และ Exness Trader ปัจจุบัน exness ให้บริการเป็นภาษาไทยแล้ว จึงเป็นอีกโบรกหนึ่งที่น่าจะอำนวยความสะดวกให้นักลงทุนเทรดทองคำได้เป็นอย่างดี

6 Pepperstone     

Pepperstone เป็นอีกโบรกชื่อดังสัญชาติออสเตรเลียที่เป็นที่รู้จักสำหรับนักลงทุนทั่วโลก อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ FCA และ ASIC ให้บริการซื้อขายสินทรัพย์หลากหลายประเภทรวมถึงการเทรดทองคำ และเป็นที่รู้จักสำหรับนักลงทุนในฐานะผู้สนับสนุนทุกย่างก้าวของนักลงทุนและให้บริการด้วยความรวดเร็ว

โบรกนี้เสนอแพลตฟอร์มการเทรด MT4, MT5 และ cTrader ให้บริการทั้งบนเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่นบนมือถือ ไม่มีค่าคอมมิสชั่นและสเปรดต่ำ ปัจจุบัน Pepperstone ให้บริการเป็นภาษาไทยพร้อมเสนอช่องทางฝากถอนเงินผ่านธนาคารไทยแล้ว จึงเป็นตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ

7 Avatrade     

Avatrade เป็นโบรกที่ได้รับการกำกับดูแลจากประเทศไอร์แลนด์ ออสเตรเลีย แคนนาดา ญี่ปุ่นและแอฟริกาใต้ ภายใต้ CBoI, ASIC และ FSB ให้บริการซื้อขายสินทรัพย์หลายประเภทรวมถึงการเทรดทองคำ

Avatrade ให้บริการซื้อขายบนแพลตฟอร์ม AvaTrade และ MT4 ให้บริการทั้งบนเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่นบนมือถือด้วยสเปรดการซื้อขายต่ำ มีฝ่ายบริการลูกค้าทุกวันตลอด 24 ชั่วโมงและสนับสนุนภาษาไทยแล้ว ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าเทรดทองคนไทยได้เป็นอย่างดี

8 IG 

IG เป็นโบรกเกอร์ที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ในอังกฤษ และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ลอนดอนภายใต้บริษัทแม่ IG Group เมื่อบวกรวมกับการได้รับการกำกับดูแลจากสำนักงานกำกับดูแลอย่าง FCA, MAS, CFTC และ NFA ก็ทำให้ IG กลายเป็นโบรกที่นักลงทุนให้ความเชื่อถือสูง ปัจจุบันมีสำนักงานที่ตั้งอยู่ทั้งในอังกฤษและแอฟริกาใต้

หากพูดถึงการให้บริการ IG มีสินค้าให้บริการหลากหลาย โดดเด่นเรื่องการซื้อขายสกุลเงิน แต่การเทรดทองคำก็ยังเป็นที่นิยมเช่นกัน ด้วยสเปรดราคาไม่สูงนัก ไม่มีค่าคอมมิสชั่น มีการให้บริการบนแพลตฟอร์มการเทรดของตัวเองแต่ก็ยังเสนอ MT4, ProRealTime และ APIs ให้ใช้ผ่านทั้งหน้าจอคอมพิวเตอร์และแอปพลิเคชั่นบนมือถือ 

แต่สำหรับ IG ในปัจจุบันยังไม่รองรับภาษาไทย ไม่สนับสนุนการฝากถอนเงินผ่านธนาคารไทยจึงอาจเป็นอุปสรรคต่อนักเทรดทองคำไทยอยู่บ้าง ทั้งเรื่องช่วงเวลาให้บริการ การฝากเงิน รวมถึงฝ่ายบริการลูกค้า นักลงทุนควรชั่งน้ำหนักและพิจารณาความต้องการของตนเองก่อนตัดสินใจ

9 Plus 500 

Plus 500 เป็นอีกโบรกเกอร์ที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ในลอนดอนประเทศอังกฤษ ให้บริการซื้อขายหุ้น สกุลเงิน และสินทรัพย์อีกหลากหลายรวมถึงทองคำ ด้วยการแสดงตัวว่าเป็น World’s Trading Machine ทำให้ Plus 500 มีจุดเด่นเรื่องเครื่องมือที่ช่วยสนับสนุนการเทรด ทั้งเครื่องมือช่วยควบคุมความเสี่ยงอย่าง Stop Limit/ Stop Loss/ Trailing Stop และ Guaranteed Stop รวมถึง Negative balance protection ทำให้นักลงทุนไม่ต้องกังวลการสูญเสียเงินทุนมากกว่าที่วางแผนไว้

มีให้บริการบนแพลตฟอร์มการเทรดของตัวเองที่มีให้เลือกใช้ทั้งบนหน้าจอคอมพิวเตอร์และแอปพลิเคชั่นบนมือถือ ด้วยเสเปรดกลาง ๆ และการควบคุมกำกับดูแลจาก FCA, CySEC, ASIC, MAS, ISA รวมถึงการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน ก็ทำให้โบรเกอร์แห่งนี้ได้รับความมั่นใจและความนิยมจากนักลงทุนทั่วโลก

Plus 500 มีฝ่ายบริการลูกค้าให้คำแนะนำตลอด 24 ชั่วโมงใน 5 วันทำการ แต่ปัจจุบันโบรกเกอร์นี้ยังไม่มีให้บริการสำหรับลูกค้าในประเทศไทย  โบรกไม่ได้สนับสนุนภาษาไทย แต่เน้นการฝากถอนผ่านบัตรเครดิตและ Paypal จึงอาจเป็นอุปสรรคสำคัญสำหรับนักเทรดทองคำไทยที่สนใจเปิดบัญชีพอสมควร

10 FXCM 

FXCM เป็นโบรกเกอร์ที่กำกับดูแลโดย FCA มีสำนักงานใหญ่อยู่ในลอนดอน ให้บริการซื้อขายค่าเงิน สกุลเงินดิจิตอล น้ำมัน รวมถึงเทรดทองคำด้วย โดยให้บริการบนแพลตฟอร์ม Trading Station ของตัวเอง และหากนักลงทุนต้องการใช้ MT4 FXCM ก็มีให้บริการเช่นกัน  สำหรับค่าธรรมเนียม FXCM ไม่มีค่าคอมมิสชั่นหรือค่าธรรมเนียมอื่น สเปรดต่ำ 

แต่ FXCM ก็เป็นอีกโบรกเกอร์หนึ่งที่ถึงแม้จะมีเครื่องมือให้นักลงทุนครบ แต่ก็ยังไม่สนับสนุนภาษาไทย

เพราะโบรกเกอร์เป็นเหมือนบัดดี้ที่จะช่วยสนับสนุนการเทรดทองคำของนักลงทุนให้ประสบความสำเร็จ ไม่ว่าจะด้วย สเปรดราคาที่จะกลายมาเป็นต้นทุน รวมถึงเครื่องมืออย่างแพลตฟอร์มการเทรดและข้อมูลข่าวสารที่จัดหาให้ การเลือกโบรกเกอร์เทรดทองคำทั้งทีจึงทำแบบส่ง ๆ ไปไม่ได้

เมื่อมาถึงตรงนี้ผู้เขียนคาดว่านักลงทุนที่ลงทุนในทองคำที่เคยมีคำถามคาใจอย่างสำหรับคนไทยเทรดทองคำโบรกไหนดี? ก็คงพอจะมีไอเดียในการเลือกโบรกเกอร์กันบ้างแล้ว เมื่อได้โบรกที่เล็งไว้แล้วจะไม่มีประโยชน์เลยหากนักลงทุนทองคำจะทิ้งบัญชีไว้แค่นั้น เพราะการเปิดบัญชี โอนเงิน และเริ่มทำการเทรดยังคงเป็นปัจจัยที่จะทำให้นักลงทุนประสบความสำเร็จในการลงทุนเทรดทองคำในท้ายที่สุด